Abstract OverlayEndAlthough both st

Abstract
OverlayEndAlthough both state and local taxes increased during the 1980s, the increase in local taxes was more rapid than the increase in state taxes. In 1985, local taxes represented 38% of total state and local taxation; by 1990, the local percentage had grown to 40%. For local governments, the property tax remains the leader among tax revenue sources, representing almost 3/4 of all local tax revenue. New York has the highest taxes relative to income among the states with a more typical tax system, while New Hampshire has the lowest tax rates. Individual and corporate income taxes are the 2nd-largest source of tax revenue for state and local governments across the US. Delaware has the highest dependence on income taxes, with 44% of taxes in that state derived from individual and corporate income taxes. Sales taxes represent about 24% of all state and local tax revenue.
Full Text
State and local taxes increased relative to overall economic activity during the 1980s, but have not reached the alltime high levels experienced during the 1970s. A slight decline in relative state and local tax levels durin the early 1980s continued a trend away from the high tax rates of the 1970s. State and local tax rates turned upward again in 1982, peaked in 1988 and declined slightly in 1989 and 1990.
While both state taxes and local taxes increased durin the decade, the increase in local taxes was more rapid than the increase in state taxes. Local taxes topped 40 percent of the combined total of state and local taxes for the first time in 1990.
Income taxes were the fastest growing type of tax at the state level, while sales taxes increased most rapidly among local taxes. Althoughlocaljurisdictions decreased their dependence on property taxes as a percentage of total local taxes during the decade, local tax rates increased enough that property taxes actually increased slightly as a percentage of total state and local taxation.
LONG-TERM TRENDS
A long steady rise in state and local tax rates relative to income that began before 1950 continued through 1973, In 1973 state and local taxes peaked at an all-time high level of 11.69 percent of total personal income, State and local taxes declined relative to income during the next several years, partly in response to the so-called "tax revolt." The decline continued through 1981, reaching 10.26 percent of income, the lowest level since the late 1960s, Since 1981, state and local tax rates have generally risen again, peaking in 1988 at 11.15 percent of income and declining slightly I to 11.10 percent in 1990, Table 1 shows the overall trend of state and local taxes during the past four decades and several high and low points. (Table 1 omitted)
TRENDS DURING THE 1980S
Nationwide, local taxes increased more rapidly than state taxes during the 1980s, particularly durin the last half of the decade, In 1985, local taxes represented 38 percent of total state and local taxation: by 1990, the local percentage had increased to 40,
Individual and corporate income taxes produced the largest share of state tax revenue throughout the decade, and the portion even increased during the decade, In 1980, income taxes accounted for 37 percent of all state tax revenue, By 1990, income taxes represented 39 percent of all state taxes, down slightly from a peak of 40 percent in 1989. Sales taxes were the second most important source of state tax revenues nationwide, representing almost a third of total state tax revenues. Sales taxes also rose during the decade, rising from 31 percent of the total in 1980 to 33 percent in 1990. Property taxes held fairly steady at about 2 percent of total state tax revenues during the decade. All other types of state taxes declined relatively during the decade. The nature and size of such taxes varies greatly from state to state. In energy-producing states such as Alaska and Wyoming, severance taxes are significant. Nevada derives a high portion of its revenue from taxes on the gambling and visitor industries. Nationwide, all other taxes declined from 30 percent of total state tax revenues in 1980 to 26 percent in 1990.
