Military prison[edit]Main article:

Military prison[edit]
Main article: Alcatraz Citadel
Because of its isolation from the outside by the cold, strong, hazardous currents of the waters of San Francisco Bay, Alcatraz was used to house Civil War prisoners as early as 1861.

Following the war in 1866, the army determined that the fortifications and guns were being rapidly rendered obsolete by advances in military technology. Modernization efforts, including an ambitious plan to level the entire island and construct shell-proof underground magazines and tunnels, were undertaken between 1870 and 1876 but never completed (the so-called "parade ground" on the southern tip of the island represents the extent of the flattening effort).[20] Instead, the army switched the focus of its plans for Alcatraz from coastal defense to detention, a task for which it was well suited because of its isolation. In 1867, a brick jailhouse was built (previously inmates had been kept in the basement of the guardhouse), and in 1868, Alcatraz was officially designated a long-term detention facility for military prisoners. The facility was later discontinued for POW's in 1946. Among those incarcerated at Alcatraz were Confederates caught on the West Coast,[6] and some Hopi Native American men in the 1870s.[21]

In 1898, the Spanish–American War increased the prison population from 26 to over 450, and from 1905 to 1907 it was commanded by George W. McIver. After the 1906 San Francisco earthquake, civilian prisoners were transferred to Alcatraz for safe confinement. On March 21, 1907, Alcatraz was officially designated as the Western U.S. Military Prison, later Pacific Branch, U.S. Disciplinary Barracks, 1915.[18] In 1909 construction began on the huge concrete main cell block, designed by Major Reuben Turner, which remains the island's dominant feature. It was completed in 1912. To accommodate the new cell block, the Citadel, a three-story barracks, was demolished down to the first floor, which was actually below ground level. The building had been constructed in an excavated pit (creating a dry "moat") to enhance its defensive potential. The first floor was then incorporated as a basement to the new cell block, giving rise to the popular legend of "dungeons" below the main cell block. The Fortress was deactivated as a military prison in October 1933 and transferred to the Bureau of Prisons.[18]

