The social networking phenomenon is

The social networking phenomenon is consuming the lives of millions of users around the world. Since the inception of the fi rst social networking site, SixDegrees.com in 1997 (Boyd and Ellison, 2008), the social networking craze has grown beyond all expectations. Nielsen (2009) reports two-thirds of internet users are using social networking and blogging sites. The rate of adoption of social networking sites continues to grow as individuals search to become part of a virtual community, to share opinions and to connect and socialize with people of similar interests (Chaffey et al., 2009). Social networking users appear to be comfortable living a part of their lives openly and freely through online networks, often oblivious to the risks (Rosenblum, 2007). While privacy risks tend to be underplayed on social networking sites, the reality is the public sphere that is the internet means millions of users around the world are interacting and socialising in an extremely open and public environment. Unless protective controls are actively used social networking users risk losing control over their personal information, which subsequently erodes online privacy. Leading social networking site Facebook recently reached a milestone of 500 million users (Wortham, 2010). Since the website became a public access model in 2006 the growth of the website has been extraordinary: Facebook has developed and commercialised rapidly, introducing new features and services for Facebook users. However the continued development has come at a price to the user: a loss to their privacy. Facebook users continue to exhibit growing concern regarding lapses in privacy on the online social network. The concern reached its peak in December 2009 when Facebook, by default, made all users’ information publicly available (Rothery, 2010). The controversy surrounding Facebook’s continued lapses in privacy has been in the media spotlight in recent months and the topic of privacy on social networking sites has become a worldwide debate. This study
examines Facebook users’ perceptions of online privacy in a social networking context. Facebook users’ current awareness of privacy issues and the influence of this awareness on behaviour are closely examined. Privacy is strongly related to trust. Once Facebook users’ privacy perceptions are established trust levels on Facebook are also assessed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปรากฏการณ์เครือข่ายสังคมจะใช้ชีวิตของผู้ใช้ทั่วโลกนับล้าน ๆ นับตั้งแต่ที่มาของสาย rst สังคมเครือข่ายไซต์ SixDegrees.com ของในปี 1997 (Boyd และเอลลิสัน 2008), ความนิยมที่เครือข่ายสังคมได้เติบโตขึ้นเกินความคาดหวังทั้งหมด นีล (2009) รายงานสองในสามของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจะใช้เว็บไซต์บล็อกและเครือข่ายสังคม อัตราการยอมรับของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมยังคงเติบโตเป็นบุคคลที่ค้นหามาเป็น ส่วนหนึ่งของชุมชนเสมือน ร่วมแสดงความคิดเห็น และการเชื่อมต่อ และการเข้าสังคมกับคนคล้ายคอย (Chaffey et al., 2009) ผู้ใช้เครือข่ายสังคมจะ อยู่ได้สบายอยู่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพวกเขาอย่างเปิดเผย และเป็นอิสระผ่านเครือข่ายออนไลน์ มักจะลบเลือนไปเสี่ยง (Rosenblum, 2007) ในขณะที่ความเสี่ยงส่วนบุคคลมักจะถูก underplayed บนเว็บไซต์เครือข่ายสังคม ความเป็นจริงเป็นเรื่องสาธารณะที่อินเทอร์เน็ตหมายถึง ผู้ใช้ทั่วโลกนับล้าน ๆ จะโต้ตอบ และสังคมในสภาพแวดล้อมที่เปิด