For local governments, the property tax remains the undisputed leader among tax revenue sources. Property taxes have declined slightly as a percentage of total local taxes, but still represent almost threefourths of all local tax revenue. Sales taxes and other taxes have increased slightly in importance during the past decade, while local income taxes have remained fairly steady as a local government revenue source.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ OverlayEndAlthough ภาษีที่รัฐ และท้องถิ่นเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 การเพิ่มขึ้นของภาษีท้องถิ่นได้มากขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของภาษีรัฐ ในปี 1985 ภาษีท้องถิ่นแสดงถึง 38% ของรัฐทั้งหมดและภาษีท้องถิ่น โดย 1990 เปอร์เซ็นต์ภายในก็เพิ่มขึ้นเป็น 40% สำหรับรัฐบาลท้องถิ่น ภาษีทรัพย์สินยังคง เป็นผู้นำระหว่างแหล่งรายได้ภาษี แสดงเกือบ 3/4 ของรายได้ทั้งหมดของภาษีท้องถิ่น นิวยอร์กมีภาษีสูงสุดเมื่อเทียบกับรายได้รัฐกับระบบภาษีทั่วไป ในขณะที่นิวแฮมป์เชียร์มีอัตราภาษีต่ำสุด ภาษีรายได้ของเอกชน และเป็นแหล่งที่มา 2 ที่ใหญ่ที่สุดของรายได้ภาษีที่รัฐและรัฐบาลท้องถิ่นทั่วสหรัฐอเมริกา รัฐเดลาแวร์มีพึ่งภาษีรายได้ 44% ของภาษีสูงสุดที่รัฐได้มาจากภาษีเงินได้ของบริษัท และแต่ละ ภาษีขายหมายถึงประมาณ 24% ของรัฐทั้งหมดและรายได้ภาษีท้องถิ่น ข้อความแบบเต็มรัฐและภาษีท้องถิ่นเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงทศวรรษ 1980 ได้มาถึง alltime ระดับสูงมีประสบการณ์ในช่วงทศวรรษ 1970 ลดลงเล็กน้อยญาติและภาษีท้องถิ่นระดับ durin ต้นทศวรรษ 1980 ต่อแนวโน้มจากอัตราภาษีสูงของสาว ๆ รัฐและอัตราภาษีท้องถิ่นเปิดขึ้นอีกครั้งใน 1982, peaked 1988 และลดลงเล็กน้อยในปี 1989 และ 1990 ขณะรัฐภาษีและภาษีท้องถิ่น เพิ่มขึ้น durin ทศวรรษ ภาษีท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าการเพิ่มขึ้นของภาษีรัฐ ภาษีท้องถิ่นราด 40 เปอร์เซ็นต์ของผลรวมรวมของรัฐและภาษีท้องถิ่นเป็นครั้งแรกในปี 1990 ภาษีเงินได้ภาษีระดับรัฐ ในขณะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดระหว่างภาษีท้องถิ่นภาษีขายชนิดเติบโตเร็วที่สุด Althoughlocaljurisdictions ลดการพึ่งพาภาษีทรัพย์สินเป็นเปอร์เซ็นต์ของผลรวมภาษีท้องถิ่นในระหว่างทศวรรษ อัตราภาษีท้องถิ่นเพิ่มขึ้นมากว่า ภาษีทรัพย์สินจริงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นเปอร์เซ็นต์ของรัฐทั้งหมดและภาษีท้องถิ่น แนวโน้มระยะยาว มั่นคงยาวนานขึ้นและอัตราภาษีที่ท้องถิ่นสัมพันธ์กับรายได้ที่เริ่มก่อนปี 1950 ต่อผ่าน 1973 ใน 1973 และภาษีท้องถิ่น peaked ที่การสรุปในระดับสูงร้อยละ 11.69 ของรายได้รวมส่วนบุคคล ภาษีท้องถิ่น และรัฐปฏิเสธเทียบรายได้ในช่วงถัดไปหลายปี บางส่วนในการตอบสนองเรียกว่า "ภาษีกบฏ" ลดลงอย่างต่อเนื่องผ่าน 1981 ถึงร้อยละ 10.26 ของรายได้ ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1960 ปลาย ตั้งแต่ 1981 รัฐ และภาษีท้องถิ่นราคาถูกได้โดยทั่วไปเกิดขึ้นอีก ชุกในปี 1988 ที่ 11.15 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ และลดลงเล็กน้อยฉัน 11.10 เปอร์เซ็นต์ในปี 1990 ตารางที่ 1 