8. Conclusion The olive oil industr

8. Conclusion
The olive oil industry consists of a large number of companies, most of them small. The entrepreneurs in this
industry do not have adequate training and, given the advanced average age of most farmers, they are unlikely to
obtain the required training in the future.
The problems that exist in contemporary cooperatives require more professional solutions. Olive oil cooperatives
of adequate size should be managed by professionals with the ability to manage with efficiency. Smaller
cooperatives should join together to hire a professional manager.
The cooperatives attached importance to three issues. The first was cost accounting (with a score of 4.39 on a
scale of 5). The second was the possibility of losing subsidies (with a score of 4.12). The third was the
enhancement of export markets (4.09).
The cooperatives do not see a promising future for the industry. In fact, they perceive themselves as becoming
increasingly uncompetitive against the big companies that will dominate the market.
An important contribution of this study is the sector analysis of the behaviour of the cooperatives. Three
segments were identified. The first consists of small cooperatives of local scope, with a closed-mind attitude and
a lack of a professional approach. Most of these did not have a manager. Until now, these cooperatives have
depended on EU subsidies, and they are therefore worried about losing these subsidies. Nevertheless they are not
worried about the sector’s future because they can sell their production to loyal clients. They do not therefore
consider that being associated is important. Nevertheless they worry about new countries entering the EU.
The second segment consists of medium-sized cooperatives with limited scope and limited market focus. This
was the largest segment. These cooperatives are more focused on the market, and they do not see newcomers to
the EU as a threat. Nevertheless, they demonstrate a lack of professional management, despite being in external
markets. They consider that external markets should be enhanced, and that the Internet should be used to access
new markets.
The third group consists of large cooperatives with professional management and an online presence. This is the
smallest group of the sample. They are the largest cooperatives, quite diversified, and with a presence in
international markets. They are worried about losing subsidies. Due to their size, they need more financing and
their projects are more ambitious. They believe that external markets must be enhanced, and they undertake
advertising and marketing campaigns.
Another finding in this study were the factors that determine the behaviour of these segments and the
cooperatives in general. These factors are: (i) orientation towards marketing and quality management; (ii)
perceived risk; and (iii) a closed mind. Analysing the cooperatives’ behaviour with respect to these factors, it
was noted that segment 1 perceives risk in the sector—due to the entry of new countries into the EU and the
attendant risk of losing subsidies and lacking qualified personnel. Segment 3 attaches more importance to
marketing research, Internet presence, enhancing external markets, establishing guarantee of origin, and quality
certification. Segment 2 does not see a threat in the newcomers to the EU; neither do they focus on quality
management or commercialisation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

