Controlling pollination is necessar

Controlling pollination is necessary to ensure maximum kernel set and high levels of genetic purity in maize. Current approaches for measuring maize pollen production are fairly simple and accurate, but they do not evaluate pollen viability. A simple and reliable technique to assess loss of pollen viability during its transport in air is required to simulate the pollination process and the risk of out-crossing associated with pollen dispersal. Anecdotal evidence indicates that pollen shed from anthers remains viable longer at low temperature and high relative humidity (RH). But a direct temporal relationship between loss of pollen viability and these environmental conditions is lacking. We tested whether vapor pressure deficit (VPD) could be used to simulate the rate of pollen desiccation and subsequent loss of viability. Fresh pollen was harvested from greenhouse and field-grown plants and exposed to a range of VPD generated using a factorial combination of temperatures and RH. After exposure from 0 to 2 h to known VPD, viability of the treated pollen was tested in vitro. These tests indicated that pollen grains are released from anthers at about 55–60% moisture content, and that subsequent desiccation is a function of air temperature, RH and time. These factors were incorporated into a single relationship that described the rate of pollen desiccation for several genotypes. Pollen viability decreased linearly (r2 ranged from 0.77 to 0.93) with pollen moisture content (PMC) to zero at PMC ≈ 30%. Together, these relationships provide a simple approach to assess loss of maize pollen viability under field conditions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การควบคุม pollination เป็นจำเป็นต้องตั้งค่าเคอร์เนลที่สูงสุดและระดับสูงของความบริสุทธิ์ทางพันธุกรรมในข้าวโพด วิธีปัจจุบันวัดละอองเกสรข้าวโพดผลิตได้ค่อนข้างง่าย และถูกต้อง แต่พวกเขาไม่ประเมินชีวิตละอองเกสร เทคนิคง่าย และเชื่อถือได้การประเมินการสูญเสียชีวิตของละอองเกสรในระหว่างการขนส่งในอากาศจะต้องจำลองการ pollination และความเสี่ยงของการข้ามเข้าเกี่ยวข้องกับละอองเกสร dispersal เล็ก ๆ หลักฐานบ่งชี้ว่า ละอองเกสรที่หลั่งจากเหมือนยังคงทำงานได้อีกต่อไปที่อุณหภูมิต่ำและสูงความชื้นสัมพัทธ์ (RH) แต่ขาดความสัมพันธ์โดยตรงขมับระหว่างการสูญเสียชีวิตของละอองเกสรและสภาพแวดล้อมเหล่านี้ เราทดสอบว่าดุลความดันไอ (VPD) สามารถใช้จำลองอัตรา desiccation ละอองเกสรและสูญเสียชีวิตตามมา Pollen สดเก็บเกี่ยวจากเรือนกระจกและฟิลด์ที่มีปลูกพืช และสัมผัสเป็นช่วงของ VPD สร้างใช้แฟกอุณหภูมิและ RH หลังจากสัมผัส 0 h 2 การรู้จัก VPD ชีวิตของละอองเกสรบำบัดถูกทดสอบใน ทดสอบเหล่านี้บ่งชี้ว่า ธัญพืชจะออกเหมือนที่ประมาณ 55-60% ความชื้นเนื้อหา และ desiccation ที่ต่อมาจากละอองเกสรเป็นฟังก์ชันของอุณหภูมิอากาศ RH และเวลา ปัจจัยเหล่านี้ถูกรวมเป็นความสัมพันธ์หนึ่งที่อธิบาย desiccation ละอองเกสรการศึกษาจีโนไทป์หลายอัตรา ชีวิตละอองเกสรลดลงเชิงเส้นพรม (r2 อยู่ในช่วงจาก 0.77 ถึง 0.93) กับละอองเกสร มีความชื้น (PMC) เป็นศูนย์ที่≈เอ็ม 30% ร่วมกัน ความสัมพันธ์เหล่านี้ให้วิธีง่าย ๆ ในการประเมินการสูญเสียชีวิตของละอองเกสรข้าวโพดภายใต้ฟิลด์เงื่อนไข

