In PAT, the firm (organization, com

In PAT, the firm (organization, company or whatever) is described in terms of a collection of contracts – a nexus of contracts. Contracts are necessary in order to get self-seeking individuals to agree to cooperate. For example, there are contracts with managers, suppliers of capital and employees (including the managers). The contracts are necessary to get individual parties to act to maximize the wealth of the owners (shareholders). However, there will be contracting costs associated with the contracts, for example, costs of negotiating with and maintaining and monitoring the performance of the parties involved. PAT holds that firms will seek to minimize the contracting costs and this will affect the policies adopted, including the accounting policies (Graffikin, 2007). Watts and Zimmerman (1986) argue that the objective of positive accounting theory is to describe, explain and predict accounting practice of managers. So it will be clear which firms publish certain information like corporate disclosure. The positive accounting approach says nothing about which method of reporting should be used as a positive theory is based on empirical information and is not normative. Watts and Zimmerman (1990) identified three key hypotheses that have been frequently used in the PAT literature to explain and predict whether an organization would support or oppose a particular accounting method. These hypotheses can be called management compensation hypothesis (bonus plan hypothesis), the debt hypothesis (debt/equity hypothesis), and the political cost hypothesis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในแพท บริษัท (องค์กร บริษัท หรืออะไรก็ตาม) ได้อธิบายไว้ในคอลเลกชันของสัญญา – nexus ของสัญญา สัญญาจำเป็นเพื่อให้ได้บุคคลที่แสวงหาด้วยตนเองจะยินดีให้ความร่วมมือ ตัวอย่าง มีสัญญากับผู้จัดการ ผู้ผลิตของทุนและพนักงาน (รวมถึงผู้จัดการ) สัญญาจะต้องได้รับแต่ละฝ่ายดำเนินการเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งของเจ้าของ (ผู้ถือหุ้น) อย่างไรก็ตาม มีจะสามารถทำสัญญาต้นทุนเกี่ยวข้องกับสัญญา ตัวอย่าง ต้นทุนการเจรจาต่อรองกับการรักษา และการตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แพทถือว่า บริษัทจะพยายามลดต้นทุนการทำสัญญา และจะส่งผลต่อนโยบายนำมาใช้ รวมถึงนโยบายการบัญชี (Graffikin, 2007) วัตต์และ Zimmerman (1986) โต้แย้งว่า วัตถุประสงค์ของทฤษฎีบัญชีบวกคือการ อธิบาย อธิบาย และทำนายการปฏิบัติทางบัญชีของผู้จัดการ ดังนั้น มันจะชัดเจนซึ่งบริษัทเผยแพร่ข้อมูลบางอย่างเช่นการเปิดเผยข้อมูลของบริษัท วิธีการบัญชีในเชิงบวกกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับวิธีการรายงานควรจะใช้ทฤษฎีบวกขึ้นอยู่กับข้อมูลเชิงประจักษ์ และไม่ normative วัตต์และ Zimmerman (1990) ระบุสมมุติฐานหลักสามที่ถูกใช้บ่อยในวรรณคดี PAT เพื่ออธิบาย และทำนายว่า องค์กรจะสนับสนุน หรือต่อต้านวิธีการบัญชีเฉพาะ สามารถเรียกสมมุติฐานเหล่านี้จัดการแทนสมมติฐาน (สมมติฐานแผนโบนัส), ทฤษฏีหนี้ (หนี้/ส่วนสมมติฐาน), และฟังก์ชันต้นทุนทางการเมือง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใน PAT บริษัท (องค์กร บริษัท