8. สรุป
อุตสาหกรรมน้ำมันมะกอกประกอบด้วยจำนวนมากของ บริษัท ส่วนใหญ่ของพวกเขาขนาดเล็ก ผู้ประกอบการใน
อุตสาหกรรมไม่ได้มีการฝึกอบรมที่เพียงพอและให้อายุเฉลี่ยขั้นสูงของเกษตรกรส่วนใหญ่พวกเขาไม่น่าจะ
ได้รับการฝึกอบรมที่จำเป็นต้องใช้ในอนาคต.
ปัญหาที่มีอยู่ในสหกรณ์ร่วมสมัยต้องแก้ปัญหามืออาชีพมากขึ้น สหกรณ์น้ำมันมะกอก
ที่มีขนาดเพียงพอควรได้รับการจัดการโดยมืออาชีพที่มีความสามารถในการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่มีขนาดเล็ก
สหกรณ์ควรร่วมกันที่จะจ้างผู้จัดการมืออาชีพ.
สหกรณ์สำคัญที่แนบมากับสามประเด็น เป็นครั้งแรกที่การบัญชีต้นทุน (ด้วยคะแนน 4.39 ใน
ขนาดของ 5) ข้อที่สองคือความเป็นไปได้ของการสูญเสียเงินอุดหนุน (ด้วยคะแนน 4.12) ที่สามคือ
การเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดส่งออก (4.09).
สหกรณ์ไม่เห็นอนาคตสดใสสำหรับอุตสาหกรรม ในความเป็นจริงพวกเขารับรู้ว่าตัวเองเป็นกลายเป็น
uncompetitive มากขึ้นกับ บริษัท ขนาดใหญ่ที่จะครองตลาด.
สนับสนุนที่สำคัญของการศึกษานี้คือการวิเคราะห์ภาคของพฤติกรรมของสหกรณ์ สาม
กลุ่มที่ถูกระบุ แรกประกอบด้วยสหกรณ์ขนาดเล็กของขอบเขตในท้องถิ่นที่มีทัศนคติที่ปิดจิตใจและ
ขาดความเป็นมืออาชีพ เหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้มีผู้จัดการ จนถึงขณะนี้สหกรณ์เหล่านี้ได้
ขึ้นอยู่กับเงินอุดหนุนสหภาพยุโรปและพวกเขาจึงมีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียเงินอุดหนุนเหล่านี้ แต่พวกเขาไม่ได้
กังวลเกี่ยวกับอนาคตของภาคเพราะพวกเขาสามารถขายการผลิตของพวกเขาให้กับลูกค้าที่มีความภักดี พวกเขาไม่ได้จึง
พิจารณาว่าการเชื่อมโยงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตามพวกเขากังวลเกี่ยวกับประเทศใหม่เข้าสู่สหภาพยุโรป.
ส่วนที่สองประกอบด้วยสหกรณ์ขนาดกลางที่มีขอบเขต จำกัด และมุ่งเน้นการตลาด จำกัด นี้
เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุด สหกรณ์เหล่านี้จะเน้นการตลาดและพวกเขาไม่เห็นผู้มาใหม่เพื่อ
สหภาพยุโรปเป็นภัยคุกคาม อย่างไรก็ตามพวกเขาแสดงให้เห็นถึงการขาดการจัดการอย่างมืออาชีพแม้จะอยู่ในภายนอก
ตลาด พวกเขาคิดว่าตลาดภายนอกควรได้รับการปรับปรุงและว่าอินเทอร์เน็ตควรจะใช้ในการเข้าถึง
ตลาดใหม่.
กลุ่มที่สามประกอบด้วยสหกรณ์ขนาดใหญ่ที่มีการจัดการอย่างมืออาชีพและนำเสนอแบบออนไลน์ นี้เป็น
กลุ่มที่เล็กที่สุดของกลุ่มตัวอย่าง พวกเขาเป็นสหกรณ์ที่ใหญ่ที่สุดที่มีความหลากหลายมากและที่มีอยู่ใน
ตลาดต่างประเทศ พวกเขามีความกังวลใจเกี่ยวกับการสูญเสียเงินอุดหนุน เนื่องจากขนาดของพวกเขาที่พวกเขาต้องการเงินทุนมากขึ้นและ
โครงการของพวกเขามีความทะเยอทะยานมากขึ้น พวกเขาเชื่อว่าตลาดภายนอกจะต้องได้รับการปรับปรุงและพวกเขาดำเนิน
การโฆษณาและแคมเปญการตลาด.
การค้นพบในการศึกษาครั้งนี้ก็เป็นปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของกลุ่มเหล่านี้และ
สหกรณ์โดยทั่วไป ปัจจัยเหล่านี้คือ: (i) การวางแนวทางต่อการตลาดและการจัดการที่มีคุณภาพ; (ii)
การรับรู้ความเสี่ยง และ (iii) ปิดใจ การวิเคราะห์พฤติกรรมของสหกรณ์ 'ที่เกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้ก็
ถูกตั้งข้อสังเกตว่าส่วนที่ 1 ส่วนรับรู้ความเสี่ยงในภาคเนื่องจากการเข้ามาของประเทศใหม่ในสหภาพยุโรปและ
ความเสี่ยงของการสูญเสียบริวารเงินอุดหนุนและขาดบุคลากรที่มีคุณภาพ ส่วนงานที่ 3 ให้ความสำคัญมากขึ้นในการ
วิจัยการตลาด, อินเตอร์เน็ท, การเสริมสร้างตลาดภายนอก, การสร้างการรับประกันของการกำเนิดและคุณภาพ
ได้รับการรับรอง ส่วนงานที่ 2 ไม่เห็นภัยคุกคามในผู้มาใหม่ไปยังสหภาพยุโรป; ทั้งที่พวกเขามุ่งเน้นคุณภาพ
การจัดการหรือการค้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

