On the morning of June 9, 1946, the

On the morning of June 9, 1946, the 20-year-old Ananda Mahidol, King Rama VIII of Siam, was shot through the head and killed in his bedroom in the Barompiman Hall building in the Grand Palace complex in Bangkok. Later that day his 18-year-old brother Bhumibol Adulyadej was proclaimed King Rama IX. Bhumibol has reigned ever since: he is now an old and frail man, confined to Siriraj Hospital on the west bank of the Chao Phraya River that weaves through the capital, but he remains Thailand's king.

Officially, the killing is described as a mystery, one of the world's most extraordinary unsolved crimes of the past century. In reality, it has long been clear who killed Ananda. The truth has been suppressed by Thailand's establishment, partly through use of the draconian law of lèse majesté, Article 112 of Thailand's criminal code, which has been used to criminalize open and honest discussion of Thai history and politics.

Within minutes of Ananda's death, the crime scene was deliberately tampered with to hide the evidence of what really happened. Those who were in the Barompiman Hall that morning have never publicly revealed the truth of what happened, and only one of them remains alive: King Bhumibol himself. It seems likely that he will never reveal what happened, and will take his secret to the grave. The official investigation into Ananda's death considered three possibilities: that he was murdered, committed suicide, or shot himself by accident.

The investigation deliberately excluded a fourth possibility: that Ananda was accidentally shot by somebody else. This fourth possibility is the truth. Ananda Mahidol was shot and killed by his brother Bhumibol. It seems inconceivable that the killing was premeditated. It was a terrible tragic accident or aberration, and it has haunted Bhumibol Adulyadej ever since.

Bhumibol is a dying, decrepit old man now. It is clear he has suffered a lifetime of shame and sorrow because of what happened that morning in 1946. Many Thais believe the truth should remain buried, because revealing it now will only cause more pain. But 21st century Thailand is mired in an agonizing crisis because of the refusal of powerful factions among the elite to allow open and honest debate about the country's past, and about its future. The lèse majesté law has blighted Thailand. It is time for the truth to be told, so Thailand can move forward.

Despite the destruction of evidence, and the fact that those involved lied about what happened, it is possible to reconstruct how Ananda died. The first key point is that there is no credible possibility that an unknown assassin sneaked into the Grand Palace that morning, took Ananda's Colt .45 automatic pistol from his bedside cabinet, shot him through the head with it, and escaped, unseen by anyone. The killer can only have been somebody in the Barompiman Hall.

In the immediate aftermath of Ananda's death, it was widely assumed that he had commited suicide. The large assembly of princes and politicians who gathered downstairs in the Barompiman Hall after Ananda’s death did not spend much time debating whether he had been assassinated by an intruder — as they surely would have done if there were genuine suspicions that this had been the case — but instead fretted over how to explain Ananda’s death to the public. Ananda's mother Sangwan begged Pridi Banomyong, the inspirational statesman who was prime minister at the time, to declare that the shooting was a self-inflicted accident rather than suicide. Partly in order to preserve royal prestige, Pridi and the government complied.

But the story that Ananda shot himself by mistake was never remotely plausible. The Colt is a relatively heavy handgun, weighing more than a kilogram when fully loaded, and to be fired it requires considerable pressure to be placed not just on the trigger but also simultaneously on a safety panel on the back of the butt. The chances of Ananda doing this by accident, while the gun was pointed at his forehead, were extremely slim. Furthermore, the gun was found lying beside Ananda’s left hand. But he was right handed. Also the evidence seemed to suggest that Ananda had been lying flat on his back when he was shot. And he had not been wearing his spectacles, without which his vision was appalling. It seemed barely credible that Ananda would have been playing with his Colt .45 while lying on his back and without his glasses.