และสาธารณะมาก เว้นแต่ควบคุมป้องกัน สังคมกำลังใช้เครือข่ายความเสี่ยงผู้ที่สูญเสียการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งกัดกร่อนความเป็นส่วนตัวออนไลน์ในเวลาต่อมา นำเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่ Facebook เพิ่งถึงสำคัญของผู้ใช้ 500 ล้าน (Wortham, 2010) เนื่องจากเว็บไซต์เป็น แบบเข้าไปถึงในปี 2006 การเติบโตของเว็บไซต์ได้รับพิเศษ: Facebook ได้พัฒนา และ commercialised อย่างรวดเร็ว แนะนำคุณลักษณะใหม่และการบริการสำหรับผู้ใช้ Facebook อย่างไรก็ตาม การพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาในราคาที่ผู้ใช้: สูญเสียความเป็นส่วนตัวของพวกเขา ผู้ใช้ Facebook ยังแสดงความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับ lapses ในข้อมูลส่วนบุคคลบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ความกังวลถึงความสูงสุดในเดือน 2009 ธันวาคมเมื่อ Facebook เริ่มต้น ทำทั้งหมดของผู้ใช้ข้อมูลทั่วไป (Rothery, 2010) ถกเถียงที่รอบของ Facebook อย่างต่อเนื่อง lapses เป็นส่วนตัวได้ความโดดเด่นสื่อในเดือนล่าสุด และหัวข้อความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมได้กลายเป็น การอภิปรายทั่วโลก การศึกษานี้ตรวจสอบภาพลักษณ์ของผู้ใช้ Facebook ของบริบททางสังคมเครือข่ายออนไลน์ส่วน ความรู้ปัจจุบันของผู้ใช้ Facebook ปัญหาความเป็นส่วนตัวและอิทธิพลของการรับรู้นี้ในพฤติกรรมตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ความเป็นส่วนตัวอย่างยิ่งเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ เมื่อจะสร้างภาพลักษณ์ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ Facebook จะยังมีประเมินระดับความน่าเชื่อถือใน Facebook

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปรากฏการณ์เครือข่ายสังคมจะเสียชีวิตของผู้ใช้นับล้านทั่วโลก นับตั้งแต่ก่อตั้งของสายแรกเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่ SixDegrees.com ในปี 1997 (บอยด์และเอลลิสัน, 2008) ความนิยมเครือข่ายสังคมที่มีการเติบโตเกินความคาดหวังทั้งหมด นีลเซ่น (2009) รายงานสองในสามของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีการใช้เครือข่ายสังคมและเว็บไซต์บล็อก อัตราของการยอมรับของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมยังคงเติบโตเป็นบุคคลค้นหาที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเสมือนที่จะแบ่งปันความคิดเห็นและการเชื่อมต่อและเข้าสังคมกับคนในความสนใจคล้ายกัน (Chaffey et al., 2009) ผู้ใช้เครือข่ายสังคมที่ดูเหมือนจะเป็นความสะดวกสบายที่อาศัยอยู่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพวกเขาอย่างเปิดเผยและอย่างอิสระผ่านเครือข่ายออนไลน์มักจะลบเลือนไปความเสี่ยง (Rosenblum 2007) ในขณะที่ความเสี่ยงความเป็นส่วนตัวมีแนวโน้มที่จะ underplayed บนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมในความเป็นจริงพื้นที่สาธารณะที่เป็นอินเทอร์เน็ตหมายถึงผู้ใช้นับล้านทั่วโลกจะมีปฏิสัมพันธ์และสังคมในสภาพแวดล้อมที่เปิดมากและประชาชน ยกเว้นกรณีที่มีการควบคุมป้องกันการใช้งานผู้ใช้เครือข่ายทางสังคมที่มีความเสี่ยงสูญเสียการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาซึ่งภายหลังกร่อนเป็นส่วนตัวออนไลน์ ชั้นนำของเว็บไซต์เครือข่ายสังคม Facebook เมื่อเร็ว ๆ นี้ถึงขั้น 500 ล้านคน (Wortham 2010) เนื่องจากเว็บไซต์กลายเป็นรูปแบบการเข้าถึงของประชาชนในปี 2006 การเติบโตของเว็บไซต์ที่ได้รับการพิเศษ: Facebook ได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในเชิงพาณิชย์และการแนะนำคุณสมบัติใหม่และการบริการสำหรับผู้ใช้ Facebook อย่างไรก็ตามยังคงมีการพัฒนามาในราคาที่ให้กับผู้ใช้: การสูญเสียความเป็นส่วนตัวของพวกเขา ผู้ใช้ Facebook ยังคงแสดงความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนาคในความเป็นส่วนตัวบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ความกังวลถึงจุดสูงสุดในเดือนธันวาคม 2009 เมื่อ Facebook, โดยเริ่มต้นทำข้อมูลของผู้ใช้ทั้งหมดสาธารณชน (Rothery 2010) ความขัดแย้งรอบนาคอย่างต่อเนื่องของ Facebook ในความเป็นส่วนตัวได้รับในสปอตไลสื่อในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและเรื่องของความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมได้กลายเป็นการอภิปรายทั่วโลก การศึกษาครั้งนี้จะตรวจสอบการรับรู้ของผู้ใช้ Facebook ของความเป็นส่วนตัวออนไลน์ในบริบทของเครือข่ายทางสังคม
