Injustice – Aristotle believed that

Injustice – Aristotle believed that when a segment of the people feels a sense of injustice, revolution is likely to occur in that society. A severe unequal distribution of resources, wealth and power create tension and frustration among the deceived people which leads to aggression.
Gap between expectation and achievement – when people observes their government is weak and is unable to meet their demands which were promised by the government before election, the people will try to overthrow the government through revolution.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความอยุติธรรม – อริสโตเติลเชื่อว่า เมื่อส่วนของคนรู้สึกความรู้สึกของความอยุติธรรม การปฏิวัติจะเกิดขึ้นในสังคมที่ การกระจายไม่เท่ากันอย่างรุนแรงของทรัพยากร มั่งคั่ง และพลังงานสร้างความตึงเครียดและอึดอัดใจในหมู่ประชาชนหลอกซึ่งนำไปสู่การรุกรานช่องว่างระหว่างความคาดหวังและความสำเร็จ – เมื่อผู้ตรวจสอบของรัฐบาลอ่อนแอ และไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่มีสัญญาจากรัฐบาลก่อนการเลือกตั้ง คนจะพยายามล้มล้างรัฐบาล โดยการปฏิวัติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความไม่เป็นธรรม - อริสโตเติลเชื่อว่าเมื่อกลุ่มคนรู้สึกความรู้สึกของความอยุติธรรม, การปฏิวัติมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นในสังคมที่ กระจายไม่เท่ากันอย่างรุนแรงของทรัพยากรความมั่งคั่งและอำนาจสร้างความตึงเครียดและความยุ่งยากในหมู่คนหลอกซึ่งนำไปสู่การรุกราน.
ช่องว่างระหว่างความคาดหวังและความสำเร็จ - เมื่อมีคนตั้งข้อสังเกตรัฐบาลของพวกเขาเป็นที่อ่อนแอและไม่สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของพวกเขาซึ่งได้รับสัญญาจากรัฐบาลก่อน การเลือกตั้งคนที่จะพยายามที่จะโค่นล้มรัฐบาลผ่านการปฏิวัติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความอยุติธรรม - อริสโตเติลเชื่อว่า เมื่อส่วนของผู้คนรู้สึกความรู้สึกของความอยุติธรรม การปฏิวัติน่าจะเกิดขึ้นในสังคม การกระจายไม่เท่ากัน รุนแรง ของ ทรัพยากร อำนาจและทรัพย์สมบัติสร้างความตึงเครียดและความไม่พอใจในหมู่หลอกลวงประชาชน ซึ่งนำไปสู่ความก้าวร้าว
ช่องว่างระหว่างความคาดหวังและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และเมื่อมีคนตั้งข้อสังเกตรัฐบาลอ่อนแอและไม่สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของพวกเขาซึ่งเป็นสัญญาโดยรัฐบาลก่อนการเลือกตั้ง ประชาชนพยายามจะล้มล้างรัฐบาลด้วยการปฏิวัติ