n 2000, Pfizer acquired Warner-Lamb

n 2000, Pfizer acquired Warner-Lambert, bringing together two of the fastest-growing companies in the pharmaceutical industry and adding to Pfizer's global strengths and rich heritage. With Warner-Lambert, Pfizer gained product lines ranging from Parke-Davis branded pharmaceuticals to Listerine mouthwash to Schick and Wilkinson Sword wet-shave products.

Warner-Lambert: A History
Like Pfizer, Warner-Lambert traces its history back to the mid-1800s, the opportune days of a growing America. In 1856, William R. Warner launched his own drug store in Philadelphia, Pennsylvania. An innovator at heart, he invented a tablet-coating process to encase harsh-tasting medicines in sugar shells. This innovation earned Warner a place in the Smithsonian Institution.

Warner gave up his retail shop in 1886. He then focused solely on drug manufacturing under the name William R. Warner & Co.

Meanwhile, in the American midwest, Jordan Wheat Lambert was launching Lambert Pharmacal company in St. Louis. Lambert's main product was Listerine ® antiseptic, and it was marketed only to medical professionals. Lambert soon realized that Listerine had huge consumer marketing potential. In 1914, he began to mass-market Listerine through an advertising campaign that is still a case model in business schools.

Another St. Louis-based company, Pfeiffer Chemical, bought William R. Warner in 1908, kept the Warner name, and expanded the company through acquisition.

The paths of Warner´s company and Lambert´s firm intersected in 1955, with the creation of the Warner-Lambert Pharmaceutical Company.

Warner-Lambert grew through acquisition. One of the earliest came in 1962, when the company bought American Chicle Company, a New York City-based company that was among the world's largest producers of gums and mints. American Chicle's flagship brand name, Adams, was well known around the world and its products included Dentyne ® , Chiclets ® and Trident ® gums, and Certs ® and Clorets ® mints. In 1965, Warner-Lambert purchased a small cough tablet company in the United Kingdom and expanded the brand known as Halls ® Mentholyptus to global stature.

In 1970, Warner-Lambert acquired the Schick ® wet-shave product line from Eversharp. The company was founded in 1929 by Jacob Schick, whose magazine-loading razor was inspired by the repeating rifle.

1970 also saw the deal that transformed Warner-Lambert: the acquisition of Parke-Davis, once the world's largest drugmaker.

Parke-Davis traces its history back to 1866, when Hervey Parke and George Davis formed a small company in Detroit, Michigan.

They pioneered the standardization of medications and built the first modern pharmaceutical laboratory. They also developed the first organized, systematic method of clinically testing new drugs.

In the first half of the 20th Century, Parke-Davis introduced a number of breakthrough products, including the first bacterial vaccine, a pure form of adrenaline, and Dilantin ® (phenytoin) , the first widely available treatment for epilepsy and seizure. Dilantin ® remains a valuable therapy against convulsions.

After World War II, Parke-Davis popularized a number of anti-infectives, developed the Salk polio vaccine for widespread use, and introduced a new line of oral contraceptives.

In 1976, the acquisition of Parke-Davis was approved by the United States Government and in the mid-1980s, Warner-Lambert refocused on three main businesses: prescription pharmaceuticals, consumer health care products, and gums and mints. The company grew with the introduction, in the early 1980s, of the first effective cholesterol-lowering agent, Lopid.

In 1993, Warner-Lambert acquired Wilkinson Sword, combining it with Schick ® to create the world's second largest wet-shave business. However, a far greater expansion of the company came in 1996, when Warner-Lambert entered into a co-marketing agreement with Pfizer on Lipitor ® (atorvastatin calcium) , a new entry into the statin class of lipid-lowering agents. Discovered by Parke-Davis Research and introduced in 1997, Lipitor ® is the largest-selling pharmaceutical of any kind worldwide.

In 1999, Warner-Lambert acquired Agouron, based in La Jolla, California. Agouron is a leader in protein-based drug design and marketer of the protease inhibitor, Viracept ® (nelfinavir mesylate).

Pfizer and Warner-Lambert announced their intention to join, a transaction completed in June 2000, creating the world's most valuable and fastest-growing pharmaceutical company.


