If you’re looking for some formulas

If you’re looking for some formulas or rules then I can’t really help you. I’ve heard some people try set some rules with “If you don’t make a certain amount of money by 15 x CPA, then quit the campaign.” The problem with that approach is well, every campaign’s different.

I prefer to show you some of the variables that goes through my mind when I’m evaluating campaigns. Remember that this is a skill. The more experience you have, the better you can tell whether to persist or to pivot.

Variables
Others Are Making It Work

In the first half of the century everyone believe that running a mile in under 4 minutes was physically impossible. Roger Bannister proved everyone wrong when he accomplished that in 1954. John Landy did it 46 days laters. Many more were able to break achieve that in the upcoming years? As far as I know, there wasn’t some breakthrough inn human evolution or running technique. It was all mental.

If you see someone accomplishing something, it gives you a mental boost knowing that it can be done. Looking at top offer reports from networks, I know a campaign can be a winner because it’s high on their revenue list.

Sometimes I do mini-masterminds to launch new campaigns.

Ex. 3 guys launch at the same time in the same vertical. If all 3 of us are failing, that lets me know the campaign kinda sucks. However if even one of us is profitable, that will push the other two to keep optimizing knowing that this campaign is doable. There’s a lot of money out there and I have an abundance mentality. I don’t want helping others out because I’ll get the same treatment in return.

The Potential

The bigger the volume potential, the more money I’m willing to lose before I quit. I’m not spending weeks to optimize a campaign that only has the potential to make $100 a day. How big is the demographic and what is your potential revenue? The bigger the reward means the more risk I’m willing to take.

What Variables Are Left to Test

There are a LOT of ways to optimize a campaign

bids
angles
images (pictures, headlines, call to actions, etc.)
landing pages (style, headlines, landing page tricks)
placements
targeting
offers (different offers, going direct, getting a higher payout)
etc.
If I’m -50% ROI and I haven’t tested anything, that’s good. It tells me that the campaign at least converts and the only way to go is up. However I’ve applied most of my optimization strategies and there’s not much left I can do, then it’s probably time to move on.

Reverse Engineering the Competition

This is for if you’re breaking into an established niche. If a competitor is advertising everywhere for weeks, it’s safe to assume that that are profitable. It’s pretty transparent what their landing pages, ads, offers, and some of their traffic sources are. You can guesstimate bids, payouts, etc.

You can use all this information to form a model of a profitable competitor, and compare his funnel to yours. Where is he stronger than you, and where can you improve over him?

Cashflow

Imagine you have a campaign that’s making around $1,000 profit a day. It’s not a big deal if you launch a new campaign and it’s losing $200 a day because you’re still up $800.

However, what if you have no money coming in? Losing $200 a day then can be tough because you start making your decisions based on emotions / fear compared to data and logic.

My point is the higher your cashflow is, the more risks you can afford to take. So if you’re making good money, you should get aggressive and take risks. If you have a profitable campaign then work harder. Don’t go on vacation. Don’t go buy a fancy car. Don’t go popping bottles every night (unless you invite me out ^_^). Seize the momentum.

Setting a Budget Beforehand

You get can get emotional when a campaign’s not going too well. I started dabbling in mobile marketing in early 2012 but never fully committed to it. I decided to set a budget beforehand where I told myself I had to spend $5k within the next 4 weeks.

After losing $2,500 I felt like it was time to pivot and change courses. I couldn’t though because I already made a plan and committed to it. A few days later I stumbled onto a campaign that ended up making 6 figures profits. If I let my emotions affect me, then I wouldn’t have found that campaign.

The Beauty of Internet Marketing
You know what I love about internet marketing? The speed. If I have a campaign idea, I can tell if it’s good or not within a matter of days. Compare that to traditional businesses.

If you want to open a restaurant you need to get loan, lease a property for years, buy expensive equipment, etc. What happens if the idea sucks and you’re not getting any customers? You’re stuck. You could spend years trying to get the restaurant profitable and your dreams never comes to fruition.