หรืออะไรก็ตาม) อธิบายไว้ในแง่ของคอลเลกชันของสัญญา - เชื่อมต่อของสัญญา สัญญาเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ได้บุคคลที่ประกอบอาชีพที่กำลังมองหาที่จะตกลงให้ความร่วมมือ ตัวอย่างเช่นมีการทำสัญญากับผู้จัดการซัพพลายเออร์ของเงินทุนและพนักงานของ บริษัท (รวมทั้งผู้จัดการ) สัญญาดังกล่าวมีความจำเป็นที่จะได้รับแต่ละบุคคลที่จะทำหน้าที่เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งของเจ้าของ (ผู้ถือหุ้น) แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการทำสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาเช่นค่าใช้จ่ายในการเจรจากับและการบำรุงรักษาและการตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง PAT ถือได้ว่า บริษัท จะพยายามที่จะลดค่าใช้จ่ายการทำสัญญานี้และจะมีผลต่อนโยบายการบัญชีรวมทั้งนโยบายการบัญชี (Graffikin 2007) วัตต์และ Zimmerman (1986) ยืนยันว่าวัตถุประสงค์ของทฤษฎีการบัญชีในเชิงบวกคือการอธิบายอธิบายและคาดการณ์ปฏิบัติทางบัญชีของผู้จัดการ ดังนั้นจึงจะมีความชัดเจนที่ บริษัท เผยแพร่ข้อมูลบางอย่างเช่นการเปิดเผยข้อมูลของ บริษัท วิธีการบัญชีกล่าวว่าไม่มีอะไรที่เป็นบวกเกี่ยวกับการที่วิธีการของการรายงานควรจะใช้เป็นทฤษฎีในเชิงบวกจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเชิงประจักษ์และไม่ได้เป็นบรรทัดฐาน วัตต์และ Zimmerman (1990) ระบุสามสมมติฐานที่สำคัญที่มีการใช้บ่อยในวรรณคดี PAT ที่จะอธิบายและคาดการณ์ว่าองค์กรที่จะสนับสนุนหรือคัดค้านวิธีการบันทึกบัญชีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมมติฐานเหล่านี้สามารถเรียกค่าชดเชยสมมติฐานการจัดการ (แผนโบนัสสมมติฐาน) สมมติฐานหนี้ (หนี้ / สมมติฐานส่วน) และสมมติฐานค่าใช้จ่ายทางการเมือง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในแพท บริษัท , องค์กร , บริษัท หรืออะไรก็ตาม ) คือการอธิบายในแง่ของคอลเลกชันของสัญญา– Nexus ของสัญญา สัญญาเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อที่จะได้รับด้วยตนเองการแสวงหาบุคคลที่จะเห็นด้วยที่จะร่วมมือกัน ตัวอย่างเช่น มีสัญญากับผู้จัดการ พนักงานและซัพพลายเออร์ของทุน ( รวมทั้งผู้จัดการ )สัญญาที่จำเป็นเพื่อให้ได้บุคคลแต่ละบุคคล แสดงเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งของเจ้าของ ( ผู้ถือหุ้น ) อย่างไรก็ตาม จะมีสัญญาต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับสัญญา , ตัวอย่างเช่น , ค่าใช้จ่ายของการเจรจาและการรักษา และตรวจสอบการปฏิบัติงานของฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องแพท ถือว่าบริษัทจะแสวงหาเพื่อลดต้นทุน สัญญาจ้าง และจะส่งผลกระทบต่อนโยบายประกาศใช้ รวมถึงนโยบายการบัญชี ( graffikin , 2007 ) วัตต์ และ ซิมเมอร์แมน ( 1986 ) ยืนยันว่าวัตถุประสงค์ของทฤษฎีบัญชีเป็นบวกที่จะบรรยาย อธิบายและทำนายการปฏิบัติทางบัญชีของผู้จัดการ จึงจะชัดเจน ซึ่ง บริษัท เผยแพร่ข้อมูลบางอย่าง เช่น การเปิดเผยข้อมูล ของบริษัทวิธีการบัญชีบวกกล่าวว่าไม่มีอะไรเกี่ยวกับวิธีการรายงานที่ใช้ควรเป็นทฤษฎีเชิงบวกจากข้อมูลเชิงประจักษ์ และไม่ใช่เชิงบรรทัดฐาน วัตต์ และ ซิมเมอร์แมน ( 1990 ) ระบุ สามหลักสมมติฐานที่ได้รับการใช้บ่อยในการอธิบายและทำนายว่าแพทวรรณกรรมองค์กรจะสนับสนุนหรือคัดค้าน วิธีการบัญชีที่เฉพาะเจาะจงสมมติฐานเหล่านี้จะสามารถเรียกว่าสมมติฐานของการบริหารค่าตอบแทน ( แผนสมมติฐานสมมติฐาน ( โบนัส ) , อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน และต้นทุนทางการเมือง สมมติฐานที่ตั้งไว้