Pfizer Annual Report

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

n 2000 ไฟเซอร์ได้มาวอร์เนอร์แลมเบิร์ร่วมกันนำทั้งสองของ บริษัท ที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมยาและการเพิ่มจุดแข็งของไฟเซอร์ทั่วโลกและมรดกทางวัฒนธรรมที่อุดมไปด้วย กับวอร์เนอร์แลมเบิร์ไฟเซอร์ได้รับสายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายจากปาร์กเดวิสยาตราน้ำยาบ้วนปากลิสเตอไป Schick และวิลกินสันดาบผลิตภัณฑ์เปียกโกน. วอร์เนอร์แลมเบิร์: ประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับไฟเซอร์มีร่องรอยของวอร์เนอร์แลมเบิร์ประวัติศาสตร์กลับไปกลางปี​​1800 วันเวลาที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของอเมริกา ในปี 1856 วิลเลียมอาร์วอร์เนอร์เปิดตัวร้านขายยาของตัวเองในฟิลาเดลเพนซิล ผู้ริเริ่มที่หัวใจเขาคิดค้นกระบวนการที่แท็บเล็ตที่จะเคลือบหุ้มยาชิมรุนแรงในเปลือกหอยน้ำตาล นวัตกรรมนี้วอร์เนอร์ได้รับสถานที่ในสถาบัน Smithsonian. วอร์เนอร์ให้ขึ้นร้านค้าปลีกของเขาในปี 1886 จากนั้นเขาก็มุ่งเน้น แต่เพียงผู้เดียวในการผลิตยาเสพติดภายใต้ชื่อวิลเลียมวอร์เนอร์และอาร์ จำกัดในขณะเดียวกันในมิดเวสต์อเมริกันจอร์แดนข้าวสาลีแลมเบิร์ได้รับการเปิดตัวแลมเบิร์ บริษัท Pharmacal ในเซนต์หลุยส์ ผลิตภัณฑ์หลักของแลมเบิร์เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อลิสเตอ®และมันเป็นตลาดเดียวที่จะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ แลมเบิร์รู้ทันทีว่าลิสเตอมีศักยภาพตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ ในปี 1914 เขาเริ่มที่จะลิสเตอมวลตลาดผ่านแคมเปญโฆษณาที่ยังคงเป็นรูปแบบในกรณีที่โรงเรียนธุรกิจ. อีกเซนต์หลุยส์ของ บริษัท ที่ใช้ไฟฟ์เฟอร์เคมีซื้อวิลเลียมอาร์วอร์เนอร์ในปี 1908 เก็บชื่อวอร์เนอร์และขยาย บริษัท ผ่านการซื้อ. เส้นทางของ บริษัท และ บริษัท Warner's Lambert's intersected ในปี 1955 ด้วยการสร้างของวอร์เนอร์แลมเบิร์ บริษัท ยา. วอร์เนอร์แลมเบิร์เติบโตผ่านการซื้อ หนึ่งในที่เก่าแก่ที่สุดมาในปี 1962 เมื่อ บริษัท ซื้อ บริษัท อเมริกัน chicle บริษัท มหานครนิวยอร์กตามที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกของเหงือกและมินต์ อเมริกัน chicle ชื่อแบรนด์เรือธงอดัมส์เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกและผลิตภัณฑ์ของ บริษัท รวม Dentyne ®, Chiclets ®และตรีศูล®เหงือกและ Certs ®และ Clorets ®มินต์ ในปี 1965 วอร์เนอร์แลมเบิร์ซื้อแท็บเล็ตไอ บริษัท เล็ก ๆ ในสหราชอาณาจักรและขยายแบรนด์ที่รู้จักกันเป็นห้องโถง® Mentholyptus ความสูงระดับโลก. ในปี 1970 วอร์เนอร์แลมเบิร์มา Schick ®สายผลิตภัณฑ์เปียกโกนจาก Eversharp บริษัท ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1929 โดยจาค็อบ Schick ซึ่งมีดโกนนิตยสารโหลดได้รับแรงบันดาลใจจากปืนไรเฟิลซ้ำ. 1970 ยังเห็นการจัดการที่เปลี่ยนวอร์เนอร์แลมเบิร์: การซื้อกิจการของปาร์กเดวิสเมื่อใหญ่ที่สุดในโลก drugmaker. ร่องรอยปาร์กเดวิส ประวัติของมันกลับไปที่ 1866 เมื่อเฮอร์วีย์ปาร์กเดวิสและจอร์จกลายเป็น บริษัท ขนาดเล็กในดีทรอยต์รัฐมิชิแกน. พวกเขาเป็นหัวหอกในมาตรฐานของยาและสร้างห้องปฏิบัติการเภสัชกรรมสมัยแรก พวกเขายังได้รับการพัฒนาเป็นครั้งแรกที่จัดวิธีการที่เป็นระบบของการทดสอบทางคลินิกยาเสพติดใหม่. ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20, ปาร์กเดวิสแนะนำจำนวนของผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จรวมทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อแบคทีเรียแรกรูปแบบที่บริสุทธิ์ของ adrenaline และ Dilantin ® ( phenytoin) เป็นครั้งแรกที่การรักษาที่มีกันอย่างแพร่หลายสำหรับโรคลมชักและการจับกุม Dilantin ®ยังคงรักษาที่มีคุณค่ากับชัก. หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองปาร์กเดวิสนิยมจำนวนของการป้องกันการติดเชื้อการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอซอล์คสำหรับการใช้งานอย่างแพร่หลายและแนะนำบรรทัดใหม่ของยาคุมกำเนิด. ในปี 1976 การซื้อกิจการของปาร์ก -Davis ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกาและในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980, วอร์เนอร์แลมเบิร์เป้าหมายสามธุรกิจหลัก: ยาตามใบสั่งของผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและเหงือกและมินต์ บริษัท เพิ่มขึ้นด้วยการเปิดตัวในช่วงต้นปี 1980 ของตัวแทนที่มีประสิทธิภาพลดคอเลสเตอรอลแรก Lopid. ในปี 1993 วอร์เนอร์แลมเบิร์ได้มาวิลกินสันดาบรวมกับ Schick ®การสร้างธุรกิจเปียกโกนใหญ่เป็นอันดับสองของโลก อย่างไรก็ตามการขยายตัวมากขึ้นไกลของ บริษัท มาในปี 1996 เมื่อวอร์เนอร์แลมเบิร์ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือการตลาดกับ บริษัท ไฟเซอร์ใน Lipitor ® (atorvastatin แคลเซียม) ซึ่งเป็นรายการใหม่ในชั้นเรียน statin ตัวแทนไขมันลด ค้นพบโดยปาร์กเดวิสวิจัยและนำมาใช้ในปี 1997 Lipitor ®เป็นยาที่ใหญ่ที่สุดที่ขายทุกชนิดทั่วโลก. ในปี 1999 วอร์เนอร์แลมเบิร์ Agouron ได้มาขึ้นอยู่ใน La Jolla, แคลิฟอร์เนีย Agouron เป็นผู้นำในการออกแบบยาโปรตีนและนักการตลาดของน้ำย่อยยับยั้งการ Viracept ® (nelfinavir mesylate). ไฟเซอร์และวอร์เนอร์แลมเบิร์ประกาศความตั้งใจของพวกเขาที่จะเข้าร่วมการทำธุรกรรมเสร็จในเดือนมิถุนายน 2000 การสร้างที่มีคุณค่ามากที่สุดในโลกและเร็วที่สุดใน บริษัท ยาที่เพิ่มขึ้น. ไฟเซอร์รายงานประจำปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 , 000 ไฟเซอร์ซื้อวอร์เนอร์ แลมเบิร์ต พา กัน สอง ของ บริษัท ที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมเภสัชกรรม และเพิ่มจุดแข็ง และไฟเซอร์ทั่วโลกมรดกที่อุดมไปด้วย กับวอร์เนอร์ แลมเบิร์ต ไฟเซอร์ได้รับสายผลิตภัณฑ์ตั้งแต่การ Listerine น้ำยาบ้วนปากยี่ห้อยาพาร์ค เดวิสกับ ชิควิลกินสันดาบและเปียกโกนผลิตภัณฑ์