Work faster and embrace failure.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หากคุณกำลังมองหาสูตรหรือกฎบางอย่าง แล้วฉันไม่สามารถจริง ๆ ช่วยคุณ ผมเคยได้ยินบางคนลองตั้งกฎบางอย่างด้วย "ถ้าคุณไม่ทำให้ยอดเงินโดย 15 x CPA แล้วลาออกแคมเปญ" ปัญหา ด้วยวิธีการที่ดี เสริมทุกของแตกต่างกัน

ฉันต้องแสดงบางอย่างของตัวแปรที่ไปผ่านใจของฉันเมื่อฉันกำลังประเมินการส่งเสริมการขาย จำได้ว่า เป็นทักษะ ประสบการณ์ยิ่งคุณมี ที่ดีกว่าคุณสามารถบอกว่า เข้ม หรือสาระสำคัญ

ตัวแปร
ผู้อื่นจะทำให้มันทำงาน

ในครึ่งแรกของศตวรรษทุกคนเชื่อว่า นี่ทำงานต่ำกว่า 4 นาทีเป็นไปไม่ได้จริง โรเจอร์เฟรแมนเทิ้ลพิสูจน์คนผิดเมื่อเขาทำได้ที่ใน 1954 Landy จอห์นไม่ได้ laters 46 วัน มากมีความสามารถในการบรรลุซึ่งในปีเกิดขึ้น เท่าที่ฉันรู้ มีไม่ความก้าวหน้าวิวัฒนาการมนุษย์อินน์หรือเทคนิคการทำงานบาง ก็จิตทั้งนั้น

ถ้าคุณเห็นคนหญ้า ซึ่งช่วยให้คุณเพิ่มจิตที่รู้ว่า มันสามารถทำ ดูรายงานข้อเสนอสูงสุดจากเครือข่าย ฉันรู้ว่า แคมเปญจะเป็นผู้ชนะเนื่องจากความสูงของรายการรายได้

บางครั้งทำมินิ-masterminds เปิดแคมเปญใหม่

เช่น 3 คนเปิดในเวลาเดียวกันในแนวตั้งเดียวกัน ถ้าไม่สามารถครับ ที่ให้ทราบแคมเปญ kinda ครับ อย่างไรก็ตาม หากแม้เรามีกำไร ที่จะผลักดันสองเพื่อให้เพิ่มประสิทธิภาพรู้ว่า แคมเปญนี้เป็น doable มีเงินออกมีจำนวนมาก และมีความคิดมีความอุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องช่วยเหลือผู้อื่นออกได้เนื่องจากจะได้รับการรักษาเหมือนในคืน

มีศักยภาพ

เสียงใหญ่ที่อาจเกิดขึ้น ฉันยอมแพ้ก่อนเลิกเงินเพิ่มเติม ฉันกำลังใช้จ่ายสัปดาห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งเสริมการขายที่มีศักยภาพในการทำ $100 ตลอด ไม่ ขนาดเป็นที่ประชากรและรายได้ของคุณเป็นไปได้คืออะไร ที่ใหญ่กว่ารางวัลหมายความว่า ความเสี่ยงเพิ่มเติมผมยินดีที่จะใช้

อะไรตัวแปรจะซ้ายไปทดสอบ

มีหลากหลายวิธีในการเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ

ประมูล
มุม
ภาพ (รูปภาพ พาดหัว เรียกการดำเนินการ ฯลฯ)
หน้า (แบบ พาดหัว เชื่อมโยงไปถึงหน้าเทคนิค) ที่เชื่อมโยงไปถึง
และ
กำหนดเป้าหมาย
เสนอ (ข้อเสนอต่าง ๆ ไปโดยตรง การจ่ายเงินสูง)
ฯลฯ
ถ้าฉัน -50% ร้อยและยังไม่ได้ทดสอบอะไร ที่ดี มันบอกว่า แคมเปญแปลงน้อย และเป็นวิธีเดียวที่จะไป แต่ผมใช้ทั้งกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพของฉัน และมีไม่มากซ้ายสามารถทำ แล้วมันจะ เวลาไป

