Japanese Foreign Minister Taro Aso

Japanese Foreign Minister Taro Aso delivered a speech the same year, emphasizing that ‘First and foremost, Japan is, for the countries of Asia, a ‘‘thought leader,’’ . . . With regard to the establishment of both democracy and a market economy, Japan has amassed a wealth of experience without comparison anywhere else in the countries of Asia . . .’44 Foreign Minister Taro Aso also reiterated that India, Australia and New Zealand must join the ASEAN ‘10 þ 3’ structure, and that ‘internally, ASEAN should have common democratic values’.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นเผือก Aso กล่าวสุนทรพจน์ในปีเดียวกันนั้นเน้นว่าเป็นครั้งแรกและสำคัญที่สุดคือญี่ปุ่นสำหรับประเทศในเอเชีย'' คิดว่าผู้นำ'' . . ในเรื่องเกี่ยวกับการจัดตั้งการปกครองระบอบประชาธิปไตยและเศรษฐกิจตลาดญี่ปุ่นได้ไว้ด้วยความมั่งคั่งของประสบการณ์โดยไม่ต้องเปรียบเทียบที่ใดในประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย . .'44 รัฐมนตรีต่างประเทศเผือก Aso ยังย้ำว่าอินเดียออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ต้องเข้าร่วมอาเซียน '10 3 th 'โครงสร้างและที่ภายในอาเซียนควรมีประชาธิปไตยคุณค่าร่ว​​มกัน'

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น Taro Aso ส่งเสียงเป็นปีเดียวกัน เน้นที่ ' แรก และ สำคัญ ญี่ปุ่นเป็น สำหรับประเทศในเอเชีย ผู้ ''คิดนำ ... เกี่ยวกับสถานประกอบการของประชาธิปไตยและระบบเศรษฐกิจตลาด ญี่ปุ่นที่มีอยู่ไว้ใจโดยเปรียบเทียบอื่นในประเทศของเอเชีย...' 44 รัฐมนตรีต่างประเทศ Taro Aso ยังย้ำว่า อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ต้องเข้าร่วมโครงการอาเซียน ' 10 þ 3 สร้าง และ 'ภายใน อาเซียนควรมีค่านิยมประชาธิปไตยร่วมกัน'

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เผือกคัดเลือกเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวสุนทรพจน์ในปีเดียวกันกับที่เน้นว่า"เป็นครั้งแรกและมาก่อนประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศใน ภูมิภาค เอเชีย"ผู้นำความคิด" .... .... โดยคำนึงถึงการจัดตั้งของประชาธิปไตยและเศรษฐกิจการตลาดที่ทั้งสองประเทศญี่ปุ่นได้รวบรวมความมั่งคั่งของประสบการณ์โดยไม่ต้องการเปรียบเทียบที่ไหนๆในประเทศของเอเชีย .... ....' 44 เผือกคัดเลือกเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศยังย้ำว่าอินเดียออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะต้องเข้าร่วมอาเซียน' 10 þ 3 'โครงสร้างและว่า" ภายใน ประเทศอาเซียนควรจะมีค่าเป็นประชาธิปไตยร่วมกัน'