วอร์เนอร์ แลมเบิร์ต : ประวัติศาสตร์
อย่างไฟเซอร์วอร์เนอร์ แลมเบิร์ตร่องรอยประวัติศาสตร์กลับไปที่กลาง - 1800 , วันโอกาสของการเติบโตที่อเมริกา ในปี 1856 William R . วอร์เนอร์เปิดร้านของเขายาเองใน Philadelphia , Pennsylvania . การริเริ่มในจิตใจ เขาคิดค้นยาเม็ดเคลือบกระบวนการปิดด้วยยาเผ็ดรุนแรงในเปลือกน้ำตาล นวัตกรรมนี้ได้รับตักเตือนสถานที่ในสถาบันสมิธโซเนียน .

วอร์เนอร์ให้ร้านของเขาใน 1886 . จากนั้นเขาก็เน้น แต่เพียงผู้เดียวในการผลิตภายใต้ชื่อ วิลเลียม อาร์ วอร์เนอร์& .

ส่วนในอเมริกันมิดเวสต์จอร์แดน , ข้าวสาลี แลมเบิร์ตก็เปิดตัว บริษัท แลมเบิร์ท pharmacal ในเซนต์หลุยส์ ผลิตภัณฑ์หลักของแลมเบิร์ตเป็นลิสเตอรีน®ยาฆ่าเชื้อโรค และจำกัดเฉพาะกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์แลมเบิร์ตทันทีตระหนักว่าลิสเตอรีนมีขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพการตลาดของผู้บริโภค ในค.ศ. 1914 เขาเริ่มแมสลิสเตอรีนตลาดผ่านแคมเปญโฆษณาที่ยังคงเป็นกรณีแบบจำลองในโรงเรียนธุรกิจ

อีก เซนต์ หลุยส์ ตามบริษัท ไฟเฟอร์เคมี , ซื้อ วิลเลียม อาร์ วอร์เนอร์ในปี 1908 , เก็บชื่อวอร์เนอร์ และขยาย บริษัท ผ่านการซื้อ

เส้นทางของบริษัท วอร์เนอร์ แลมเบิร์ตใหม่และใหม่ intersected ในปี 1955 ด้วยการสร้างของ บริษัท ยาวอร์เนอร์แลมเบิร์ท วอร์เนอร์ แลมเบิร์ต

เพิ่มขึ้นผ่านการซื้อกิจการ หนึ่งเก่ามา ในปี 1962 เมื่อ บริษัท ซื้อ บริษัท chicle อเมริกัน , New York City โดย บริษัท ที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกของเหงือกและมิ้นท์ ชาวอเมริกัน chicle เรือธงของแบรนด์ชื่อ อดัม