กลับวิศวกรรมการแข่งขัน

นี้เป็นถ้าคุณกำลังเจาะเข้าไปในโพรงที่สร้าง ถ้าคู่แข่งเป็นโฆษณาทุกสัปดาห์ จะปลอดภัยที่จะคิดว่า ที่มีกำไร ได้สวยใสหน้าจอด โฆษณา บริการ และบางส่วนของแหล่งที่มาเข้าชมบ้าง คุณสามารถ guesstimate ประมูล payouts ฯลฯ

คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อรูปแบบของคู่แข่งมีกำไร และกรวยของเขาให้คุณเปรียบเทียบได้ เขาแข็งแกร่งกว่าคุณ, และที่คุณสามารถเพิ่มกว่าเขา?

กระแสเงินสด

สมมติว่า คุณมีการส่งเสริมการขายที่ประมาณ $ กำไรวันละ 1000 ไม่ใหญ่ถ้าคุณเปิดตัวแคมเปญใหม่ และมันจะสูญเสีย $200 ต่อวันเนื่องจากคุณยังคงเพิ่มขึ้น $800

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมีเงินไม่มา สูญเสีย $200 วันแล้วสามารถจะยากเนื่องจากการตัดสินใจของคุณตามอารมณ์ / กลัวเปรียบเทียบข้อมูลและตรรกะ

ฉันก็เป็นกระแสเงินสดของคุณสูง ความเสี่ยงมากขึ้นที่คุณสามารถใช้ได้ ดังนั้น ถ้าคุณจะทำเงินดี คุณควรดูก้าวร้าว และใช้ความเสี่ยง ถ้าคุณมีการส่งเสริมการขายที่มีกำไร แล้วทำงานหนัก ไม่ไปในวันหยุด อย่าไปซื้อรถแฟนซี ไม่ไป popping ขวดทุกคืน (ยกเว้นว่าคุณเชิญผมออก
_
) แย่งโมเมนตัม

ตั้งล่วงหน้างบประมาณ

คุณสามารถรับอารมณ์เมื่อแคมเปญของจะดีขึ้น เริ่ม dabbling ในตลาดมือถือในต้นปี 2012 แต่ไม่ครบกำหนดจะ ฉันตัดสินใจที่จะตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้าที่ฉันบอกตัวเองผมจะใช้จ่าย $5k ภายในต่อไป 4 สัปดาห์

หลังจากสูญเสีย $2500 เหมือนมันเป็นสาระสำคัญ และการเปลี่ยนแปลงหลักสูตร ผมไม่ว่า เพราะฉันแล้วได้วางแผน และมุ่งมั่นที่จะ ไม่กี่วันต่อมาฉัน stumbled สู่การสิ้นสุดทำกำไรตัวเลข 6 ถ้าฉันให้ฉันส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของฉัน แล้วจะไม่ได้พบที่ส่งเสริมการขาย.

ที่ความงามของการตลาดบนอินเทอร์เน็ต
คุณรู้สิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับการตลาดบนอินเทอร์เน็ต ความเร็วในการ ถ้ามีความคิดที่ส่งเสริมการขาย ผมสามารถบอกว่า มันดี หรือไม่ภาย ในกี่วัน เปรียบเทียบกับธุรกิจดั้งเดิม

ถ้าคุณต้องการเปิดร้านอาหารคุณจำเป็นต้องได้รับเงินกู้ เช่าคุณสมบัติปี ซื้ออุปกรณ์ราคาแพง ฯลฯ เกิดอะไรขึ้นถ้าความคิดครับและคุณไม่ได้ลูกค้าหรือไม่ คุณกำลังติดอยู่ คุณสามารถใช้ปีพยายามที่จะได้รับอาหารมีกำไร และไม่เคยมาฝันให้บรรลุผล

ทำงานได้เร็ว และโอบกอดความล้มเหลว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หากคุณกำลังมองหาสูตรบางสูตร หรือ กฏแล้วฉันไม่สามารถจริงๆช่วยให้คุณ ผมเคยได้ยินบางคนได้ลองตั้งกติกาด้วย " ถ้าคุณไม่ทำให้จำนวนหนึ่งของเงินโดย 15 x CPA แล้วเลิกรณรงค์ “ปัญหาด้วยวิธีการที่ ดีของทุกโครงการที่แตกต่างกัน