Suicide was a slightly more credible theory, but for many of the same reasons that ruled out Ananda accidentally shooting himself, it seemed desperately unlikely. It is almost unheard of for somebody to commit suicide lying on their back, and the trajectory the bullet had taken through Ananda’s skull was also very unusual for a suicide. Within hours of Ananda's death, royalist politicans — in particular Seni Pramoj — began spreading rumours that Pridi Banomyong had conspired to have Ananda murdered. This allegation was entirely bogus, and no credib

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

9 มิถุนายน 1946 รถ 20 ปีอานันทมหิดล VIII พระรามกษัตริย์ของสยาม ยิงผ่านหัว และฆ่าตายในห้องนอนของเขาในห้อง Barompiman อาคารในพระบรมมหาราชวังในกรุงเทพมหานคร ให้น้องชายอายุ 18 ปีภูมิพลอดุลยเดชถูกประกาศรโหฐาน พระองค์ได้ครองราชย์นับตั้งแต่: เขามีอายุ และร่างกายอ่อนแอคน จำกัดโรงพยาบาลศิริราชในฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาที่สานผ่านเมืองหลวง แต่เขายังคงถวาย อย่างเป็นทางการ การฆ่าอธิบายเป็นลึกลับ อาชญากรรมไม่งดงามที่สุดในโลกของศตวรรษที่ผ่านมาอย่างใดอย่างหนึ่ง ในความเป็นจริง มันได้ชัดเจนผู้ที่ฆ่าอนันดา ความจริงมีการถูกระงับ โดยก่อตั้งในประเทศไทย บางส่วนผ่านการใช้งานโหมกระหน่ำใส่เดชานุภาพ บทความ 112 ไทยอาญา ซึ่งใช้การอภิปรายเปิด และซื่อสัตย์ของประวัติศาสตร์และการเมืองอันเป็น กฎหมาย ภายในนาทีแห่งความตายของอนันดา ฉากอาชญากรรมถูกจงใจเปลี่ยนแปลงด้วยการซ่อนหลักฐานของสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ ผู้ที่อยู่ในฮอลล์ Barompiman เช้าวันนั้นเผยไม่เคยได้เปิดเผยความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น และเพียงหนึ่งของพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่: พระองค์เอง เหมือนมีแนวโน้มว่า เขาจะเปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้น และจะนำความลับที่ไปไม่ การสอบสวนอย่างเป็นทางการของอนันดาตายถือว่าความเป็นไปได้ที่สาม: ว่า เขาถูกฆ่าตาย สร้าง หรือยิงพระองค์เอง โดยอุบัติเหตุ การสอบสวนจงใจแยกออกไปได้สี่: อนันดาว่าตั้งใจถ่าย โดยคนอื่น นี้เป็นไปได้ที่สี่คือ ความจริง อานันทมหิดลถูกยิง และฆ่าตาย โดยพี่ชายของเขาพระบาท เหมือนเล่าว่า ถูกล้มฆ่า มันเป็นอุบัติเหตุน่าเศร้าน่ากลัวหรือความคลาดเคลื่อน แล้วมันมีผีสิงภูมิพลอดุลยเดชนับตั้งแต่ ภูมิพลเป็นคนเก่าตาย ระอา เลยเขามีประสบการชีวิตของความอัปยศและความเศร้าโศก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1946 เช้าวัน คนไทยจำนวนมากเชื่อความจริงควรยังคงฝัง เพราะเปิดเผยตอนนี้จะทำให้ปวดมากขึ้นเท่านั้น แต่ศตวรรษที่ 21 