In the late 1980s, the University o

In the late 1980s, the University of Hawaii began developing a papaya cultivar resistant to Papaya Ringspot Virus. To do this, certain viral genes encoding capsid proteins were transferred to the papaya genome. These viral capsid proteins elicit something similar to an "immune response" from the papaya plant. These new, genetically modified papaya plants are no longer susceptible to infection, allowing farmers to cultivate the fruit even when the virus is widespread.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปลายทศวรรษ 1980 มหาวิทยาลัยฮาวายเริ่มพัฒนามะละกอเป็น cultivar ทนต่อไวรัส Ringspot มะละกอ การทำเช่นนี้ บางยีนไวรัสที่เข้ารหัสโปรตีน capsid ถูกโอนย้ายไปกลุ่มมะละกอ โปรตีน capsid ไวรัสเหล่านี้บอกบางสิ่งบางอย่างคล้ายกับการ "ตอบสนองภูมิคุ้มกัน" จากต้นมะละกอ พืชดัดแปลงพันธุกรรม ใหม่มะละกอเหล่านี้จะไม่ไวต่อการติดเชื้อ การให้เกษตรกรปลูกผลไม้แม้ไวรัสจะแพร่หลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงปลายปี 1980 ที่มหาวิทยาลัยฮาวายเริ่มพัฒนาพันธุ์มะละกอทนต่อไวรัสใบด่างจุดวงแหวนมะละกอ การทำเช่นนี้ยีนไวรัสบางเข้ารหัสโปรตีน capsid ถูกย้ายไปมะละกอจีโนม เหล่านี้โปรตีน capsid ไวรัสล้วงเอาบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกับ "การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน" จากพืชมะละกอ เหล่านี้ใหม่ดัดแปลงพันธุกรรมพืชมะละกอจะไม่ไวต่อการติดเชื้อที่ช่วยให้เกษตรกรที่จะปลูกผลไม้แม้ในขณะที่ไวรัสเป็นที่แพร่หลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 มหาวิทยาลัยฮาวายได้เริ่มพัฒนาพันธุ์มะละกอต้านทานไวรัสใบด่างจุดวงแหวนในมะละกอ . การทำไวรัสบางยีนเข้ารหัสบราโวถูกโอนไปยังมะละกอจีโนม . เหล่านี้โปรตีนเปลือกไวรัสล้วงเอาสิ่งที่คล้ายกับ " ตอบสนอง " ภูมิคุ้มกันจากมะละกอพืช ใหม่เหล่านี้ , มะละกอดัดแปลงพันธุกรรมพืชที่ไม่ไวต่อการติดเชื้อช่วยให้เกษตรกรเพื่อปลูกผลไม้ แม้ว่าไวรัสจะฉาว