ผมชอบที่จะแสดงให้คุณเห็นบางส่วนของตัวแปรที่ไปถึงจิตใจของฉันเมื่อฉัน การประเมินแคมเปญจำได้ว่า เป็นทักษะ เพิ่มเติมประสบการณ์ที่คุณมี ดีกว่าคุณสามารถบอกได้ว่า จะคงอยู่หรือ Pivot


คนอื่นตัวแปรการทำงาน

ในครึ่งแรกของศตวรรษที่ทุกคนเชื่อว่าวิ่งหนึ่งไมล์ใน 4 นาทีมันเป็นไปไม่ได้ . โรเจอร์ แบนนิสเตอร์พิสูจน์ทุกคนผิดเมื่อเขาทำสำเร็จในปี 1954 . จอห์นแลนดี้ ทำได้ 46 วัน แล้วเจอกันนะอีกมากมายสามารถแบ่งได้ว่าในปีต่อไปหรือไม่ เท่าที่ผมรู้ ไม่มีการพัฒนาหรือวิวัฒนาการมนุษย์ บางโรงแรมใช้เทคนิค มันเป็นอารมณ์

ถ้าคุณเห็นใครบรรลุอะไร มันก็ช่วยให้คุณสุขภาพจิตเพิ่มทราบว่ามันสามารถทำได้ มองที่ด้านบนมีรายงานจากเครือข่าย , ฉันรู้ว่าแคมเปญสามารถเป็นผู้ชนะ เพราะมันสูงในรายการรายได้ของพวกเขา .

บางครั้งฉันมิที่สุดของคนที่จะเปิดแคมเปญใหม่

แฟนเก่า 3 คนเปิดในเวลาเดียวกันในเดียวกันในแนวตั้ง ถ้าเราทั้ง 3 จะล้มเหลว ซึ่งช่วยให้เราทราบแคมเปญที่ค่อนข้างแย่ อย่างไรก็ตาม หากแม้หนึ่งของเราเป็นประโยชน์ ที่จะผลักดันสองอื่น ๆเพื่อให้ระบบทราบว่าแคมเปญนี้จะสามารถทำได้ มีจำนวนมากออกมี และฉันมีความคิดมากมายฉันไม่อยากช่วยคนอื่น เพราะผมจะได้รับการรักษาแบบเดียวกันกลับ



อาจใหญ่กว่าปริมาณศักยภาพ , เงินที่ผมยอมเสีย ก่อนจะลาออก ฉันจะไม่ใช้เวลาสัปดาห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญที่มีศักยภาพที่จะสร้าง $ 100 ต่อวัน วิธีการใหญ่เป็น ประชากร และอะไรคือรายได้ของคุณที่อาจเกิดขึ้น ?ใหญ่รางวัล หมายถึง ความเสี่ยงที่ผมรับได้

สิ่งที่ตัวแปรทางซ้ายเพื่อทดสอบ

มีหลายวิธีที่จะเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญประมูล



มุมภาพ ( ภาพ , หัวข้อข่าว , เรียกการกระทำ ฯลฯ )
ท่าหน้า ( รูปแบบ , หัวข้อข่าว , หน้าเทคนิค )


มีทักษะเป้าหมาย ( ข้อเสนอที่แตกต่างกันไปโดยตรง การจ่ายเงินที่สูงขึ้น )

ฯลฯถ้าฉัน - 50% ROI และฉันยังไม่ได้ทดสอบอะไรเลย ดีจัง มันบอกฉันว่า แคมเปญอย่างน้อยแปลงและวิธีเดียวที่จะไปขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ผมได้ใช้มากที่สุดของกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพของฉันและเหลือฉันทำแล้วมันอาจถึงเวลาที่จะย้ายไป