ไทยเป็นดักดานวิกฤติการปราศเนื่องจากการปฏิเสธของฝ่ายในหมู่ชนชั้นสูงที่มีประสิทธิภาพให้ความซื่อสัตย์ และเปิดอภิปราย เกี่ยวกับอดีตของประเทศ และอนาคตของ โหมกระหน่ำใส่เดชานุภาพกฎหมายได้ทำลายประเทศไทย มันเป็นเวลาสำหรับความจริงที่จะบอก เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปข้างหน้า แม้ มีการทำลายหลักฐาน และความจริงที่ว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโกหกเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น จำเป็นต้องสร้างวิธีการเสียชีวิตของอนันดา จุดสำคัญแรกคือ ว่า มีความเป็นไปได้น่าเชื่อถือว่า เป็นฆาตกรที่ไม่รู้จัก sneaked ในพระบรมมหาราชวังว่า เช้า เอาของอนันดาค้น.45 ปืนอัตโนมัติจากข้างเตียงเขาตู้ ภาพเขาผ่านหัวกับมัน และ หนี มองไม่เห็น โดยทุกคน นักฆ่าที่สามารถเท่านั้นแล้วคนในห้องโถง Barompiman ในผลพวงของการเสียชีวิตของอนันดาทันที มันถูกกันสันนิษฐานว่า เขาฆ่าตัวตายมุ่งมั่น การชุมนุมใหญ่ของคนดังและนักการเมืองที่รวบรวมชั้นล่างโถง Barompiman หลังจากเสียชีวิตของอนันดาไม่ได้ใช้เวลามากโต้วาทีว่า เขาได้แล้วถูกลอบสังหาร โดยการบุก — ตามที่พวกเขาก็จะทำถ้ามีของแท้สงสัยว่า นี้ได้รับกรณี — แต่แทน สร้างผ่านวิธีการอธิบายของอนันดาตายให้กับประชาชน แม่ของอนันดา Sangwan ขอร้องปรีดีพนมยงค์ รัฐบุรุษสร้างแรงบันดาลใจที่นายกรัฐมนตรีในเวลา ประกาศการถ่ายว่าเป็นอุบัติเหตุที่ต่อสู้ด้วยตัวเองแทนที่ฆ่าตัวตาย บางส่วนเพื่อรักษาอโว ปรีดีและรัฐบาลปฏิบัติตาม แต่เรื่องที่อนันดาถ่ายตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจก็ไม่เคยเป็นไปได้จากระยะไกล ค้นคือ ปืนพกน้ำหนัก ชั่งน้ำหนักมากกว่าโหลดกิโลกรัมเมื่อเต็ม และสามารถใช้งานมันต้องใช้แรงดันมากไม่ใช่แค่ในทริกเกอร์วาง แต่ยังพร้อมกันบนความปลอดภัยแผงด้านหลังของก้น โอกาสของการทำเช่นนี้ โดยบังเอิญ ในขณะที่ปืนถูกชี้ไปที่หน้าผากของเขา อนันดาได้บางมาก นอกจากนี้ ปืนพบนอนอยู่ข้างซ้ายของอนันดา แต่เขาถูกมือขวา นอกจากนี้ หลักฐานที่ดูเหมือนจะ แนะนำว่า อนันดาได้รับนอนแบนบนหลังของเขาเมื่อเขาถ่าย และเขาได้ไม่ได้สวมใส่แว่นตาของเขา โดยที่วิสัยทัศน์ของเขาก็น่ากลัว มันดูเหมือนแทบไม่น่าเชื่อถือว่า อนันดาจะเล่นกับเขาค้น.45 ขณะนอนอยู่ บนหลังของเขา และไม่ มีเขาแก้ว ฆ่าตัวตายเป็นทฤษฎีที่น่าเชื่อถือมากขึ้นเล็กน้อย แต่สำหรับหลาย ๆ คนเหตุผลเดียวกันที่ปกครองออกอนันดาตั้งใจถ่ายตัวเอง ดูเหมือนไม่น่าหมด เกือบเคยได้ยินจากสำหรับคนฆ่าตัวตายนอนอยู่บนหลังของพวกเขา และวิถีกระสุนได้นำผ่านกะโหลกศีรษะของอนันดาก็ผิดปกติมากสำหรับการฆ่าตัวตาย ภายในชั่วโมงแห่งความตายของอนันดา royalist politicans — โดยเฉพาะอย่างยิ่งหม่อมราชวงศ์เสนีย์ปราโมชใน — เริ่มแพร่ข่าวลือที่ว่า มีการสมคบกันยงค์มีอนันดาฆ่าตาย ข้อกล่าวหานี้ถูกปลอมทั้งหมด และไม่ credib