During World War I, the prison held conscientious objectors, including Philip Grosser, who wrote a pamphlet entitled Uncle Sam's Devil's Island about his experiences.[22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรือนจำทหาร [แก้ไข]บทความหลัก: ป้อมอัลคาทราซเนื่องจากการแยกจากนอกตามกระแสเย็น แข็งแรง อันตรายน้ำอ่าว San Francisco อัลคาทราซที่ใช้บ้านกาลียุคนักโทษก่อนเป็น 1861ต่อไปนี้สงครามใน 1866 กองทัพบกกำหนดว่า ระบบป้อมปราการและปืนมีกำลังอย่างรวดเร็วแสดงล้าสมัยตามความก้าวหน้าในเทคโนโลยีทางทหาร ความพยายามตลอด รวมถึงแผนทะเยอทะยานระดับทั้งเกาะ และสร้างเปลือกกันนิตยสารใต้ดินและอุโมงค์ ดำเนินการระหว่างค.ศ. 1870 1876 แต่ไม่เสร็จสมบูรณ์ (เรียกว่า "แห่พื้น" ทางตอนใต้ของเกาะแทนขอบเขตของความพยายาม flattening) [20] แต่ กองทัพเปลี่ยนจุดเน้นของแผนสำหรับอัลคาทราซจากป้องกันชายฝั่งทะเลในการกักกัน ซึ่งก็เหมาะสม เพราะการแยกงาน ใน 1867 อัดอิฐถูกสร้างขึ้น (ก่อนหน้านี้ผู้ต้องขังได้ถูกเก็บไว้ในชั้นใต้ดินของ guardhouse), และใน 1868 อัลคาทราซมีทางกำหนดสถานที่กักขังระยะยาวสำหรับนักโทษทหาร สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีในภายหลังยกเลิกสำหรับ POW's ในปี 1946 ที่ลหุโทษที่อัลคาทราซ มี Confederates ติดอยู่บนฝั่งตะวันตก, [6] และบางคนอเมริกันพื้นเมือง Hopi ใน 1870s [21]ใน 1898 สงครามสเปนอเมริกันเพิ่มประชากรคุก 26 ไปกว่า 450 และจาก 1905 เพื่อเศษๆ จึงได้มีคำสั่ง โดยจอร์จ W. McIver หลังจากแผ่นดินไหว San Francisco 1906 พลเรือนนักโทษถูกโอนย้ายไปอัลคาทราซสำหรับเข้าเซฟ บน 21 มีนาคม เศษ ๆ อัลคาทราซมีทางกำหนดเป็นคุกทหารตะวันตกสหรัฐอเมริกา ต่อสาขาแปซิฟิค อเมริกาวินัยค่าย 1915 [18] ในปี 1909 เริ่มก่อสร้างในช่วงเซลล์หลักคอนกรีตขนาดใหญ่ ออกแบบ โดยหลัก Reuben Turner ซึ่งยังคงคุณลักษณะหลักของเกาะ ตั้งเสร็จในซาวน่า รองรับบล็อกเซลล์ใหม่ ป้อม สามเรื่องพระราชวัง มีกำลังกายลงไปชั้นแรก ที่จริงต่ำกว่าระดับพื้นดิน มีการสร้างอาคารในหลุมที่ขุด (สร้าง "คู" แห้ง) เพื่อเพิ่มศักยภาพป้องกัน แล้วปุกชั้นเป็นชั้นใต้ดินเพื่อบล็อกเซลล์ใหม่ ให้ก่อตำนาน "ดันเจี้ยน" ด้านล่างเซลล์หลักบล็อคนิยม ป้อมปราการถูกปิดใช้งานเป็นคุกทหารในเดือน 1933 ตุลาคม และโอนย้ายสำนักนัก [18]ในระหว่างสงครามโลก คุกจัด conscientious objectors ฟิลิป Grosser ที่เขียนแผ่นได้รับลุงแซมปีศาจของเกาะเกี่ยวกับประสบการณ์ รวมทั้ง [22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คุกทหาร [แก้ไข]
บทความหลัก: Alcatraz ป้อม
เพราะการแยกจากภายนอกโดยเย็นที่แข็งแกร่งกระแสอันตรายจากน้ำของซานฟรานซิสเบย์, Alcatraz ถูกใช้ในการบ้านนักโทษสงครามกลางเมืองเป็นช่วงต้น 1861 หลังจากที่สงครามใน 1866 กองทัพระบุว่าป้อมปราการและปืนถูกแสดงผลอย่างรวดเร็วล้าสมัยโดยความก้าวหน้าในเทคโนโลยีทางทหาร ความพยายามในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ รวมทั้งแผนทะเยอทะยานที่จะยกระดับทั้งเกาะและสร้างนิตยสารใต้ดินเปลือกหลักฐานและอุโมงค์กำลังดำเนินการระหว่าง 1870 และ 1876 แต่ไม่เคยเสร็จสมบูรณ์ (ที่เรียกว่า "ขบวนพาเหรดดิน" ทางตอนใต้ของเกาะหมายถึงการแสดงความคิดเห็น ของความพยายามแฟบ). [20] แต่กองทัพเปลี่ยนจุดเน้นของแผนสำหรับ Alcatraz จากการป้องกันชายฝั่งกักกันงานซึ่งมันก็เหมาะดีเพราะแยก ใน 1867, อิฐเรือนจำถูกสร้างขึ้น (ก่อนหน้านี้นักโทษที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ในห้องใต้ดินของป้อมยาม) และในปี ค.ศ. 1868 Alcatraz ถูกกำหนดอย่างเป็นทางการสถานที่กักกันในระยะยาวสำหรับนักโทษทหาร สิ่งอำนวยความสะดวกถูกยกเลิกในภายหลังสำหรับการประชุมในปี 1946 ในบรรดาผู้ที่ถูกจองจำใน Alcatraz ถูกภาคติดบนชายฝั่งตะวันตก [6] และบางคนพื้นเมืองอเมริกันในยุค 1870 Hopi. [21] ในปี 1898 สงครามสเปนอเมริกันเพิ่มขึ้นคุก ประชากรจาก 26 กว่า 450 และ 1905-1907 มันได้รับคำสั่งจากจอร์จดับเบิล McIver หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวในซานฟราน 1906 นักโทษพลเรือนถูกย้ายไปคุมขังสำหรับ Alcatraz ปลอดภัย เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 1907, Alcatraz ถูกกำหนดอย่างเป็นทางการเป็นตะวันตกเรือนจำทหารสหรัฐฯภายหลังแปซิฟิกสาขาสหรัฐค่ายวินัย 1915 [18] ในการก่อสร้าง 1,909 เริ่มบล็อกมือถือหลักคอนกรีตขนาดใหญ่ที่ได้รับการออกแบบโดยรูเบนเทอร์เนอเมเจอร์ซึ่งยังคงอยู่ ลักษณะเด่นของเกาะ มันเสร็จสมบูรณ์ในปี 1912 เพื่อรองรับการป้องกันเซลล์ใหม่ป้อมค่ายทหารสามชั้นเป็นผุยผงลงไปที่ชั้นแรกซึ่งเป็นจริงต่ำกว่าระดับพื้นดิน อาคารได้รับการสร้างขึ้นในหลุมที่ขุด (การสร้างแห้ง "คูเมือง") เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องกัน ชั้นแรกจัดตั้งขึ้นแล้วเป็นชั้นใต้ดินเพื่อป้องกันเซลล์ผิวใหม่ให้สูงขึ้นเพื่อตำนานที่นิยมของ "ดันเจี้ยน" ด้านล่างบล็อกมือถือหลัก ป้อมถูกปิดการใช้งานเป็นคุกทหารในตุลาคม 1933 และย้ายไปเรือนจำ. [18] ในช่วงสงครามโลกครั้งที่เรือนจำจัดขึ้นมโนธรรม objectors รวมทั้งฟิลิป Grosser ผู้เขียนหนังสือเล่มเล็ก ๆ สิทธิเกาะลุงแซมปีศาจเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขา [22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทหารคุก [ แก้ไข ]