แสดงแนวโน้มโดยรวมของรัฐและภาษีท้องถิ่นในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา และหลายจุดสูงและต่ำ (ตารางที่ 1 ละ) แนวโน้มในช่วงทศวรรษ 1980 ภาษีทั่วประเทศ ท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าในช่วงทศวรรษที่ 1980 ภาษีรัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่ง durin ครึ่งหลังของทศวรรษ ในปี 1985 ภาษีท้องถิ่นแสดงถึงร้อยละ 38 ของรัฐทั้งหมดและภาษีท้องถิ่น: โดย 1990 เปอร์เซ็นต์ท้องถิ่นได้เพิ่มขึ้น 40 ภาษีเงินได้ของแต่ละคน และธุรกิจผลิตส่วนแบ่งของรายได้ภาษีของรัฐตลอดทั้งทศวรรษที่ใหญ่ที่สุด และส่วนได้เพิ่มขึ้นในระหว่างทศวรรษ ในปี 1980 ภาษีเงินได้ที่บัญชี 37 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดรัฐภาษี โดย 1990 ร้อยละ 39 แสดงภาษีรายได้ภาษีของรัฐทั้งหมด ลงเล็กน้อยจากสูงสุดร้อยละ 40 ในปี 1989 ภาษีขายสำคัญที่สุดสองแหล่งที่มาของรายได้ภาษีรัฐทั่วประเทศ แสดงถึงเกือบหนึ่งในสามของรายได้ภาษีของรัฐทั้งหมด ภาษีขายยังกุหลาบระหว่างทศวรรษ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 31 ของยอดรวมในพ.ศ. 2523 ร้อยละ 33 ในปี 1990 ภาษีทรัพย์สินจัดค่อนข้างมั่นคงที่ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ภาษีของรัฐทั้งหมดในระหว่างทศวรรษ ชนิดอื่น ๆ ทั้งหมดของรัฐภาษีค่อนข้างปฏิเสธในช่วงทศวรรษ ลักษณะและขนาดของภาษีดังกล่าวไปจนมากจากรัฐ อเมริกาผลิตพลังงานในอลาสก้าและไวโอมิง บำเหน็จภาษีสำคัญ เนวาดามาส่วนสูงของรายได้จากภาษีในอุตสาหกรรมการพนันและผู้เยี่ยมชม ทั่วประเทศ ภาษีอื่น ๆ ทั้งหมดปฏิเสธจาก 30 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ภาษีของรัฐทั้งหมดในพ.ศ. 2523 ร้อยละ 26 ในปี 1990 สำหรับรัฐบาลท้องถิ่น ภาษีทรัพย์สินยังคง เป็นผู้นำไม่มีปัญหาระหว่างแหล่งรายได้ภาษี ภาษีทรัพย์สินมีลดลงเล็กน้อยเป็นเปอร์เซ็นต์ของผลรวมภาษีท้องถิ่น แต่ยังคง แสดงเกือบ threefourths ของรายได้ภาษีท้องถิ่นทั้งหมด ภาษีขายและภาษีอื่น ๆ ได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยความสำคัญในช่วงทศวรรษที่ ในขณะที่ยังคงภาษีรายได้ที่ท้องถิ่นมีค่อนข้าง คงที่เป็นแหล่งรายได้รัฐบาลท้องถิ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
OverlayEndAlthough ทั้งของรัฐและภาษีท้องถิ่นเพิ่มขึ้นในช่วงปี 1980 การเพิ่มขึ้นของภาษีท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าการเพิ่มขึ้นในภาษีของรัฐ ในปี 1985 ภาษีท้องถิ่นเป็นตัวแทนของ 38% ของรัฐรวมและการจัดเก็บภาษีท้องถิ่น จากปี 1990 ร้อยละท้องถิ่นได้เติบโต 40% สำหรับรัฐบาลท้องถิ่นภาษีทรัพย์สินยังคงเป็นผู้นำในหมู่แหล่งที่มาของรายได้จากภาษีคิดเป็นเกือบ 3/4 ของรายได้จากภาษีท้องถิ่น นิวยอร์กมีภาษีที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับรายได้ในสหรัฐฯที่มีระบบภาษีทั่วไปมากขึ้นในขณะที่มลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ต่ำสุดมีอัตราภาษี ภาษีรายได้บุคคลและองค์กรเป็นแหล่งที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของรายได้จากภาษีของรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกา เดลาแวร์มีการพึ่งพาอาศัยที่สูงที่สุดในภาษีรายได้ 44% ของภาษีในรัฐที่มาจากภาษีรายได้บุคคลและองค์กร ภาษีขายเป็นตัวแทนประมาณ 24% ของทั้งหมดของรัฐและรายได้จากภาษีท้องถิ่น.