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในเช้าวันที่ 9 มิถุนายน 1946 ที่ 20 ปีอานันทมหิดลรัชกาลที่ VIII สยามถูกยิงผ่านหัวและถูกฆ่าตายในห้องนอนของเขาในอาคาร Barompiman ฮอลล์ในแกรนด์พาเลซที่ซับซ้อนในกรุงเทพฯ หลังจากวันนั้นพี่ชาย 18 ปีของเขาภูมิพลอดุลยเดชได้รับการประกาศรัชกาลทรงเครื่อง ภูมิพลได้ขึ้นครองราชย์แทนนับตั้งแต่: ตอนนี้เขาเป็นคนเก่าแก่และอ่อนแอกักตัวไว้ที่โรงพยาบาลศิริราชบนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทอดผ่านเมืองหลวง แต่เขายังคงเป็นกษัตริย์ของประเทศไทย.

อย่างเป็นทางการฆ่าอธิบายเป็นลึกลับ หนึ่งของการก่ออาชญากรรมไม่แก้ของโลกที่พิเศษที่สุดของศตวรรษที่ผ่านมา ในความเป็นจริงมันมีมานานชัดเจนใครเป็นคนฆ่าอนันดา ความจริงได้ถูกปราบปรามโดยสถานประกอบการของไทยบางส่วนผ่านการใช้กฎหมายที่เข้มงวดของหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาของไทยซึ่งได้รับการใช้ในการเป็นอาชญากรเปิดกว้างและซื่อสัตย์อภิปรายของประวัติศาสตร์และการเมืองไทย.

ภายในไม่กี่นาทีของการตายของอนันดาฯ ที่ ที่เกิดเหตุได้รับการดัดแปลงจงใจกับที่จะซ่อนหลักฐานของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ บรรดาผู้ที่อยู่ในฮอลล์เช้า Barompiman ที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชนความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นและมีเพียงหนึ่งของพวกเขายังคงมีชีวิต: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลตัวเอง มันดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยเผยให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและจะใช้ความลับของเขาที่หลุมฝังศพ การสอบสวนอย่างเป็นทางการในการตายของอนันดารับการพิจารณาเป็นไปได้สาม: ว่าเขาถูกฆ่าตายฆ่าตัวตายหรือยิงตัวตายโดยอุบัติเหตุ.

การสอบสวนจงใจไม่รวมความเป็นไปได้ที่สี่: อนันดาที่ถูกยิงโดยบังเอิญคนอื่น เป็นไปได้นี้ที่สี่คือความจริง อานันทมหิดลถูกยิงและถูกฆ่าโดยพี่ชายของเขาภูมิพล ดูเหมือนว่าไม่น่าเชื่อว่าฆ่าได้รับการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า มันเป็นอุบัติเหตุอันน่าเศร้าที่น่ากลัวหรือความผิดปกติและมันมีผีสิงภูมิพลอดุลยเดชนับตั้งแต่.

ภูมิพลเป็นตายคนเก่าเสื่อมในขณะนี้ มันเป็นที่ชัดเจนว่าเขาได้รับความเดือดร้อนอายุการใช้งานของความอัปยศและความเศร้าโศกเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนั้นในปี 1946 คนไทยหลายคนเชื่อความจริงจะยังคงฝังอยู่เพราะเปิดเผยได้ในขณะนี้จะทำให้เกิดอาการปวดมากขึ้น แต่ในศตวรรษที่ 21 ประเทศไทยติดหล่มอยู่ในภาวะวิกฤตที่ทนทุกข์ทรมานเพราะการปฏิเสธของฝ่ายที่มีประสิทธิภาพในหมู่ชนชั้นที่จะอนุญาตให้เปิดอภิปรายและมีความซื่อสัตย์เกี่ยวกับอดีตของประเทศและเกี่ยวกับอนาคตของตน กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้ลีบประเทศไทย มันเป็นเวลาสำหรับความจริงที่จะบอกเพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปข้างหน้า.

