The realization that oil prices are

The realization that oil prices aren't about them anymore has been slow to dawn on Americans after a century of being the world's swing consumers. But the fact is that the world's developing economies have been outbidding the developed OECD countries for oil since 2005. Some time this year, non-OECD oil demand will overtake OECD demand, and they will stay in the driver's seat for the remainder of oil's reign as the lifeblood of the global economy.

The reason is simple: In Asia, they put eight guys on a small motorcycle that gets 60 to 80 mpg in fuel economy, or one guy and a load of boxes on a moped getting 225 mpg, while in the U.S. we drive around solo in SUVs that get under 18 mpg. So if you should wonder why oil prices remain stubbornly high while U.S. demand continues to fall precipitously, just keep the above photo in mind.

Conventional oil supply hit its peak-plateau around 74 million barrels per day (mbpd) at the end of 2004, but demand kept right on growing, pushing prices up. To increase liquid fuel supply to meet the 90 mbpd the world will demand this year, we had to turn to unconventional fuels like tar sands, tight oil, and biofuels, all of which have far higher production costs. As the old oil, with production costs under $20 a barrel in places like Saudi Arabia, depletes and is replaced by new oil with production costs over $80, the world price must rise higher still to accommodate the higher cost of production.

The consumer with the least efficiency loses in this contest. And that's us.

New cars, minivans and SUVs in China already get nearly 36 mpg and will be required to get 42 mpg by 2015, according to research cited by the New York Times. In America, we merely aspire to match China's current fuel economy by 2016.

The numbers are remorseless. The average efficiency of our existing fleet of 240 million cars and light trucks is in the neighborhood of 22.5 mpg. China will add 125 million cars to its fleet over the next five years, said Ambrose Evans-Pritchard in The Telegraph this past weekend. That's half the size of the total U.S. fleet. And those cars will get nearly twice the fuel economy that our fleet does.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

