การดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์  ประเทศไทยหยิบยกปัญห การแปล - การดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์  ประเทศไทยหยิบยกปัญห ไทย วิธีการพูด

การดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปร

การดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์



ประเทศไทยหยิบยกปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจังตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๗ โดยมี พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ (The Anti-Trafficking in Persons Act 2008) และกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (พ.ศ. ๒๕๕๔-๒๕๕๙) ที่ให้ความสำคัญ ๕ ด้าน คือ การป้องกัน การดำเนินคดี การคุ้มครองช่วยเหลือ การพัฒนากลไกเชิงนโยบายและการขับเคลื่อน การพัฒนาและการบริหารข้อมูล

๑ กลไกการดำเนินงานในประเทศไทย

กลไกการดำเนินงานเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ประกอบด้วย คณะกรรมการระดับชาติ ๒ คณะ ได้แก่ (๑) คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และ (๒) คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และคณะอนุกรรมการต่าง ๆ เพื่อผลักดันนโยบายระดับชาติ นอกจากนี้ พรบ. ดังกล่าว ยังได้มีการกำหนดให้จัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมีการใช้เงินทุนในสองส่วน ได้แก่ การช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และ การดำเนินโครงการเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งหน่วยงานทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชนสามารถเสนอโครงการเพื่อขอใช้งบประมาณกองทุนฯ โดยเลขาธิการของกลไกระดับชาติ รวมทั้งการบริหารกองทุนฯ อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

ในระดับจังหวัด มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระดับจังหวัด ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และในระดับหน่วยงาน หลายหน่วยงานได้จัดตั้งหน่วยงานย่อยที่มีภารกิจเฉพาะ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปราม เช่น กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ ภายใต้สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นต้น

ทั้งนี้ รัฐบาลเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในกลไกทั้งในระดับชาติ โดยมีผู้ทรงคุณวุติจากภาคประชาสังคมเป็นกรรมการในคณะกรรมการระดับชาติ และระดับจังหวัด โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ และมีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญในกระบวนการคัดแยกเหยื่อด้วย



๒. การดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

เนื่องจากไทยอยู่ในสถานะประเทศต้นทาง ทางผ่าน และปลายทางของการค้ามนุษย์ นโยบายเพื่อแก้ไข ป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทย ให้ความสำคัญกับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นหลัก (Victim-Centered) และมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแสวงประโยชน์หรือการบังคับใช้แรงงาน การปราบปรามและดำเนินคดีขบวนการค้ามนุษย์ รวมถึงการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งนโยบายที่ไทยกำลังให้ความสำคัญในปัจจุบัน มีดังนี้

การดำเนินงานเกี่ยวกับผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่เหมาะสมของไทย เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๖ นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมหารือในประเด็นดังกล่าว โดยเน้นการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และประสงค์ให้แรงงานต่างด้าวทั้งหมดได้รับการจดทะเบียนและพิสูจน์สัญชาติให้เรียบร้อยเพื่อให้สามารถอยู่ทำงานในไทยได้อย่างถูกต้องและได้รับสิทธิ/การคุ้มครองทางสังคมต่าง ๆ โดยรัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่อง การปรับสิทธิด้านการรักษาพยาบาลแรงงานต่างด้าวจากเดิมที่มีอยู่ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อรองรับการเตรียมตัวเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน

การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมง ซึ่งมีการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (๑) การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองซึ่งลักลอบทำงานบนเรือประมงปีละ ๒ เดือน (๒) จัดตั้งศูนย์ประสานแรงงานประมงใน ๗ จังหวัดนำร่อง (๓) การประกาศใช้แนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดีสำหรับสถานประกอบการแปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้นในอุตสาหกรรมแปรรูปกุ้งและอาหารทะเลในประเทศไทย (Good Labour Practices Guidelines for Primary Processing Workplaces in the Shrimp and Seafood Industry of Thailand - GLP/PPW) เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๖ ซึ่งเน้นการขจัดการใช้แรงงานบังคับ การใช้แรงงานเด็ก เสรีภาพในการสมาคม การเจรจาต่อรองร่วม และความร่วมมือในสถานประกอบกิจการ การไม่เลือกปฏิบัติ ค่าจ้าง ชั่วโมงการทำงาน ค่าชดเชย ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานและสวัสดิการ และ (๔) การเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจแรงงานประมง

การช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยเน้นการดำเนินงานที่การให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดย (๑) อนุญาตให้อยู่ใน ปทท. ได้ชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งการฝึกอาชีพและทักษะ (๒) การอนุญาตให้ผู้เสียหายสามารถออกไปทำงานนอกบ้านพักเมื่อมีความพร้อม (๓) การดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมให้กับผู้เสียหายจากภาครัฐ และจากผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์



๓. การดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

กระทรวงการต่างประเทศมีภารกิจที่เกี่ยวข้องในด้านการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายชาวไทยในต่างประเทศ ผ่านการดำเนินงานของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลทั่วโลก มีส่วนในกระบวนการกำหนดนโยบายโดยคณะกรรมการระดับชาติ และการดำเนินความร่วมมือในประเด็นการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับพหุภาคี ซึ่งการดำเนินงานระดับระหว่างประเทศที่สำคัญ มีดังนี้

๓.๑ ระดับทวิภาคี

๓.๑.๑ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและสตรีและการช่วยเหลือเหยื่อของการค้ามนุษย์ (MOU on Bilateral Cooperation for Eliminating Trafficking in Children and Women and Assisting Victims of Trafficking) ซึ่งไทยได้มีความตกลงกับกัมพูชา (ปี ๒๕๔๖) ลาว (ปี ๒๕๔๘) เวียดนาม (ปี ๒๕๕๑) และเมียนมาร์ (ปี ๒๕๕๒) โดยกำลังมีความริเริ่มปรับเนื้อหาของ MoU เพื่อให้เป็นปัจจุบันเพื่อสามารถรองรับสถานการณ์การค้ามนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไป และอยู่ระหว่างการหารือเพื่อจัดทำกรอบความร่วมมือกับอีกหลายประเทศที่มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นต้นทางของ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
การดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประเทศไทยหยิบยกปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจังตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๔๗โดยมีพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ.ศ. ๒๕๕๑ (การต่อต้านการค้ามนุษย์ในบุคคลบัญญัติ 2008) และกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๕๙) ที่ให้ความสำคัญ ๕ ด้านคือการป้องกันการดำเนินคดีการคุ้มครองช่วยเหลือการพัฒนากลไกเชิงนโยบายและการขับเคลื่อนการพัฒนาและการบริหารข้อมูล๑ กลไกการดำเนินงานในประเทศไทย กลไกการดำเนินงานเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ประกอบด้วยคณะกรรมการระดับชาติ ๒ คณะได้แก่ (๑) คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและ (๒) คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและคณะอนุกรรมการต่างๆ เพื่อผลักดันนโยบายระดับชาตินอกจากนี้พรบ ดังกล่าวยังได้มีการกำหนดให้จัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์โดยมีการใช้เงินทุนในสองส่วนได้แก่การช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และการดำเนินโครงการเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ซึ่งหน่วยงานทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชนสามารถเสนอโครงการเพื่อขอใช้งบประมาณกองทุนฯ โดยเลขาธิการของกลไกระดับชาติรวมทั้งการบริหารกองทุนฯ อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม) ในระดับจังหวัดมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระดับจังหวัดซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและในระดับหน่วยงานหลายหน่วยงานได้จัดตั้งหน่วยงานย่อยที่มีภารกิจเฉพาะโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามเช่นกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศภายใต้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นต้น ทั้งนี้รัฐบาลเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในกลไกทั้งในระดับชาติโดยมีผู้ทรงคุณวุติจากภาคประชาสังคมเป็นกรรมการในคณะกรรมการระดับชาติและระดับจังหวัดโดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการและมีส่วนร่วมอย่างมีนัยสำคัญในกระบวนการคัดแยกเหยื่อด้วย ๒ . การดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เนื่องจากไทยอยู่ในสถานะประเทศต้นทางทางผ่านและปลายทางของการค้ามนุษย์นโยบายเพื่อแก้ไขป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทยให้ความสำคัญกับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นหลัก (กึ่งกลางเหยื่อ) และมีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการแสวงประโยชน์หรือการบังคับใช้แรงงานการปราบปรามและดำเนินคดีขบวนการค้ามนุษย์รวมถึงการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ซึ่งนโยบายที่ไทยกำลังให้ความสำคัญในปัจจุบันมีดังนี้ การดำเนินงานเกี่ยวกับผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่เหมาะสมของไทยเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๖ นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมหารือในประเด็นดังกล่าวโดยเน้นการเคารพหลักสิทธิมนุษยชนๆ และประสงค์ให้แรงงานต่างด้าวทั้งหมดได้รับการจดทะเบียนและพิสูจน์สัญชาติให้เรียบร้อยเพื่อให้สามารถอยู่ทำงานในไทยได้อย่างถูกต้องและได้รับสิทธิ/การคุ้มครองทางสังคมต่างโดยรัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องการปรับสิทธิด้านการรักษาพยาบาลแรงงานต่างด้าวจากเดิมที่มีอยู่ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั้งนี้เพื่อรองรับการเตรียมตัวเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมงซึ่งมีการดำเนินงานที่สำคัญได้แก่ (๑) การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองซึ่งลักลอบทำงานบนเรือประมงปีละ ๒ เดือน (๒) จัดตั้งศูนย์ประสานแรงงานประมงใน ๗ จังหวัดนำร่อง (๓) การประกาศใช้แนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดีสำหรับสถานประกอบการแปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้นในอุตสาหกรรมแปรรูปกุ้งและอาหารทะเลในประเทศไทย (แนวทางปฏิบัติดีแรงงานสำหรับการประมวลผลหลักดังในกุ้งและอุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทย - GLP/PPW) เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๖ ซึ่งเน้นการขจัดการใช้แรงงานบังคับการใช้แรงงานเด็กเสรีภาพในการสมาคมการเจรจาต่อรองร่วมและความร่วมมือในสถานประกอบกิจการการไม่เลือกปฏิบัติค่าจ้างชั่วโมงการทำงานค่าชดเชยความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานและสวัสดิการและ (๔) การเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจแรงงานประมง การช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยเน้นการดำเนินงานที่การให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดย (๑) อนุญาตให้อยู่ในปทท ได้ชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจรวมทั้งการฝึกอาชีพและทักษะ (๒) (๓) การอนุญาตให้ผู้เสียหายสามารถออกไปทำงานนอกบ้านพักเมื่อมีความพร้อมการดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมให้กับผู้เสียหายจากภาครัฐและจากผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์ ๓ . การดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศมีภารกิจที่เกี่ยวข้องในด้านการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายชาวไทยในต่างประเทศผ่านการดำเนินงานของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลทั่วโลกมีส่วนในกระบวนการกำหนดนโยบายโดยคณะกรรมการระดับชาติและการดำเนินความร่วมมือในประเด็นการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและระดับพหุภาคีซึ่งการดำเนินงานระดับระหว่างประเทศที่สำคัญมีดังนี้ ๓.๑ระดับทวิภาคี ๓.๑.๑บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและสตรีและการช่วยเหลือเหยื่อของการค้ามนุษย์ (MOU ในความร่วมมือทวิภาคีในการขจัดการค้าเด็กและหญิง และให้ความช่วยเหลือเหยื่อของการค้า) ซึ่งไทยได้มีความตกลงกับกัมพูชา (ปี ๒๕๔๖) ลาว (ปี ๒๕๔๘) เวียดนาม (ปี ๒๕๕๑) และเมียนมาร์ (ปี ๒๕๕๒) โดยกำลังมีความริเริ่มปรับเนื้อหาของ MoU เพื่อให้เป็นปัจจุบันเพื่อสามารถรองรับสถานการณ์การค้ามนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไปและอยู่ระหว่างการหารือเพื่อจัดทำกรอบความร่วมมือกับอีกหลายประเทศที่มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นต้นทางของ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
พ.ศ. 2547 โดยมี พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 (ต่อต้านการค้ามนุษย์พระราชบัญญัติ 2008) และกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ (พ.ศ. 2554-2559) ที่ให้ความสำคัญ 5 ด้านคือการป้องกันการดำเนินคดีการคุ้มครองช่วยเหลือ การพัฒนาและการบริหารข้อมูล1 คณะกรรมการระดับชาติ 2 คณะ ได้แก่ (1) (ปคม.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและ (2) (ปกค.) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและคณะอนุกรรมการต่าง ๆ เพื่อผลักดันนโยบายระดับชาตินอกจากนี้พรบ ดังกล่าว โดยมีการใช้เงินทุนในสองส่วน ได้แก่ และ โดยเลขาธิการของกลไกระดับชาติรวมทั้งการบริหารกองทุนฯ (พม.) ในระดับจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและในระดับหน่วยงาน เช่น ภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใต้สำนักงานภายอัยการสูงสุดเป็นต้นทั้งนี้ และระดับจังหวัด ทางผ่านและปลายทางของการค้ามนุษย์นโยบายเพื่อแก้ไขป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทย (เหยื่อเป็นศูนย์กลาง) เมื่อเดือนกันยายน 2556 โดยเน้นการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน ๆ โดยรัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่อง ทั้งนี้ ซึ่งมีการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) 2 เดือน (2) จัดตั้งศูนย์ประสานแรงงานประมงใน 7 จังหวัดนำร่อง (3) (ปฏิบัติแรงงานที่ดีแนวทางการสถานที่ทำงานการประมวลผลหลักในกุ้งและอาหารทะเลอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย - GLP / PPW) เมื่อเดือนกันยายน 2556 ซึ่งเน้นการขจัดการใช้แรงงานบังคับการใช้แรงงานเด็กเสรีภาพในการสมาคมการเจรจาต่อรองร่วมและความร่วมมือ ในสถานประกอบกิจการการไม่เลือกปฏิบัติค่าจ้างชั่วโมงการทำงานค่าชดเชยความปลอดภัย และ (4) โดย (1) อนุญาตให้อยู่ในปทท ได้ชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจรวมทั้งการฝึกอาชีพและทักษะ (2) (3) และจากผู้กระทำผิดฐานค้ามนุษย์3 ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับพหุภาคี มีดังนี้3.1 ระดับทวิภาคี3.1.1 (MOU ว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีในการขจัดการค้าเด็กและหญิงและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการค้ามนุษย์) ซึ่งไทยได้มีความตกลงกับกัมพูชา (ปี 2546) ลาว (ปี 2548) เวียดนาม (ปี 2551) และเมียนมาร์ (ปี 2552) บันทึกความเข้าใจ

