แม้จะมีการทำลายหลักฐานและความจริงที่ว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการโกหกเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นไปได้ที่จะสร้างวิธีอนันดาเสียชีวิต จุดสำคัญแรกคือว่าไม่มีความเป็นไปได้ที่น่าเชื่อถือว่าเป็นฆาตกรที่ไม่รู้จักแอบเข้ามาในพระบรมมหาราชวังในเช้าวันนั้นเอาของอนันดา Colt .45 ปืนพกอัตโนมัติจากตู้ข้างเตียงของเขายิงเขาผ่านหัวกับมันและหนีที่มองไม่เห็นโดยทุกคน ฆาตกรเท่านั้นที่สามารถได้รับใครสักคนในฮอลล์ Barompiman.

ในทันทีหลังการตายของอนันดามันก็สันนิษฐานว่าเขามุ่งมั่นที่ฆ่าตัวตาย การชุมนุมใหญ่ของเจ้าชายและนักการเมืองที่มารวมตัวกันที่ชั้นล่างใน Barompiman ฮอลล์หลังจากการตายของอนันดาไม่ได้ใช้เวลามากถกเถียงกันว่าเขาได้รับการลอบสังหารโดยผู้บุกรุก - ขณะที่พวกเขาก็จะได้ทำถ้ามีข้อสงสัยของแท้ที่ว่านี้ได้รับกรณีที่ - แต่นมแทนมากกว่าวิธีการที่จะอธิบายการตายของอนันดาฯ ให้กับประชาชนทั่วไป อนันดาแม่ของสังวาลย์ขอร้องปรีดีพนมยงค์รัฐบุรุษสร้างแรงบันดาลใจที่เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้นที่จะประกาศว่าการถ่ายภาพเป็นอุบัติเหตุตนเองลือมากกว่าการฆ่าตัวตาย ส่วนหนึ่งเพื่อที่จะรักษาพระราชศักดิ์ศรีปรีดีและรัฐบาลปฏิบัติตาม.

แต่เรื่องที่อนันดายิงตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจก็ไม่เคยเป็นไปได้จากระยะไกล หนุ่มเป็นปืนที่ค่อนข้างหนักมีน้ำหนักมากกว่ากิโลกรัมเมื่อโหลดอย่างเต็มที่และจะยิงมันต้องใช้แรงดันมากจะอยู่ไม่เพียง แต่ในไก แต่ยังพร้อมกันบนแผงด้านความปลอดภัยบนด้านหลังของก้น โอกาสของอนันดาทำเช่นนี้โดยบังเอิญขณะที่ปืนชี้ไปที่หน้าผากของเขาบางเฉียบ นอกจากปืนถูกพบนอนอยู่ข้างมือซ้ายของอนันดาฯ แต่เขาเป็นมือขวา นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่ดูเหมือนจะชี้ให้เห็นว่าอนันดาได้รับการนอนราบบนหลังของเขาเมื่อเขาถูกยิง และเขาก็ไม่ได้รับการสวมใส่แว่นตาของเขาโดยที่วิสัยทัศน์ของเขาก็น่ากลัว มันลำบากแทบจะไม่น่าเชื่อถือว่าอนันดาจะได้รับการเล่นกับเขา Colt .45 ขณะนอนอยู่บนหลังของเขาและไม่สวมแว่นของเขา.