วิศวกรรมการแข่งขัน

นี่ถ้าคุณแบ่งเป็นสร้างโพรงถ้าคู่แข่งเป็นโฆษณาทุกสัปดาห์ , มันปลอดภัยที่จะถือว่าเป็นกำไร มันสวยใสอะไรหน้าเชื่อมโยงไปถึงของพวกเขา โฆษณา เสนอ และบางส่วนของแหล่งที่มาของการเข้าชมของพวกเขา . คุณสามารถการคาดเดาการเสนอราคา , การจ่ายเงิน ฯลฯ

คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อสร้างแบบจำลองของผู้แข่งขันกําไรและเปรียบเทียบช่องทางของเขากับคุณ เขาแข็งแรงกว่าคุณและที่ที่คุณสามารถปรับปรุงผ่านเขา

สอง

จินตนาการคุณมีแคมเปญที่สร้างประมาณ 1000 เหรียญ กำไรต่อวัน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าคุณเปิดตัวแคมเปญใหม่และเสีย $ 200 วัน เพราะคุณยังขึ้น $ 800

แต่ถ้าคุณไม่มีเงินเข้ามาเสีย $ 200 วันแล้วได้ยาก เพราะคุณเริ่มต้นการตัดสินใจของคุณขึ้นอยู่กับอารมณ์ / กลัวเมื่อเทียบกับข้อมูลและตรรกะ .

จุดประสงค์ของฉันคือเงินหมุนเวียนสูง ยิ่งมีความเสี่ยงที่คุณสามารถจะใช้ ดังนั้นถ้าคุณกำลังทำเงินดี , คุณควรจะได้รับก้าวร้าวและเสี่ยง หากคุณมีแคมเปญกําไรแล้ว ทำงานให้หนักขึ้น ไม่ไปในวันหยุด อย่าไปซื้อรถหรูๆอย่าไปบีบขวดทุกคืน ( ถ้าคุณเชิญผมออก _

) ยึดโมเมนตัม

ตั้งงบประมาณล่วงหน้า

คุณได้รับสามารถรับอารมณ์เมื่อแคมเปญได้ไม่ค่อยดี ผมเริ่ม dabbling ในตลาดมือถือในช่วงต้นปี 2012 แต่ไม่เคยทุ่มเทอย่างเต็มที่ให้กับมัน ฉันตัดสินใจที่จะตั้งค่างบประมาณก่อน ที่ฉันบอกตัวเองว่าฉันมีการใช้จ่าย $ 5K ภายใน 4 สัปดาห์ถัดไป

หลังจากสูญเสีย $ 2ผมรู้สึกว่ามันเป็นเวลาที่จะหมุนและเปลี่ยนหลักสูตร ผมไม่ได้ เพราะผมได้วางแผนและมุ่งมั่นกับมัน ไม่กี่วันต่อมาฉัน stumbled บนแคมเปญที่จบลงด้วยตัวเลข 6 กำไร ถ้าฉันปล่อยให้อารมณ์ของฉันทำให้ฉันแล้ว ฉันก็จะไม่พบว่าแคมเปญ

ความงามของการตลาดอินเทอร์เน็ต
คุณรู้ว่าสิ่งที่ฉันรักเกี่ยวกับการตลาดอินเทอร์เน็ต ? ความเร็วในการถ้าผมมีแคมเปญคิด ฉันสามารถบอกได้ว่ามันดีหรือไม่ดี ภายในกี่วัน เปรียบเทียบกับธุรกิจดั้งเดิม

ถ้าคุณต้องการเปิดร้านอาหาร คุณต้องได้รับเงินกู้ , สัญญาเช่าที่ดินสำหรับปี , ซื้ออุปกรณ์ราคาแพง ฯลฯ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าความคิดห่วยแตก และคุณไม่ได้รับใด ๆลูกค้า คุณกำลังติดอยู่คุณอาจใช้เวลาหลายปีพยายามที่จะได้รับผลกำไรและร้านอาหารในฝันของคุณ ไม่เคยมา fruition

ทำงานได้เร็วขึ้นและยอมรับความล้มเหลว