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
การดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์



ประเทศไทยหยิบยกปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจังตั้งแต่ปีพ . ศ . ๒๕๔๗มีบทบาทช่วยพ . Flying " . ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ . ศ .๒๕๕๑ ( ต่อต้านการค้ามนุษย์ Act 2008 ) และกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ( พ . ศ .๒๕๕๔ - ๒๕๕๙ ) ที่ให้ความสำคัญ๕ด้านความการป้องกันการดำเนินคดีการคุ้มครองช่วยเหลือการพัฒนากลไกเชิงนโยบายและการขับเคลื่อนการพัฒนาและการบริหารข้อมูล



กลไกการดำเนินงานในประเทศไทยกลไกการดำเนินงานเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ประกอบด้วยคณะกรรมการระดับชาติ๒คณะได้แก่ ( ๑ ) คณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการค้ามนุษย์ ( ปคม .) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและ ( ๒ ) คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ( ปกค ) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและคณะอนุกรรมการต่างจะเพื่อผลักดันนโยบายระดับชาตินอกจากนี้พรบ .ดังกล่าวยังได้มีการกำหนดให้จัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์โดยมีการใช้เงินทุนในสองส่วนได้แก่การช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และซึ่งหน่วยงานทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชนสามารถเสนอโครงการเพื่อขอใช้งบประมาณกองทุนฯโดยเลขาธิการของกลไกระดับชาติรวมทั้งการบริหารกองทุนฯอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ( พม .)

ในระดับจังหวัดมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระดับจังหวัดซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและในระดับหน่วยงานโดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามเช่นกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ภายใต้สำนักงานตำรวจแห่งชาติศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศภายใต้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นต้น

ทั้งนี้รัฐบาลเน้นการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในกลไกทั้งในระดับชาติโดยมีผู้ทรงคุณวุติจากภาคประชาสังคมเป็นกรรมการในคณะกรรมการระดับชาติและระดับจังหวัดโดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ


๒ . การดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

เนื่องจากไทยอยู่ในสถานะประเทศต้นทางทางผ่านและปลายทางของการค้ามนุษย์นโยบายเพื่อแก้ไขป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทยให้ความสำคัญกับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เป็นหลัก ( เหยื่อตรงกลาง )การปราบปรามและดำเนินคดีขบวนการค้ามนุษย์รวมถึงการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ซึ่งนโยบายที่ไทยกำลังให้ความสำคัญในปัจจุบันมีดังนี้

การดำเนินงานเกี่ยวกับผู้โยกย้ายถิ่นฐานที่เหมาะสมของไทยเมื่อเดือนกันยายน๒๕๕๖นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมหารือในประเด็นดังกล่าวโดยเน้นการเคารพหลักสิทธิมนุษยชนจะโดยรัฐบาลกำลังพิจารณาเรื่องการปรับสิทธิด้านการรักษาพยาบาลแรงงานต่างด้าวจากเดิมที่มีอยู่ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั้งนี้เพื่อรองรับการเตรียมตัวเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน

การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมประมงซึ่งมีการดำเนินงานที่สำคัญได้แก่ ( ๑ ) การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองซึ่งลักลอบทำงานบนเรือประมงปีละ๒เดือน ( ๒ ) จัดตั้งศูนย์ประสานแรงงานประมงใน๗( กัน ) การประกาศใช้แนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดีสำหรับสถานประกอบการแปรรูปสัตว์น้ำเบื้องต้นในอุตสาหกรรมแปรรูปกุ้งและอาหารทะเลในประเทศไทย ( ดีการปฏิบัติด้านแรงงาน แนวทางหลักในสถานประกอบการแปรรูปกุ้งและอาหารทะเลอุตสาหกรรมของประเทศไทยเป็นเรื่อง ppw )๒๕๕๖ซึ่งเน้นการขจัดการใช้แรงงานบังคับการใช้แรงงานเด็กเสรีภาพในการสมาคมการเจรจาต่อรองร่วมและความร่วมมือในสถานประกอบกิจการการไม่เลือกปฏิบัติค่าจ้างชั่วโมงการทำงานค่าชดเชยความปลอดภัยและการเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจแรงงานประมง
( โตเกียว )
การช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยเน้นการดำเนินงานที่การให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดย ( ๑ ) อนุญาตให้อยู่ในปทท .ได้ชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจรวมทั้งการฝึกอาชีพและทักษะ ( ๒ ) การอนุญาตให้ผู้เสียหายสามารถออกไปทำงานนอกบ้านพักเมื่อมีความพร้อม ( กัน ) การดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมให้กับผู้เสียหายจากภาครัฐ


ไป . การดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

กระทรวงการต่างประเทศมีภารกิจที่เกี่ยวข้องในด้านการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายชาวไทยในต่างประเทศผ่านการดำเนินงานของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลทั่วโลกและการดำเนินความร่วมมือในประเด็นการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและระดับพหุภาคีซึ่งการดำเนินงานระดับระหว่างประเทศที่สำคัญมีดังนี้



ไป ไป ระดับทวิภาคี . ๑ . ๑ .๑บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและสตรีและการช่วยเหลือเหยื่อของการค้ามนุษย์ ( MOU ว่าด้วยความร่วมมือในการขจัดการค้าเด็กและหญิง และการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ) ซึ่งไทยได้มีความตกลงกับกัมพูชา ( . ๒๕๔๖ ) ลาว ( . ๒๕๔๘ )( ( . . ๒๕๕๑ ) และเมียนมาร์๒๕๕๒ ) โดยกำลังมีความริเริ่มปรับเนื้อหาของ MOU เพื่อให้เป็นปัจจุบันเพื่อสามารถรองรับสถานการณ์การค้ามนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไป
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: