On 29 April 2010, he retired from t

On 29 April 2010, he retired from the military, along with 22 other military officials, to lead the Union Solidarity and Development Party as a civilian.[18] During the 2010 general election, he was head of the Union Solidarity and Development Party, which contested in a controversial election and won the overwhelming majority of seats in the Pyidaungsu Hluttaw. Thein Sein ran against National Unity Party candidate Kyaw Aye during the election, contesting a Pyithu Hluttaw seat to represent the constituents of Naypyidaw Union Territory's Zabuthiri Township. He purportedly won 91.2% of the votes (65,620).[19]

On 4 February 2011, he was elected by the Pyidaungsu Hluttaw's Presidential Electoral College as the next president of Myanmar, becoming the country's first non-interim civilian president in 49 years. Tin Aung Myint Oo and Sai Mauk Kham were named as the new vice-presidents.[20]

Sein was sworn in on 30 March 2011 alongside the two vice presidents and the newly elected parliament.[21]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วันที่ 29 2553 เมษายน เขาถอนจากทหาร กับ 22 อื่น ๆ เจ้าหน้าที่ทหาร ผู้นำสหภาพเอกภาพและการพัฒนาบุคคลเป็นพลเรือน [18] ระหว่างการเลือกตั้งทั่วไป 2010 เขาถูกหัวหน้าสหภาพเอกภาพและการพัฒนาบุคคล ซึ่งจากทั้งหมดในการเลือกตั้งที่แย้ง และชนะส่วนใหญ่นั่งใน Pyidaungsu Hluttaw Thein Sein วิ่งกับผู้สมัครพรรคสามัคคีแห่งชาติอาย Kyaw ระหว่างเลือกตั้ง contesting นั่ง Pyithu Hluttaw ถึง constituents ของเมืองเนปีดอสหภาพอาณาเขต Zabuthiri เขา purportedly ชนะ 91.2% ของโหวด (65,620) [19]วันที่ 4 2554 กุมภาพันธ์ เขาได้รับเลือกโดยของ Pyidaungsu Hluttaw ประธานาธิบดี Electoral วิทยาลัยเป็นประธานต่อไปของพม่า กลายเป็น ประเทศแรกไม่ใช่ระหว่างกาลพลเรือนประธานในปี 49 อองซาน Myint ดาดีบุกและทรายคำ Mauk ได้ชื่อว่าเป็นประธานาธิบดีรองใหม่ [20]Sein ได้สาบานในวันที่ 30 2554 มีนาคมสองรองประธานาธิบดีและรัฐสภาได้รับเลือกใหม่ [21]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วันที่ 29 เมษายน 2010 เขาลาออกจากทหารพร้อมกับ 22 เจ้าหน้าที่ทหารอื่น ๆ ที่จะนำไปสู่ความเป็นปึกแผ่นยูเนี่ยนและการพัฒนาพรรคเป็นพลเรือน. [18] ในช่วงการเลือกตั้งทั่วไปปี 2010 เขาเป็นหัวหน้าของสหภาพเอกภาพและการพัฒนาพรรค ที่เข้าร่วมแข่งขันในการเลือกตั้งความขัดแย้งและได้รับรางวัลส่วนใหญ่ที่ครอบงำของที่นั่งใน Pyidaungsu Hluttaw เต็งเส่งวิ่งชนผู้สมัครพรรคเอกภาพแห่งชาติ Kyaw Aye ในช่วงการเลือกตั้ง, การแข่งขัน Pyithu Hluttaw ที่นั่งเพื่อเป็นตัวแทนขององค์ประกอบของดินแดนของสหภาพ Naypyidaw Zabuthiri เมือง เขาได้รับรางวัลต้นฉบับ 91.2% ของคะแนน (65620). [19] ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2011 เขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี Pyidaungsu Hluttaw ของวิทยาลัยการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของพม่ากลายเป็นประเทศแรกที่ไม่ใช่ระหว่างกาลประธานพลเรือนใน 49 ปีที่ผ่านมา Tin Aung Myint Oo และ Sai Mauk ขามได้รับการเสนอชื่อเป็นรองประธานใหม่. [20] Sein สาบานว่าใน 30 มีนาคม 2011 พร้อมกับสองรองประธานาธิบดีและรัฐสภาเลือกตั้งใหม่. [21]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในวันที่ 29 เมษายน 2553 เขาเกษียณจากทหาร พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร 22 อื่นๆ เพื่อนำพรรคสหภาพเอกภาพและการพัฒนา ในฐานะพลเรือน [ 18 ] ในช่วง 2010 เลือกตั้งทั่วไป เขาคือหัวหน้าของพรรคสหภาพเอกภาพและการพัฒนา ซึ่งปัญหาในการเลือกตั้งแย้งและจะยุ่งยากส่วนใหญ่ของที่นั่งใน การ pyidaungsu hluttaw .เต็ง เส่ง แข่งกับนายจอว์ ผู้สมัครพรรคชาติสามัคคีได้ในระหว่างการเลือกตั้ง กล่าวหาว่าเป็น pyithu hluttaw ที่นั่งเพื่อแสดงองค์ประกอบของเนปีดอสหภาพอาณาเขตของซาบุติริ ทาวน์ชิป เขา purportedly จะ 91.2 % ของคะแนน ( 65620 ) [ 19 ]

ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 เขาถูกเลือกโดยคณะผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี pyidaungsu hluttaw เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของพม่ากลายเป็นประเทศแรกที่ไม่ใช่ชั่วคราวพลเรือนประธานาธิบดีในปี 49 ปี ติน มิน ุและไซ mauk ขามถูกตั้งชื่อเป็นรองประธานใหม่ [ 20 ]

เซน ได้ปฏิญาณตนในวันที่ 30 มีนาคม 2554 ควบคู่ไปกับสองประธานาธิบดีและการเลือกตั้งรัฐสภาใหม่ [ 21 ]