ฆ่าตัวตายเป็นทฤษฎีที่น่าเชื่อถือมากขึ้นเล็กน้อย แต่สำหรับหลาย ๆ เหตุผลเดียวกับที่ตัดออกอนันดาตั้งใจยิงตัวเองก็ลำบาก ไม่น่าหมด มันเกือบจะไม่เคยได้ยินจากใครสักคนจะฆ่าตัวตายนอนอยู่บนหลังของพวกเขาและวิถีกระสุนได้รับผ่านกะโหลกศีรษะของอนันดาก็ยังผิดปกติมากสำหรับการฆ่าตัวตาย ภายในไม่กี่ชั่วโมงของการตายของอนันดาฯ politicans สนับสนุนพระมหากษัตริย์ - โดยเฉพาะในเสนีย์ปราโมช - เริ่มแพร่กระจายข่าวลือที่ว่าปรีดีพนมยงค์ได้สมคบกันเพื่อมีอนันดาถูกฆ่าตาย ข้อกล่าวหานี้เป็นของปลอมทั้งหมดและไม่มี credib

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในเช้าวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ( ค.ศ. 1946 ) , 20 อานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ของสยามประเทศถูกยิงผ่านหัวและฆ่าในห้องนอนของเขาใน barompiman Hall อาคารในพระราชวังที่ซับซ้อนในกรุงเทพมหานคร หลังจากวันนั้น น้องเขาอายุ 18 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ 9 ภูมิพลถูกประกาศว่าได้ครอบครองตั้งแต่ : ตอนนี้เขาเป็นชายชราและอ่อนแอลง แต่ไปโรงพยาบาลศิริราชอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ทอดผ่านเมืองหลวง แต่เขายังคงเป็นพระมหากษัตริย์ของไทย .อย่างเป็นทางการ การฆ่ามันอธิบายเป็นปริศนาหนึ่งของอาชญากรรมพิเศษที่สุดของโลกปริศนาของศตวรรษที่ผ่านมา ในความเป็นจริงมันได้รับการชัดเจนว่าใครฆ่า อนันดา ความจริงได้ถูกปราบโดยไทยตั้ง บางส่วนผ่านการใช้กฎหมายเข้มงวดของ l è se majest é , บทความ 112 ของประมวลกฎหมายอาญาของไทย ซึ่งมีการใช้เพื่อ criminalize เปิดอภิปรายเที่ยงตรงของประวัติศาสตร์และการเมืองภายในไม่กี่นาทีของอนันดาเสียชีวิต ที่เกิดเหตุเป็นการจงใจบิดเบือนเพื่อซ่อนหลักฐานของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คนที่อยู่ใน barompiman Hall ตอนเช้าไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชนเปิดเผยความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นและเพียงหนึ่งของพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้น และจะเอาความลับของเขาจนตาย เจ้าหน้าที่สอบสวนการตายของอนันดาถือว่า 3 ความเป็นไปได้ : ที่เขาถูกฆ่าตาย ฆ่าตัวตาย หรือยิงตัวตายโดยอุบัติเหตุการจงใจไม่รวมความเป็นไปได้ที่สี่ที่อนันดาบังเอิญยิงโดยใครบางคน ความเป็นไปได้ที่สี่นี้คือความจริง อานันทมหิดล ถูกยิงและถูกฆ่าโดยพี่ชายของเขาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดูเหมือนว่านึกไม่ถึงว่าฆ่าได้ไว้ก่อน มันเป็นน่ากลัวอุบัติเหตุโศกสลด หรือเกิดความผิดปกติ และมันมีผีสิงภูมิพลอดุลยเดชตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ ตาย แก่ชราแล้ว มันชัดเจนว่าเขามีทุกข์ตลอดชีวิตของความอัปยศและความเศร้าโศก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนั้น