In ancient times, people used a lot

In ancient times, people used a lot of perfume. The Greeks used different perfumes for different parts of the body. Everybody used perfume, both men and women. When guests came for a special dinner, the host gave them more perfume to put on themselves. The Romans did the same as the Greeks. But they did not just perfume themselves once a day. They perfumed themselves three times a day! They also perfumed their dogs and horses. They perfumed their flags and things around the house such as drapes and cushions. Perfume was as important as food.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในสมัย​​โบราณคนใช้จำนวนมากของน้ำหอม ชาวกรีกที่ใช้น้ำหอมแตกต่างกันสำหรับส่วนต่างๆของร่างกาย ทุกคนที่ใช้น้ำหอมทั้งชายและหญิง เมื่อแขกมาสำหรับอาหารค่ำพิเศษโฮสต์ให้น้ำหอมมากขึ้นที่จะใส่ในตัวเอง ชาวโรมันได้เช่นเดียวกับชาวกรีก แต่พวกเขาไม่ได้เพียงแค่น้ำหอมตัวเองวันละครั้ง พวกเขากลิ่นหอมของตัวเองสามครั้งต่อวัน!พวกเขายังกลิ่นหอมสุนัขและม้าของพวกเขา กลิ่นหอมที่พวกเขาธงและสิ่งที่พวกเขารอบ ๆ บ้านเช่นผ้าและหมอนอิง น้ำหอมเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในสมัยโบราณ คนใช้ของหอม กรีกที่ใช้น้ำหอมต่าง ๆ สำหรับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทุกคนใช้น้ำหอม ทั้งชายและหญิง เมื่อแขกมาเย็นพิเศษ โฮสต์ให้มากน้ำหอมใส่ตัวเอง ชาวโรมันได้เหมือนกับกรีก แต่น้ำจะได้ไม่แค่หอมเองวันละครั้ง พวกเขา perfumed เองวัน พวกเขายัง perfumed การสุนัขและม้า พวกเขา perfumed สถานะของพวกเขาและสิ่งรอบ ๆ บ้านเช่น drapes และหมอนอิง น้ำหอมมีความสำคัญกับอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงเวลาโบราณผู้คนจำนวนมากที่มีกลิ่นหอม ชาวกรีก,น้ำหอมที่ใช้แตกต่างกันสำหรับส่วนต่างๆของร่างกายได้ ทุกคนใช้น้ำหอมสำหรับผู้หญิงและชายทั้งสอง เมื่อผู้ใช้บริการเข้ามาสำหรับอาหารมื้อค่ำแบบพิเศษที่เป็น เจ้าภาพ จัดให้มีกลิ่นหอมมากไปวางไว้บนตัว ชาวโรมันที่ทำแบบเดียวกันที่เป็นชาวกรีก แต่เขาไม่มีกลิ่นหอมด้วยตัวเองเพียงวันละหนึ่งครั้ง พวกเขามีกลิ่นหอมด้วยกันเองทั้งสามครั้งในหนึ่งวันนอกจากนั้นยังมีกลิ่นหอมม้าและสุนัขของพวกเขา พวกเขามีกลิ่นหอม Six Flags และสิ่งรอบตัวบ้านเช่นหมอนรองนั่งและม่านประดับ กลิ่นหอมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะเป็นอาหาร