ข้อความแบบเต็มของรัฐและภาษีท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงทศวรรษ 1980 แต่ยังไม่ถึงระดับที่สูง AllTime ประสบการณ์ในช่วงปี 1970
ลดลงเล็กน้อยในรัฐญาติและระดับภาษีท้องถิ่นดูรินต้นทศวรรษ 1980 ยังคงมีแนวโน้มออกไปจากอัตราภาษีที่สูงของปี 1970 รัฐและอัตราภาษีในท้องถิ่นหันมาปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในปี 1982 ยอดในปี 1988 และลดลงเล็กน้อยในปี 1989 และปี 1990
ขณะที่ทั้งสองภาษีของรัฐและภาษีท้องถิ่นเพิ่มขึ้นดูรินทศวรรษที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นในภาษีท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าการเพิ่มขึ้นในภาษีของรัฐ ภาษีท้องถิ่นราดร้อยละ 40 ของจำนวนรวมของภาษีรัฐและท้องถิ่นเป็นครั้งแรกในปี 1990
ภาษีรายได้เป็นชนิดที่เติบโตเร็วที่สุดของภาษีในระดับรัฐในขณะที่ภาษีขายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในหมู่ภาษีท้องถิ่น Althoughlocaljurisdictions ลดลงพึ่งพาภาษีทรัพย์สินเป็นร้อยละของภาษีท้องถิ่นรวมในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอัตราภาษีท้องถิ่นเพิ่มขึ้นมากพอที่ภาษีทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นจริงเล็กน้อยเป็นร้อยละของรัฐรวมและการจัดเก็บภาษีท้องถิ่น.
แนวโน้มระยะยาวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานในของรัฐและ
อัตราภาษีที่ท้องถิ่นเทียบกับรายได้ที่เริ่มต้นก่อนที่ 1950 อย่างต่อเนื่องผ่านทางปี 1973 ในปี 1973 ของรัฐและภาษีท้องถิ่นแหลมที่ทุกเวลาในระดับสูงที่ร้อยละ 11.69 ของยอดรวมรายได้ส่วนบุคคลของรัฐและภาษีท้องถิ่นลดลงเมื่อเทียบกับรายได้ในช่วงหลายปีข้างหน้า ส่วนหนึ่งในการตอบสนองต่อสิ่งที่เรียกว่า "การประท้วงภาษี." ลดลงอย่างต่อเนื่องผ่านทางปี 1981 ถึงร้อยละ 10.26 ของรายได้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 1960, ตั้งแต่ปี 1981 รัฐและอัตราภาษีที่ท้องถิ่นได้เกิดขึ้นโดยทั่วไปอีกจุดในปี 1988 อยู่ที่ร้อยละ 11.15 ของรายได้และลดลงเล็กน้อยฉันถึงร้อยละ 11.10 ในปี 1990 ตารางที่ 1 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มโดยรวมของรัฐและภาษีท้องถิ่นช่วงที่ผ่านมาสี่สิบปีและอีกหลายจุดที่สูงและต่ำ (ตารางที่ 1 ละเว้น)
แนวโน้มในช่วงปี 1980
ทั่วประเทศภาษีท้องถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าภาษีของรัฐในช่วงทศวรรษ 1980 โดยเฉพาะอย่างยิ่งดูรินครึ่งหลังของทศวรรษในปี 1985 ภาษีท้องถิ่นคิดเป็นร้อยละ 38 ของรัฐรวมและการจัดเก็บภาษีท้องถิ่น: โดยปี 1990 เปอร์เซ็นต์ในท้องถิ่นได้เพิ่มขึ้นถึง 40,
ส่วนบุคคลและภาษีรายได้ของ บริษัท ผลิตหุ้นใหญ่ที่สุดของรายได้ภาษีของรัฐตลอดทศวรรษและเป็นส่วนหนึ่งแม้เพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาในปี 1980 ภาษีรายได้คิดเป็นร้อยละ 37 ของรายได้ภาษีของรัฐทั้งหมดโดย ปี 1990 ภาษีรายได้คิดเป็นร้อยละ 39 ของภาษีของรัฐลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดที่ร้อยละ 40 ในปี 1989 ภาษีขายเป็นแหล่งที่สำคัญที่สุดที่สองของรายได้ภาษีของรัฐทั่วประเทศคิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของรายได้ภาษีของรัฐรวม ภาษีเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมายอดขายที่เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 31 ของยอดรวมในปี 1980 อยู่ที่ร้อยละ 33 ในปี 1990 ภาษีทรัพย์สินที่จัดขึ้นค่อนข้างคงที่ที่ประมาณร้อยละ 2 ของรายได้ภาษีของรัฐรวมในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทุกประเภทอื่น ๆ ของภาษีของรัฐลดลงค่อนข้างในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ลักษณะและขนาดของภาษีดังกล่าวจะแตกต่างกันอย่างมากจากรัฐเพื่อให้รัฐ ในรัฐการผลิตพลังงานเช่นอลาสก้าและไวโอมิงภาษีชดเชยมีความสำคัญ เนวาดามาส่วนสูงของรายได้จากภาษีการพนันและอุตสาหกรรมผู้เข้าชม ทั่วประเทศภาษีอื่น ๆ ทั้งหมดลดลงจากร้อยละ 30 ของรายได้ภาษีของรัฐโดยรวมในปี 1980 อยู่ที่ร้อยละ 26 ในปี 1990
สำหรับรัฐบาลท้องถิ่นภาษีทรัพย์สินยังคงเป็นผู้นำในหมู่แหล่งที่มาของรายได้จากภาษี ภาษีทรัพย์สินได้ลดลงเล็กน้อยเป็นร้อยละของภาษีท้องถิ่นทั้งหมด แต่ยังคงเป็นตัวแทนเกือบ threefourths ของรายได้จากภาษีท้องถิ่น ภาษีขายและภาษีอื่น ๆ ได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในความสำคัญในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาในขณะที่รายได้ภาษีในท้องถิ่นยังคงค่อนข้างคงที่เป็นรัฐบาลท้องถิ่นแหล่งรายได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
overlayendalthough เพิ่มขึ้นทั้งรัฐและภาษีท้องถิ่นในช่วงปี 1980 , เพิ่มภาษีท้องถิ่นมากขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าการเพิ่มภาษีของรัฐ ในปี 1985 , ภาษีท้องถิ่นแทน 38 % ของภาษีรัฐและท้องถิ่นทั้งหมด โดย 1990 , ร้อยละท้องถิ่นเติบโตถึง 40% สำหรับรัฐบาลท้องถิ่น ภาษีทรัพย์สินยังคงเป็นผู้นำของแหล่งรายได้ภาษีแทนเกือบ 3 / 4 ของรายได้ภาษีทั้งหมดท้องถิ่น นิวยอร์กได้รับสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรายได้ภาษีของรัฐด้วยระบบภาษีทั่วไปมากขึ้นในขณะที่ New Hampshire มีต่ำสุดอัตราภาษี บุคคลและภาษีเงินได้ของบริษัทมี 2 แหล่งใหญ่ที่สุดของรายได้ภาษีสำหรับรัฐบาลของรัฐและท้องถิ่นทั่วสหรัฐอเมริกา เดลาแวร์ได้สูงสุดพึ่งพาภาษีรายได้กับ 44 % ของภาษีในรัฐนั้นได้มาจากบุคคลและภาษีของบริษัท ภาษีการขายเป็นตัวแทนประมาณ 24% ของรายได้ภาษีของรัฐและท้องถิ่น . ข้อความเต็ม

ภาษีรัฐและท้องถิ่นเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงปี 1980 แต่ยังไม่ถึงระดับ Alltime มีประสบการณ์ในช่วงทศวรรษลดลงเล็กน้อยในระดับรัฐและท้องถิ่นภาษีญาติทุเรียนต้นทศวรรษ 1980 ยังคงมีแนวโน้มห่างจากอัตราภาษีของทศวรรษ อัตราภาษีรัฐและท้องถิ่นเปิดขึ้นอีกครั้งในปี 1982 ซึ่งในปี 1988 และลดลงเล็กน้อยในปี 1989 และ 1990
ในขณะที่ทั้งภาษีรัฐและภาษีท้องถิ่นเพิ่มดูรินทศวรรษ , เพิ่มภาษีท้องถิ่นมากขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าการเพิ่มภาษีของรัฐภาษีท้องถิ่นวงเงิน 40 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดรวมของรัฐและภาษีท้องถิ่นเป็นครั้งแรกในปี 1990