8 . สรุป
อุตสาหกรรมน้ำมันมะกอกประกอบด้วยตัวเลขขนาดใหญ่ของบริษัท ส่วนใหญ่ของพวกเขาเล็ก ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้
ไม่ได้มีการฝึกอบรมที่เพียงพอและให้อายุเฉลี่ยขั้นสูงของเกษตรกรส่วนใหญ่ พวกเขาจะน่า
ขอรับการอบรมในอนาคต
ปัญหาที่มีอยู่ในสหกรณ์ร่วมสมัยต้องการโซลูชั่นที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น น้ำมันมะกอก
สหกรณ์ขนาดเพียงพอควรจะจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถในการจัดการที่มีประสิทธิภาพ สหกรณ์ขนาดเล็ก
ควรจะร่วมมือกันที่จะจ้างผู้จัดการมืออาชีพ
สหกรณ์แนบความสำคัญกับสามประเด็น อย่างแรกคือการบัญชีต้นทุน ( ด้วยคะแนนหรือบน
ระดับ 5 ) สอง คือ ความเป็นไปได้ของการสูญเสียเงินอุดหนุน ( ด้วยคะแนน 4.12 ) ที่สามคือ
การเพิ่มตลาดส่งออก ( 2 )
สหกรณ์ไม่เห็นอนาคตสำหรับอุตสาหกรรม ในความเป็นจริงพวกเขารับรู้ว่าตัวเองเป็นมากขึ้นกับ บริษัท ใหญ่
uncompetitive ที่จะครองตลาด
ผลงานสำคัญของการศึกษา คือ ภาคการวิเคราะห์พฤติกรรมของสหกรณ์ 3
ส่วนมีการระบุ .แรกประกอบด้วยสหกรณ์ขนาดเล็กขอบเขตท้องถิ่น ด้วยทัศนคติความคิดปิด
การขาดความเป็นมืออาชีพ . ส่วนใหญ่เหล่านี้ไม่ได้มีผู้จัดการ จนถึงตอนนี้ สหกรณ์เหล่านี้มี
ขึ้นอยู่กับการอุดหนุนในสหภาพยุโรป และพวกเขาจึงกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียเงินอุดหนุนเหล่านี้ แต่พวกเขาไม่ได้
กังวลเกี่ยวกับอนาคตของภาคการผลิตของพวกเขาเพราะพวกเขาสามารถขายให้กับลูกค้าที่ซื่อสัตย์ พวกเขาไม่ได้ดังนั้น
พิจารณาว่าถูกเชื่อมโยงเป็นสำคัญ แต่พวกเขากังวลเกี่ยวกับประเทศใหม่เข้าสหภาพยุโรป
ส่วนที่สองประกอบด้วยสหกรณ์ขนาดกลางที่มีขอบเขตจำกัด และเน้นตลาดที่ จำกัด นี้
เป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดสหกรณ์เหล่านี้จะเน้นมากขึ้นในตลาดและพวกเขาไม่เห็นผู้มาใหม่
EU เป็นภัยคุกคาม อย่างไรก็ตาม พวกเขาแสดงให้เห็นถึงการขาดการจัดการอย่างมืออาชีพ แม้ในตลาดภายนอก

พวกเขาพิจารณาว่าตลาดภายนอกให้มากขึ้น และควรใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึง
ตลาดใหม่
กลุ่มที่ 3 ประกอบด้วย สหกรณ์ขนาดใหญ่ ที่มีการจัดการแบบมืออาชีพและมีการแสดงตนออนไลน์ นี่คือ
แบ่งตัวอย่าง พวกเขาเป็นสหกรณ์ที่ใหญ่ที่สุด , ที่ค่อนข้างหลากหลาย และมีการแสดงตนใน
ตลาดระหว่างประเทศ พวกเขาเป็นกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียเงินอุดหนุน . เนื่องจากขนาดของพวกเขา พวกเขาต้องการเงินมากขึ้นและ
โครงการของพวกเขามีความทะเยอทะยานมากกว่าพวกเขาเชื่อว่าตลาดภายนอกต้องปรับปรุง และพวกเขารู้
โฆษณาและแคมเปญการตลาด .
หาอื่นในการศึกษาเป็นปัจจัยที่กำหนดพฤติกรรมของกลุ่มเหล่านี้และ
สหกรณ์โดยทั่วไป ปัจจัยเหล่านี้คือ : ( 1 ) ปฐมนิเทศต่อการตลาดและการจัดการคุณภาพ 2 )
การรับรู้ความเสี่ยง และ ( 3 ) ความคิดปิดวิเคราะห์พฤติกรรมของสหกรณ์เกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้มันเป็นข้อสังเกตว่า 1
ส่วนรับรู้ความเสี่ยงในภาคเนื่องจากรายการของประเทศในสหภาพยุโรป และความเสี่ยงของการสูญเสียเงินอุดหนุน
ผู้เข้าร่วมประชุมและขาดบุคลากรที่มีคุณภาพ ส่วนที่ 3 ให้ความสำคัญกับ
การวิจัยการตลาดอินเทอร์เน็ต ส่งเสริมตลาดภายนอก การรับประกันของแหล่งกำเนิดและการรับรองคุณภาพ

กลุ่มที่ 2 ไม่พบภัยคุกคามในผู้มาใหม่ไปยังสหภาพยุโรป และจะมุ่งเน้นการจัดการคุณภาพ
หรือการพาณิชย์ .