ระบบการศึกษาในประเทศสิงคโปร์
สิงคโปร์ มีระบบการศึกษาที่เป็นเลิศประเทศหนึ่งของโลก ทุกโรงเรียนควบคุมโดยกระทรวงศึกษาธิการโดยตรง การเรียนที่นี่จะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าประเทศอื่น เช่น ออสเตรเลีย อเมริกา อังกฤษทั้งทางด้านการเรียนและที่พัก และเป็นการเรียน 2 ภาษา ซึ่งมีภาษาอังกฤษเป็นหลัก และสามารถเลือกภาษาจีน หรือ ภาษามาเลย์หรือทมิฬภาษาใดภาษาหนึ่งเป็นภาษารอง
ระดับประถมศึกษา (Primary Schools)
การเรียนในระดับนี้จะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 6 ปี ใน 4 ปีแรกจะเน้นการเรียนในวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาจีนกลางหรือภาษาทมิฬ คณิตศาสตร์ และวิชาอื่นๆ เช่น ศิลปะ ดนตรี พลศึกษา จะเรียกว่า ประถมศึกษาปีที่ 1-4 (fouryearfoundation stage) หลังจากจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แล้วจะต้องเรียนต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 (Two-year orientation stage) ซึ่งในระดับนี้จะถูกจัดออกเป็น 3 กลุ่ม คือ EM1 คือกลุ่มของนักเรียนที่เรียนดี EM2 คือ กลุ่มนักเรียนที่เรียนในระดับมาตรฐาน EM3 คือ นักเรียนที่ต้องพัฒนาในบางทักษะ เมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แล้วจะต้องมีการสอบวัดระดับเรียกว่า Primary School Leaving Examination (PSLE) เพื่อวัดว่านักเรียนสามารถเข้าเรียนต่อในระดับมัธยมได้
ระดับมัธยมศึกษา (Secondary Schools)
การเรียนในระดับนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ระบบและมีหลักสูตรแตกต่างกันไป คือ
ระบบเร่งรัด ที่เรียกว่า Special และ Express course
ใช้ระยะเวลาในการเรียน 4 ปี ซึ่งการเรียนระบบนี้จะเน้นการเตรียมตัวให้นักเรียนสอบ Singapore-Cambridge General Certificate of Education “Ordinary” (GCE “O” Level) หลังจากจบ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ระบบปกติ Normal Course
จะใช้ระยะเวลาในการเรียน 5 ปี ซึ่งแบ่งการเรียนออกเป็น 2 ด้าน คือ
Academic และ Technical เมื่อเรียนถึงปี 4 นักเรียนจะต้องสอบ Singapore-Cambridge General Certificate of Education “Normal” (GCE “N”) ก่อน แล้วจึงสมามารถสอบ GCE “O” Level ได้เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อที่จะสามารถเลือกเรียนในระดับอุดมศึกษาต่อไป
ระดับอุดมศึกษา
1.Junior College (จูเนียร์คอลเลจ) หรือ Pre University เตรียมมหาวิทยาลัย หลังจากจบชั้น
มัธยมศึกษา และสอบ GCE “O” Level ผ่านนักเรียนที่จะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยจะต้องเรียนเตรียม
มหาวิทยาลัยก่อน 2 ปี เพื่อสอบ GCE “A” Level (Singapore-Cambridge General of Education
“Advanced” Level) เมื่อสอบผ่านจึงสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งผลการสอบ GCE “A” Level
นี้ สามารถใช้ไปสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ทั่วโลก แต่ถ้าสอบ GCE “A” Level ไม่ผ่านนักเรียนจะ
ยังได้ GCE “O” Level เหมือนเดิม แต่สามารถที่จะเรียนต่อโปลีเทคนิคได้
2.Polytechnics (โปลีเทคนิค) เป็นโรงเรียนสายวิชาชีพ จะเน้นพัฒนาทักษะทางเทคนิค ใช้ระยะเวลาใน
การเรียน 3 ปี จบแล้วสามารถทำงานได้เลย หรือต้องการที่จะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้แต่ต้องมีผล
การเรียนดีเป็นอันดับต้นๆของโรงเรียน
3.Institutes of Technical Education (ITE) เป็นโรงเรียนสารพัดช่าง หลักสูตรนี้สำหรับนักเรียนที่
สอบ GCE “O” Level ไม่ผ่านสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ได้ และถ้าเรียนดีก็สามารถเข้าเรียนต่อใน
โรงเรียนโปลีเทคนิคได้ และต่อมหาวิทยาลัยได้ด้วย