ภาษีรายได้ที่เติบโตเร็วที่สุด ประเภทของภาษีในระดับรัฐ ในขณะที่ภาษีการขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดของภาษีท้องถิ่น althoughlocaljurisdictions ลดลงของพวกเขาพึ่งพาภาษีเป็นร้อยละของภาษีท้องถิ่นทั้งหมด ในช่วงทศวรรษภาษีท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเพียงพอที่ภาษีทรัพย์สินจริงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นร้อยละของภาษีรัฐและท้องถิ่นทั้งหมด

ยาวแนวโน้มระยะยาวมั่นคงเพิ่มขึ้นในอัตราภาษีรัฐและท้องถิ่นที่สัมพันธ์กับรายได้ที่เริ่มก่อนอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 1973 1973 รัฐและภาษีท้องถิ่นแหลมที่ทุกเวลาสูงระดับ 11.69 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดรัฐและภาษีท้องถิ่นลดลง เมื่อเทียบกับรายได้ในช่วงหลายปีถัดไป ส่วนในการตอบสนองต่อสิ่งที่เรียกว่า " การต่อต้านภาษี " ลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 1981 ถึง 10.26 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 1960 ล่าช้า ตั้งแต่ 1981 , ภาษีรัฐและท้องถิ่นได้เกิดขึ้นโดยทั่วไปอีกครั้ง แฮ่ก ในปี 1988 ที่ 11.15 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ และการลดลงเล็กน้อยผม 11 .10 เปอร์เซ็นต์ ในปี 1990 , ตารางที่ 1 แสดงแนวโน้มโดยรวมของรัฐและภาษีท้องถิ่นในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมาและจุดสูงและต่ำหลาย ( ตารางที่ 1 B )

แนวโน้มในช่วงปี 1980 บาท ภาษีท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าภาษีของรัฐในช่วงปี 1980 โดยเฉพาะอย่างยิ่งดูรินครึ่งหลังของทศวรรษ ในปี 1985 , ภาษีท้องถิ่นแทน 38 เปอร์เซ็นต์ของภาษีรัฐและท้องถิ่นทั้งหมดโดย 1990 , ร้อยละท้องถิ่นได้เพิ่มขึ้นถึง 40 ,
รายบุคคลและองค์กรภาษีเงินได้ผลิตหุ้นใหญ่ที่สุดของรายได้ภาษีของรัฐ ตลอดทศวรรษ และส่วนที่ยังเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 รายได้ภาษีคิดเป็นร้อยละ 37 ของรัฐภาษีสรรพากร โดย 1990 , รายได้ภาษีแสดง 39 เปอร์เซ็นต์ของภาษีรัฐ ทั้งหมด ลดลงเล็กน้อยจากระดับร้อยละ 40 ในปี 1989ภาษีการขายเป็นสองที่สำคัญที่สุดแหล่งที่มาของรายได้ภาษีของรัฐทั่วประเทศ เป็นตัวแทนเกือบหนึ่งในสามของรายได้ภาษีทั้งหมดของรัฐ . ภาษีการขายเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษ ที่เพิ่มขึ้นจาก 31 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดในปี 1980 ร้อยละ 33 ในปี 1990 ภาษีทรัพย์สินจัดขึ้นคงที่ค่อนข้างที่ประมาณร้อยละ 2 ของรายได้ภาษีของรัฐทั้งหมด ในช่วงทศวรรษประเภทอื่น ๆของรัฐภาษีลดลงค่อนข้างในช่วงทศวรรษ ลักษณะและขนาดของภาษีดังกล่าวจะแตกต่างกันอย่างมากจากรัฐ พลังงานในการผลิต เช่น รัฐอลาสกา และไวโอมิ่ง ชดเชยภาษีเป็นสำคัญ เนวาดาได้มาส่วนสูงของรายได้จากภาษีในอุตสาหกรรมการพนันและผู้เข้าชม ทั่วประเทศภาษีอื่น ๆทั้งหมดลดลงจากร้อยละ 30 ของรายได้รวมภาษีของรัฐในปี 1980 ร้อยละ 26 ในปี 1990
ของรัฐบาลท้องถิ่น ภาษีทรัพย์สินยังคงเป็นผู้นำไม่มีปัญหาในแหล่งรายได้ภาษี ภาษีทรัพย์สินลดลงเล็กน้อยเป็นร้อยละของภาษีท้องถิ่น แต่ยังเป็นตัวแทนเกือบ threefourths ของรายได้ภาษีทั้งหมดท้องถิ่นภาษีขายและภาษีอื่น ๆได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในความสำคัญในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ขณะที่รายได้ภาษีท้องถิ่นยังคงมั่นคงค่อนข้างเป็นแหล่งรายได้ของท้องถิ่น .