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การควบคุมการผสมเกสรเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าชุดเคอร์เนลสูงสุดและระดับสูงของความบริสุทธิ์ทางพันธุกรรมในข้าวโพด วิธีการในปัจจุบันสำหรับการวัดการผลิตเกสรข้าวโพดค่อนข้างง่ายและถูกต้อง แต่พวกเขาไม่ได้ประเมินความมีชีวิตของละอองเกสร วิธีที่ง่ายและเชื่อถือได้ในการประเมินการสูญเสียของการมีชีวิตของละอองเกสรในระหว่างการขนส่งในอากาศจะต้องจำลองกระบวนการการผสมเกสรและความเสี่ยงของการข้ามที่เกี่ยวข้องกับการกระจายเกสร หลักฐานบ่งชี้ว่าเกสรหลั่งจากอับยังคงทำงานได้นานที่อุณหภูมิต่ำและความชื้นสัมพัทธ์สูง (RH) แต่ความสัมพันธ์ที่ขมับโดยตรงระหว่างการสูญเสียของการมีชีวิตเกสรและสภาพแวดล้อมเหล่านี้จะขาด เราได้ทดสอบว่าการขาดดุลความดันไอ (VPD) สามารถนำมาใช้ในการจำลองอัตราการผึ่งให้แห้งเกสรและการสูญเสียที่ตามมาของการมีชีวิต ละอองเกสรดอกไม้สดเก็บเกี่ยวจากเรือนกระจกและเขตปลูกพืชและสัมผัสกับช่วงของ VPD สร้างขึ้นโดยใช้การรวมกันของปัจจัยอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ หลังจากได้รับ 0-2 ชั่วโมงเพื่อ VPD ที่รู้จักกันมีชีวิตของละอองเกสรดอกไม้ได้รับการรักษาได้รับการทดสอบในหลอดทดลอง การทดสอบเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าละอองเรณูจะถูกปล่อยออกจากอับเรณูที่ประมาณ 55-60% ความชื้นและผึ่งให้แห้งตามมาว่าเป็นหน้าที่ของอุณหภูมิอากาศ, RH และเวลา ปัจจัยเหล่านี้ถูกรวมเข้าไปในความสัมพันธ์ที่เดียวที่อธิบายอัตราการผึ่งให้แห้งเกสรเป็นเวลาหลายสายพันธุ์ ความมีชีวิตของละอองเกสรลดลงเป็นเส้นตรง (r2 อยู่ระหว่าง 0.77-0.93) กับเกสรความชื้น (PMC) ให้เป็นศูนย์ที่ PMC ≈ 30% ร่วมกันความสัมพันธ์เหล่านี้ให้วิธีการง่ายๆในการประเมินการสูญเสียของการมีชีวิตเกสรข้าวโพดภายใต้สภาพสนาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การควบคุมการตั้งค่าเคอร์เนลจำเป็นเพื่อให้สูงสุดและระดับความบริสุทธิ์ทางพันธุกรรมในข้าวโพด แนวทางปัจจุบันวัดการผลิตเรณูข้าวโพดจะค่อนข้างง่ายและถูกต้อง แต่พวกเขาไม่ได้ประเมินความมีชีวิตของละอองเกสร .การควบคุมการตั้งค่าเคอร์เนลจำเป็นเพื่อให้สูงสุดและระดับความบริสุทธิ์ทางพันธุกรรมในข้าวโพด แนวทางปัจจุบันวัดการผลิตเรณูข้าวโพดจะค่อนข้างง่ายและถูกต้อง แต่พวกเขาไม่ได้ประเมินความมีชีวิตของละอองเกสร .แต่ตรงขมับ ความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียของความมีชีวิตของละอองเกสรและสภาวะแวดล้อมเหล่านี้คือการขาด เราทดสอบว่าขาดดุลความดันไอ ( กรมตำรวจ ) สามารถใช้ในการจำลองอัตราส่วนเกสรและความสูญเสียที่ตามมาของปลากะพงขาวง่ายและเชื่อถือได้วิธีการประเมินการสูญเสียระหว่างการขนส่งของความมีชีวิตของละอองเกสรในอากาศเป็นสิ่งจำเป็นในการจำลองกระบวนการและความเสี่ยงของการผสมเกสรข้ามกระจายออกที่เกี่ยวข้องกับเกสรดอกไม้ หลักฐานบ่งชี้ว่า เกสร อับเรณูยาวที่ยังคงหลั่งจากที่มีอุณหภูมิต่ำและความชื้น ( RH )เกสรสดเก็บเกี่ยวจากแปลงปลูกพืชเรือนกระจกและและสัมผัสกับช่วงของกรมตำรวจสร้างขึ้นโดยใช้อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์แบบรวมกัน . หลังจากการเปิดรับจาก 0 ถึง 2 ชั่วโมง เพื่อรู้จัก VPD ความมีชีวิตของละอองเกสรที่ได้รับการทดสอบในหลอด การทดสอบครั้งนี้ พบว่า เรณูจากอับเรณูที่ออกประมาณ 55 - 60 % ความชื้นส่วนที่ตามมาและเป็นฟังก์ชันของอุณหภูมิอากาศ ความชื้นสัมพัทธ์ และเวลา ปัจจัยเหล่านี้ถูกรวมอยู่ในเดียวความสัมพันธ์ที่อธิบายอัตราส่วนเกสรดอกไม้หลายพันธุ์ . ความมีชีวิตของละอองเกสรลดลงนำ ( R2 อยู่ระหว่าง 0.77 ถึง 0.93 ) ที่มีความชื้นเกสร ( PMC ) เป็นศูนย์ที่เน้น≈ 30% ด้วยกันความสัมพันธ์เหล่านี้ให้วิธีการง่ายๆเพื่อประเมินความเสียหายของข้าวโพดสามารถเกสร ภายใต้สภาวะ .