การรับรู้ในปัจจุบันผู้ใช้ Facebook ของประเด็นความเป็นส่วนตัวและมีอิทธิพลต่อการรับรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมนี้มีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ความเป็นส่วนตัวมีความสัมพันธ์อย่างยิ่งที่จะให้ความไว้วางใจ เมื่อรับรู้ของความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ Facebook 'เป็นที่ยอมรับระดับความไว้วางใจบน Facebook นอกจากนี้ยังได้รับการประเมิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เครือข่ายทางสังคมคือปรากฏการณ์การบริโภคชีวิตของล้านของผู้ใช้ทั่วโลก ตั้งแต่ที่มาของ RST fi เว็บไซต์เครือข่ายสังคม , sixdegrees.com ในปี 1997 ( บอยด์และเอลลิสัน , 2008 ) , เครือข่ายทางสังคมความนิยมเติบโตเกินกว่าความคาดหวังทั้งหมด นีลเซ่น ( 2009 ) รายงานสองในสามของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีการใช้เครือข่ายทางสังคมและบล็อกเว็บไซต์อัตราของการยอมรับของเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมยังคงเติบโตเป็นบุคคลค้นหาที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเสมือนเพื่อแบ่งปันความคิดเห็น และเพื่อเชื่อมต่อและเข้าสังคมกับคนสนใจเหมือนกัน ( chaffey et al . , 2009 ) ผู้ใช้เครือข่ายทางสังคมที่ปรากฏจะอยู่สบาย เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพวกเขาอย่างเปิดเผยและอย่างอิสระผ่านเครือข่ายออนไลน์ มักจะลืมความเสี่ยง ( โรเซิ่นบลูม ,2007 ) ในขณะที่ความเสี่ยงส่วนบุคคลมีแนวโน้มจะได้ผลไม่เต็มที่ บนไซต์เครือข่ายสังคม ความเป็นจริงคือพื้นที่สาธารณะที่เป็นอินเทอร์เน็ตหมายถึงล้านผู้ใช้ทั่วโลกจะโต้ตอบ และการเข้าสังคมในสภาพแวดล้อมแบบเปิดมาก และสาธารณะ นอกจากการควบคุมป้องกันอย่างใช้ผู้ใช้เครือข่ายสังคมเสี่ยงสูญเสียควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขาซึ่งต่อมากร่อนความเป็นส่วนตัวออนไลน์ Facebook เว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมชั้นนำ เมื่อเร็ว ๆ นี้ถึงกว่า 500 ล้านผู้ใช้ ( เวิร์ตเทิม , 2010 ) เนื่องจากเว็บไซต์เป็นรูปแบบสาธารณะในปี 2006 การเจริญเติบโตของเว็บไซต์ได้รับการพิเศษ : Facebook ได้พัฒนา และ commercialised อย่างรวดเร็ว การแนะนำคุณสมบัติใหม่และบริการสำหรับผู้ใช้ Facebookอย่างไรก็ตาม การพัฒนาอย่างต่อเนื่องมีมาในราคาที่ผู้ใช้ : สูญเสียความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้ Facebook ยังคงมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ lapses ในความเป็นส่วนตัวบนสังคมออนไลน์ เครือข่าย ความกังวลถึงจุดสูงสุดในเดือนธันวาคม 2009 เมื่อ Facebook ไปโดยปริยาย ทำให้ข้อมูลผู้ใช้ ' ทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วไป ( รอเทอรี่ , 2010 )ความขัดแย้งรอบ Facebook ยังคง lapses ในความเป็นส่วนตัวได้ในสื่อสปอตไลต์ในเดือนล่าสุด และหัวข้อของความเป็นส่วนตัวบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมได้กลายเป็นการอภิปรายทั่วโลก การศึกษาการรับรู้ของผู้ใช้ Facebook
ตรวจสอบความเป็นส่วนตัวออนไลน์ในบริบทของเครือข่ายทางสังคมผู้ใช้ Facebook ปัจจุบัน ความตระหนักของปัญหาความเป็นส่วนตัวและอิทธิพลของการรับรู้ในพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดตรวจสอบ ความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับความไว้วางใจ เมื่อการรับรู้ของผู้ใช้ Facebook จะสร้างความเชื่อถือความเป็นส่วนตัวระดับบน Facebook ยังประเมิน