Dressing in kimono The word kimono

Dressing in kimono
The word kimono literally translates as "thing to wear", and up until the 19th century it was the main form of dress worn by men and women alike in Japan.
Traditionally, the art of assembling the kimono was passed on from mother to daughter. Today this art is also taught in schools, and the technique is the same. First, one puts on the tabi, which are white cotton socks. Then the undergarments are put on followed by a top and a wraparound skirt. Next, the nagajuban (under-kimono) is put on, which is then tied by a datemaki belt. Finally, the kimono is put on, with the left side covering the right, and then tied with an obi. (It is important to not tie the kimono with the right side covering the left because this signifies the dressing of a corpse for burial.) When the kimono is worn outside, zori sandals are traditionally worn on the feet.
There are types of kimonos that are worn for different occasions and seasons. Women typically wear kimonos when they attend traditional arts, such as a tea ceremonies or ikebana classes. Girls and young single women wear furisode: a colorful style of kimono with long sleeves that are tied with a brightly-colored obi.
During wedding ceremonies, the bride and groom will often go through many costume changes. Shiromuku or uchikake are worn by brides, which are heavily embroidered white kimonos. Grooms wear black kimonos made from habutae silk.
For funerals, men and women wear plain black kimonos. (It is acceptable to wear black suits for weddings and funerals.)
The "coming of age" ceremony, Seijin no Hi, is another occasion where kimonos are worn. At these annual celebrations, women wear elaborately colored kimonos, often with boas. Other occasions where kimonos are worn today include New Year, graduation ceremonies, and Shichi-go-san, which is a celebration for children.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่งตัวในชุดกิโมโนคำว่ากิโมโน อักษรแปลเป็น " สวม " และจนถึงศตวรรษที่ 19 มันเป็นรูปแบบหลักของชุดสวมใส่โดยชายและหญิงเหมือนกันในญี่ปุ่นประเพณี ศิลปะของการประกอบชุดกิโมโนถูกถ่ายทอดจากแม่สู่ลูก วันนี้ศิลปะนี้ยังสอนในโรงเรียน และเทคนิค ก็เหมือนกัน แรกหนึ่งใส่ในข้างต้นซึ่งเป็นถุงเท้าผ้าฝ้ายสีขาว แล้วชั้นจะใส่ตามด้านบน และวิจิตร กระโปรง ต่อไป nagajuban ( ภายใต้ชุดกิโมโน ) คือใส่ ซึ่งเป็นแล้วมัดด้วยเข็มขัด datemaki . ในที่สุด กิโมโน ใส่ กับด้านซ้ายทั้งขวา แล้วผูกไว้ด้วยโอบิ . ( มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่ผูก กิโมโน กับ ด้านขวาครอบคลุมไปเพราะนี้หมายถึงยศของศพเพื่อนำไปฝัง เมื่อกิโมโน ใส่ข้างนอก โซริรองเท้าแตะผ้าสวมใส่บนเท้ามีชนิดของชุดกิโมโนที่สวมใส่สำหรับโอกาสที่แตกต่างกันและฤดูกาล ผู้หญิงมักจะใส่ชุดกิโมโนเมื่อพวกเขาเข้าร่วมศิลปะแบบดั้งเดิม เช่น พิธีชงชา หรือดอกไม้ในชั้นเรียน หญิง และหญิงเดี่ยว ยังใส่ฟุริโซเดะ : สไตล์ที่มีสีสันของชุดกิโมโนแขนยาวที่ถูกมัดด้วยสีแจ๊ดโอบี .ในระหว่างพิธีแต่งงาน เจ้าสาวและเจ้าบ่าวมักจะผ่านการเปลี่ยนแปลงหลายชุด shiromuku หรือว่า ชิคาเคะจะสวมใส่โดยเจ้าสาว ซึ่งหนักปักสีขาวชุดกิโมโน . เจ้าบ่าวใส่ชุดกิโมโนสีดำทำจาก habutae ไหมงานศพ , ผู้ชายและผู้หญิงใส่ชุดกิโมโนสีดำธรรมดา ( มันเป็นที่ยอมรับที่จะสวมชุดสีดำสำหรับงานแต่งงานและงานศพ )" ที่มาของพิธีอายุ " เซจินไม่ได้ไง เป็นโอกาสอื่นที่ชุดกิโมโนจะสวมใส่ ในงานเฉลิมฉลองประจำปีนี้ ผู้หญิงใส่ชุดกิโมโนสีอย่างประณีตบ่อยครั้งกับงูเหลือม . อื่น ๆโอกาสที่ชุดกิโมโนใส่วันนี้รวมพิธีจบการศึกษาในปีใหม่ และชิจิไปซาน ซึ่งเป็นงานฉลองสำหรับเด็ก