บทความหลัก : Alcatraz ป้อมเพราะมีการแยกจาก ข้างเย็น แข็ง แรง อันตราย กระแสของน้ำในอ่าวซานฟรานซิสโก อัลคาทราซเคยบ้านสงครามกลางเมืองนักโทษก่อน 1861 .

ต่อไปนี้สงครามในปี 1866 กองทัพระบุว่า ป้อมปราการและปืน กำลังแสดงผลอย่างรวดเร็วล้าสมัยโดยความก้าวหน้าในเทคโนโลยีทางทหารความพยายามของความทันสมัย รวมถึงแผนทะเยอทะยานระดับทั้งเกาะแล้วสร้างเปลือกหลักฐานใต้ดินและอุโมงค์ ( นิตยสาร ) และระหว่าง 1870 1876 แต่ไม่เคยสำเร็จ ( เรียกว่า " ดิน พาเหรดบนปลายด้านใต้ของเกาะเป็นขอบเขตของแฟบความพยายาม ) [ 20 ] แทนกองทัพเปลี่ยนโฟกัสของแผนสำหรับอัลคาทราซจากการป้องกันชายฝั่งเพื่อควบคุมงาน ซึ่งมันก็เหมาะดี เพราะมีการแยก . ใน 1867 , อิฐคุกถูกสร้างขึ้น ( ก่อนหน้านี้นักโทษถูกขังไว้ในห้องใต้ดินของป้อมยาม ) และใน 1 ชุด , ประกาศเขตระยะยาวสถานที่กักกันนักโทษของทหารสถานที่ต่อมายกเลิกสำหรับเชลยศึกในปี 1946 ระหว่างนั้นอยู่ในอัลคาทราซเป็นคอนเฟดเดอเรทจับบนชายฝั่งตะวันตก [ 6 ] และบางคน Hopi อเมริกันพื้นเมืองในคริสต์ทศวรรษ 1850 . [ 21 ]

ใน 1898 , สเปน - อเมริกาสงครามเพิ่มประชากรคุก 26 กว่า 450 และี 1907 เป็นบัญชาจากจอร์จ ดับเบิลยู บุช mciver . หลังจาก ค.ศ. 1906 ซานฟรานซิสโกแผ่นดินไหวนักโทษพลเรือน คือ อัลคาทราซจำกัดปลอดภัย วันที่ 21 มีนาคม 1907 Alcatraz อย่างเป็นทางการ เขตตะวันตกของสหรัฐฯทหารคุก ต่อมาแปซิฟิกสาขาสหรัฐอเมริกาทางค่ายทหาร พ.ศ. 2458 [ 18 ] ใน 2452 เริ่มก่อสร้างในหลักใหญ่คอนกรีตห้องขัง ออกแบบโดยหลัก รูเบน เทอร์เนอร์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นของเกาะ มันเสร็จสมบูรณ์ ในปี 1912เพื่อรองรับป้องกันเซลล์ใหม่ป้อมปราการ สามชั้นค่ายทหาร ถูกรื้อลงมาชั้นล่าง ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าพื้นดิน อาคารถูกสร้างขึ้นในการขุดหลุมสร้างบริการ " คูเมือง " ) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องกันของ ชั้น 1 ก็รวมเป็นห้องใต้ดินกับบล็อคใหม่ให้สูงขึ้นถึงตำนานที่เป็นที่นิยมของ " ดิน " ด้านล่างบล็อคหลัก ป้อมปราการที่ถูกใช้เป็นคุกทหารในเดือนตุลาคมพ.ศ. 2476 และโอนไปยังสำนักคุก [ 18 ]

ช่วงสงครามโลกครั้งที่คุกจัดขึ้นรอบคอบ objectors รวมทั้งฟิลิป ใหญ่ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง ปีศาจ ของลุงแซม เกาะเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขา [ 22 ]