ในปี 1946 คนไทยหลายคนเชื่อว่าความจริงน่าจะยังคงฝัง เพราะเปิดเผยแล้ว จะทำให้ปวดมากขึ้น แต่ศตวรรษที่ 21 ประเทศไทยตกอยู่ในวิกฤตของการทนทุกข์ทรมานเพราะพลังของฝ่ายชนชั้นนำเพื่อช่วยในการอภิปรายเปิดและซื่อสัตย์เกี่ยวกับอดีตของประเทศ และอนาคตของ l è se majest ) กฎหมายได้เพราะว่าประเทศไทย มันเป็นเวลาที่ให้พูดความจริงเพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้จะมีการทำลายหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องโกหกเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นไปได้เพื่อสร้างวิธีการ อนันดา เสียชีวิต จุดสำคัญคือ มีความเป็นไปได้ว่า นักฆ่าที่ไม่รู้จักที่แอบเข้าไปในพระบรมมหาราชวังเช้าวันนั้น เอาอนันดา โคลท์ . 45 ปืนพกอัตโนมัติจากตู้ข้างเตียงของเขา ยิงหัว กับ มัน และหนีไปที่มองไม่เห็นโดยใคร ฆาตกรจะถูกใครบางคนใน barompiman Hallในทันทีหลังของอนันดา ตาย มันเป็นกันอย่างแพร่หลาย สันนิษฐานว่าเขาฆ่าตัวตาย ขนาดใหญ่ประกอบเจ้านายและนักการเมือง ที่รวมตัวกันข้างล่างใน barompiman ฮอลล์หลังจากที่อนันดาความตายไม่ได้ใช้เวลามากสนับสนุนว่า เขาได้ถูกลอบสังหารโดยผู้บุกรุก - เช่นที่พวกเขาก็จะทำหากมีข้อสงสัยแท้ที่ว่านี้ได้รับกรณีแต่ fretted มากกว่าวิธีการอธิบาย อนันดา ตายเพื่อสาธารณะ . อนันดาแม่สังวาลย์ ขอร้อง ปรีดี พนมยงค์ , แรงบันดาลใจรัฐบุรุษที่เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น เพื่อประกาศว่าถ่ายภาพตนเองลืออุบัติเหตุมากกว่าการฆ่าตัวตาย บางส่วนเพื่อรักษาศักดิ์ศรีราช ปรีดี และรัฐบาลปฏิบัติตามแต่เรื่องที่อนันดายิงตัวเองผิดไม่ได้จากระยะไกลที่สัมพันธ์ ปืนก็ปืนหนักค่อนข้างหนักกว่า กิโลกรัม เมื่อเต็มแล้วจะยิงมันต้องมีความกดดันมากอยู่ไม่ใช่แค่เรียก แต่ยังพร้อมกันบนแผงตู้ด้านหลังของก้น โอกาสของ อนันดา ทำโดยอุบัติเหตุ , ในขณะที่ปืนจ่อที่หน้าผาก มีมากบาง นอกจากนี้ ยังพบปืนข้างๆ อนันดา อยู่ซ้ายมือ แต่เขาถนัดมือขวา นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่ดูเหมือนจะชี้ให้เห็นว่า อนันดาได้นอนราบบนหลังของเขา ตอนที่เขาถูกยิง และเขาไม่ได้สวมแว่นของเขา โดยที่สายตาของเขาก็ถดถอย มันดูเหมือนจะน่าเชื่อถือว่าอนันดาจะได้เล่นกับ โคลท์ . 45 ขณะนอนอยู่บนหลังของเขาและไม่มีแว่นตาของเขาการฆ่าตัวตายเป็นทฤษฎีที่น่าเชื่อถือมากขึ้นเล็กน้อย แต่สำหรับหลายเหตุผลเดียวกันว่า ปกครองออก อนันดาตั้งใจยิงตัวเอง ดูเหมือนจะหมดหวังเสียแล้ว มันเกือบจะไม่เคยได้ยินจากใครบางคนฆ่าตัวตายไว้บนหลังของพวกเขาและวิถีกระสุนได้เจาะกะโหลก อนันดาก็ผิดปกติมากสำหรับการฆ่าตัวตาย ภายในไม่กี่ชั่วโมงของอนันดา ตาย โดยเฉพาะกษัตริย์ politicans - ปราโมช - เริ่มแพร่กระจายข่าวลือว่า ปรีดี พนมยงค์ ได้ร่วมกันมี อนันดา ฆาตกรรม ข้อกล่าวหานี้ทั้งหมด ปลอม