Eating breakfast is important and s

Eating breakfast is important and should not skipping or eating small breakfast, because it will stimulate hunger to make dietary energy-dense foods, which studies have analyzed that. Breakfast consumption affects small increases in BMI, while consuming large breakfast BMI decreased, but identified only in men. Not to say that it has a relationship with a woman or not. Probably because the number of women involved have declined steadily since 1986 to 2005. The data are insufficient to analyze how men
so. This research can be used to reduce the prevalence of obesity in men.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รับประทานอาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญ และควรไม่ข้าม หรือรับประทานอาหารเช้าเล็ก เนื่องจากจะเป็นกระตุ้นความหิวให้อาหารอาหารพลังงานหนาแน่น การศึกษาที่มีวิเคราะห์ที่ ปริมาณอาหารเช้ามีผลต่อการเพิ่มขนาดเล็กใน BMI ขณะบริโภคอาหารเช้าใหญ่ BMI ลดลง แต่ระบุเฉพาะในผู้ชาย ไม่ต้องพูดว่า มีความสัมพันธ์กับผู้หญิง หรือไม่ อาจเป็น เพราะมีปฏิเสธหมายเลขของผู้หญิงที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1986-2005 ข้อมูลมีไม่เพียงพอในการวิเคราะห์ว่าคน เพื่อให้ งานวิจัยนี้สามารถใช้เพื่อลดความชุกของโรคอ้วนในคน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กินอาหารเช้าเป็นสิ่งที่สำคัญและไม่ควรกระโดดหรือการรับประทานอาหารเช้าที่มีขนาดเล็กเพราะมันจะช่วยกระตุ้นความหิวเพื่อให้อาหารพลังงานสูงอาหารซึ่งจากการศึกษาได้วิเคราะห์ว่า การบริโภคอาหารเช้ามีผลต่อการเพิ่มขึ้นของค่าดัชนีมวลกายเล็ก ๆ ในขณะที่การบริโภคอาหารเช้ามื้อใหญ่ค่าดัชนีมวลกายลดลง แต่ระบุเพียงในผู้ชาย ไม่ได้บอกว่ามันมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงหรือไม่ อาจเป็นเพราะจำนวนของผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1986 เพื่อ 2005 ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะวิเคราะห์ว่าคน
ดังนั้น งานวิจัยนี้สามารถนำมาใช้ในการลดความชุกของโรคอ้วนในผู้ชาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รับประทาน อาหารเช้าเป็นสิ่งสำคัญและไม่ควรข้าม หรือกินอาหารเช้าน้อยเพราะจะกระตุ้นความหิว เพื่อให้ผลิตภัณฑ์พลังงานอาหารข้น ซึ่งการศึกษาได้วิเคราะห์ว่า การบริโภคอาหารเช้ามีผลต่อการเพิ่มขนาดเล็กในดัชนีมวลกาย BMI ในขณะที่การบริโภคอาหารเช้าขนาดใหญ่ลดลง แต่ระบุเฉพาะในผู้ชาย ไม่ได้บอกว่ามันมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงหรือไม่อาจเป็นเพราะจำนวนของผู้หญิงที่เกี่ยวข้องได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2529 ถึงปี 2005 ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะวิเคราะห์ว่าผู้ชาย
. งานวิจัยนี้สามารถใช้เพื่อช่วยลดความชุกของการเกิดโรคอ้วนในคน