The realization that oil prices aren't about them anymore has been slow to dawn on Americans after a century of being the world's swing consumers. But the fact is that the world's developing economies have been outbidding the developed OECD countries for oil since 2005. Some time this year, non-OECD oil demand will overtake OECD demand, and they will stay in the driver's seat for the remainder of oil's reign as the lifeblood of the global economy.The reason is simple: In Asia, they put eight guys on a small motorcycle that gets 60 to 80 mpg in fuel economy, or one guy and a load of boxes on a moped getting 225 mpg, while in the U.S. we drive around solo in SUVs that get under 18 mpg. So if you should wonder why oil prices remain stubbornly high while U.S. demand continues to fall precipitously, just keep the above photo in mind.Conventional oil supply hit its peak-plateau around 74 million barrels per day (mbpd) at the end of 2004, but demand kept right on growing, pushing prices up. To increase liquid fuel supply to meet the 90 mbpd the world will demand this year, we had to turn to unconventional fuels like tar sands, tight oil, and biofuels, all of which have far higher production costs. As the old oil, with production costs under $20 a barrel in places like Saudi Arabia, depletes and is replaced by new oil with production costs over $80, the world price must rise higher still to accommodate the higher cost of production.ผู้บริโภคที่ มีประสิทธิภาพน้อยที่สุดสูญเสียในการประกวดครั้งนี้ และก็เรารถใหม่ ตู้และ Suv ในจีนได้เกือบ 36 mpg แล้ว และจะต้องได้รับ 42 mpg โดย 2015 ตามงานวิจัยที่อ้าง โดยเดอะนิวยอร์กไทมส์ ในอเมริกา เราเพียง aspire เพื่อประหยัดเชื้อเพลิงปัจจุบันของจีน โดย 2016หมายเลข remorseless ประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยของกองเรือรบของเราที่มีอยู่ 240 ล้านคันและบรรทุกอยู่ในย่านของ 22.5 mpg จีนจะเพิ่มรถ 125 ล้านกองของห้าปีถัดไป กล่าวว่า แอมโบอีวานส์ Pritchard ในส่งโทรเลขวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ที่มีขนาดครึ่งหนึ่งของกองเรือรบสหรัฐอเมริการวม และรถยนต์ที่จะได้รับเกือบสองการประหยัดเชื้อเพลิงที่กองเรือรบของเราไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตระหนักว่าราคาน้ำมันที่ไม่ได้เกี่ยวกับพวกเขาอีกต่อไปได้รับช้าที่จะรุ่งอรุณของวันที่ชาวอเมริกันหลังจากศตวรรษของการเป็นผู้บริโภคของโลกแกว่ง แต่ความจริงก็คือว่าประเทศกำลังพัฒนาของโลกที่ได้รับการ outbidding พัฒนาประเทศ OECD น้ำมันตั้งแต่ปี 2005 บางครั้งในปีนี้ไม่ OECD ความต้องการใช้น้ำมันจะแซงความต้องการของ OECD และพวกเขาจะอยู่ในที่นั่งคนขับที่เหลือของการครองราชย์ของน้ำมัน . เป็นสัดส่วนหลักของเศรษฐกิจโลกเหตุผลง่ายๆคือ: ในเอเชียที่พวกเขาวางแปดคนบนรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กที่ได้รับ 60-80 แกลลอนในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงหรือหนึ่งคนและโหลดของกล่องบนจักรยานยนต์ได้รับ 225 ไมล์ต่อแกลลอนในขณะที่ ในสหรัฐอเมริกาที่เราขับรถไปรอบเดี่ยวในออฟโรดที่ได้รับต่ำกว่า 18 ไมล์ต่อแกลลอน ดังนั้นหากคุณควรสงสัยว่าทำไมราคาน้ำมันยังคงตะแบงสูงในขณะที่ความต้องการของสหรัฐยังคงตกฮวบเพียงให้ภาพข้างในใจ. อุปทานน้ำมันธรรมดาตียอดที่ราบสูงรอบ 74 ล้านบาร์เรลต่อวัน (mbpd) ณ สิ้นปี 2004 แต่ความต้องการเก็บไว้ที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของการผลักดันราคาขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงเหลวที่จะตอบสนอง 90 mbpd โลกจะมีความต้องการในปีนี้เราต้องหันไปใช้เชื้อเพลิงที่ไม่เป็นทางการเช่นทรายน้ำมันน้ำมันแน่นและเชื้อเพลิงชีวภาพทั้งหมดที่มีสูงกว่าต้นทุนการผลิต ในฐานะที่เป็นน้ำมันเก่าที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า $ 20 ต่อบาร์เรลในสถานที่เช่นซาอุดีอาระเบียบั่นทอนและถูกแทนที่ด้วยน้ำมันใหม่ที่มีต้นทุนการผลิตมากกว่า $ 80 ราคาในตลาดโลกจะต้องเพิ่มขึ้นสูงขึ้นยังคงที่จะรองรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นของการผลิต. ผู้บริโภคด้วย ประสิทธิภาพการสูญเสียน้อยที่สุดในการประกวดครั้งนี้ และที่เรา. รถใหม่, รถมินิแวนและ SUVs ในประเทศจีนแล้วจะได้รับเกือบ 36 แกลลอนและจะต้องได้รับ 42 แกลลอนในปี 2015 ตามการวิจัยโดยอ้างนิวยอร์กไทม์ส ในอเมริกาเราเพียงหวังเพื่อให้ตรงกับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบันของจีนโดยปี 2016 มีตัวเลขไร้ความปราณี ประสิทธิภาพโดยเฉลี่ยของกองเรือที่มีอยู่ของเรา 240 ล้านคันและรถบรรทุกเบาอยู่ในเขตของ 22.5 แกลลอน จีนจะเพิ่ม 125 ล้านรถอย่างรวดเร็วในอีกห้าปีที่ผ่านมาแอมโบรสอีแวนส์ Pritchard ในโทรเลขนี้วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากล่าวว่า นั่นคือครึ่งหนึ่งของขนาดของกองทัพเรือสหรัฐทั้งหมด และรถยนต์ที่จะได้รับเกือบสองเท่าของการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่กองทัพเรือของเราไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตระหนักว่าราคาน้ํามันไม่ได้เกี่ยวกับพวกเขาแล้วได้รับช้าที่จะรุ่งอรุณของชาวอเมริกันหลังจากศตวรรษของการสวิงโลกผู้บริโภค แต่ความจริงก็คือโลกของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้ outbidding การพัฒนา OECD ประเทศน้ำมันตั้งแต่ปี 2005 บางครั้งในปีนี้ ไม่ใช่ของอุปสงค์ความต้องการน้ำมันจะแซงโออีซีดีและพวกเขาจะอยู่ในที่นั่งคนขับตลอดรัชกาลของน้ำมัน เป็นเลือดของเศรษฐกิจโลก .

เหตุผลง่าย : ในเอเชีย พวกเขาใส่แปดคน ในรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กที่ได้รับ 60 ถึง 80 mpg ในการประหยัดเชื้อเพลิง หรือ ชาย 1 และโหลดของกล่องบนจักรยานยนต์รับ 225 MPG , ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกา เราขับรอบเดี่ยวใน SUVs ที่ได้รับภายใต้ 18 mpg .ดังนั้นถ้าคุณจะสงสัยว่าทำไมราคาน้ำมันยังคงสูงหัวชนฝา ในขณะที่อุปสงค์สหรัฐฯยังคงตกฮวบ แค่เก็บรูปข้างต้นในใจ

ปกติน้ำมันจัดหาตีจุดสูงสุดที่ราบสูงประมาณ 74 ล้านบาร์เรลต่อวัน ( mbpd ) ที่ส่วนท้ายของปี 2004 แต่ต้องการเก็บไว้บนการเจริญเติบโต , ผลักดันราคาขึ้น เพื่อเพิ่มอุปทานเชื้อเพลิงเหลวได้ 90 mbpd โลกต้องการในปีนี้เราต้องหันไปใช้เชื้อเพลิงแหกคอกเหมือนน้ำมันดินแน่น น้ำมัน เชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งทั้งหมดมีต้นทุนการผลิตสูงกว่าไกล . เหมือนน้ำมันเก่า กับต้นทุนการผลิตภายใต้ $ 20 ต่อบาร์เรลในสถานที่ท่องเที่ยว เช่น ซาอุดิอาระเบีย และแทนที่ด้วยน้ำมันใหม่ depletes กับต้นทุนการผลิตกว่า 80 บาท ราคาจะต้องสูงขึ้น เพื่อรองรับโลกที่สูงยังสูงกว่าต้นทุนการผลิต

ผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพอย่างน้อยแพ้ในการประกวดครั้งนี้ และที่เรา

รถใหม่ , minivans และ SUVs ในประเทศจีนได้รับเกือบ 36 mpg และจะต้องได้รับ 42 MPG โดย 2015 , ตามการวิจัยที่อ้างโดย New York Times ที่อเมริกา เราแค่อยากได้ราคาเชื้อเพลิงเศรษฐกิจของจีนในปัจจุบัน โดย 2016 .

ตัวเลขจะไม่สำนึกผิดเลยประสิทธิภาพเฉลี่ยของฝูงบินของเราที่มีอยู่ 240 ล้านคันและรถบรรทุกแสงในบริเวณ 22.5 MPG . จีนจะเพิ่ม 125 ล้านคันไปอย่างรวดเร็วมากกว่าห้าปีถัดไป , แอมโบรสอีแวนส์พริทชาร์ดในโทรเลขในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ที่มีขนาดครึ่งหนึ่งของทั้งหมดของเรือ และรถเหล่านั้นจะได้รับเกือบสองเชื้อเพลิงเศรษฐกิจที่ฝูงบินของเราไม่