GDP growth in Brazil has slowed fro

GDP growth in Brazil has slowed from 4.5% in 2006-10 to 2.1% over 2011-14 and 0.1% in 2014. Inflation remains high, ending 2014 at 6.4%.

To address the current macro imbalances and revitalize growth, the authorities have formulated primary surplus targets for 2015 and 2016 (at 1.2% and 2% of GDP, respectively), compared with a primary deficit of 0.6% and an overall deficit of 6.7% of GDP in 2014. So far, they have announced measures to reduce entitlements, cut discretionary expenditures and reduce Treasury’s support to public banks and the electricity sector, in order to reduce the fiscal deficit.

The Current Account deficit has widened from 2.1% of GDP in 2011 to 4.2% in 2014 reflecting worsening terms of trade and declining exports of manufactured goods. While the deficit remains largely financed by FDI inflows (2.9% of GDP), portfolio flows have been volatile, highlighting vulnerabilities to capital flow reversals. Despite the poor economic performance and the pressures on the external sector, there is no immediate threat of an external crisis as Brazil has $360 billion of reserves (about 17% of GDP), and a solid financial sector.

Due to a prolonged drought, there is risk of water and electricity rationing in parts of the country, which would have consequences for economic activity and prices, posing risks to real incomes, especially those of the poor.

Brazil’s medium-term outlook will depend on the success of the current adjustment and the adoption of further growth-enhancing reforms. To achieve higher growth in the medium-term, raising productivity and competitiveness is the crucial challenge for Brazil. With the growth drivers over the past decade — credit-fuelled consumption, labor expansion and the commodity boom — receding, growth will need to be based on higher investment and gains in productivity.

Brazil experiences extreme regional differences, especially in social indicators such as health, infant mortality and nutrition. The richer South and Southeast regions enjoy much better indicators than the North and Northeast.

Despite the achievements in poverty reduction over the last decade, inequality remains at relatively high levels for a middle income country. After having reached universal coverage in primary education, Brazil is now struggling to improve the quality and outcomes of the system, especially at the basic and secondary levels.

There has been enormous progress in decreasing deforestation of the rain forest and other sensitive biomes, but the country faces important development challenges in combining the benefits of agricultural growth, environmental protection and the sustainable development.

As one of the leading nations on climate negotiations, Brazil has committed voluntarily to reducing its greenhouse gas emissions by between 36.1% and 38.9% until 2020 and should achieve this goal early.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เศรษฐกิจบราซิลได้ชะลอตัวจาก 4.5% ในปี 2006-10 2.1% มากกว่า 2011 14 และ 0.1% ในปี 2014 อัตราเงินเฟ้อยังคงสูง สิ้น 2014 ที่ 6.4%สมดุลแมปัจจุบัน และฟื้นฟูการเจริญเติบโต เจ้าหน้าที่มีสูตรหลักเกินเป้าหมาย 2015 และ 2016 (1.2% และ 2% ของ GDP ตามลำดับ), เมื่อเทียบกับดุลหลัก 0.6% และการขาดดุลโดยรวม 6.7% ของ GDP ในปี 2557 เพื่อห่างไกล พวกเขาได้ประกาศมาตรการเพื่อลดให้ ตัดค่าใช้จ่าย discretionary และลดของคลังสนับสนุนสาธารณะธนาคารและภาคการไฟฟ้า การลดการขาดดุลทางการเงินดุลบัญชีปัจจุบันมี widened จาก 2.1% ของ GDP ในปี 2554 เป็น 4.2% ในปี 2014 สะท้อนให้เห็นถึงเงื่อนไขทางการค้าที่รุนแรงมากขึ้น และลดลงส่งออกของสินค้า ขณะที่ดุลยังคงเป็น financed ตามกระแสเข้า FDI (2.9% ของ GDP), ขั้นตอนผลงานได้ระเหย เน้นช่องโหว่การกลับรายการกระแสเงินทุน แม้ มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจต่ำและความกดดันในภาคภายนอก มีภัยคุกคามทันทีไม่มีวิกฤตภายนอกบราซิลมี 360 พันล้านเหรียญสำรอง (ประมาณ 17% ของ GDP), และภาคการเงินแข็งแกร่งเนื่องจากภัยแล้งที่นาน มีความเสี่ยงของน้ำและไฟฟ้า rationing ในส่วนของประเทศ ซึ่งจะมีผลกระทบสำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและราคา การวางตัวความเสี่ยงด้านรายได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ยากจน Outlook ระยะกลางของบราซิลจะขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการปรับปรุงปัจจุบันและยอมรับต่อ การเจริญเติบโตเพิ่มการปฏิรูป เพื่อให้บรรลุการเติบโตสูงในระยะปานกลาง เพิ่มผลผลิตและการแข่งขันเป็นความท้าทายสำคัญของบราซิล กับไดรเวอร์เติบโตกว่าทศวรรษ — การใช้สินเชื่อเติมพลัง แรงงานขยายตัว และบูมโภคภัณฑ์ — เหตุ การเจริญเติบโตจะต้องขึ้นอยู่กับการลงทุนสูงและกำไรผลผลิตประเทศบราซิลประสบการณ์มากต่างภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวชี้วัดทางสังคมเช่นการตายทารก สุขภาพ และโภชนาการ ในภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้ขึ้นกับตัวบ่งชี้ที่ดีกว่าทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือแม้ มีความสำเร็จในการลดความยากจนมากกว่าทศวรรษ ความไม่เท่าเทียมกันยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงสำหรับประเทศรายได้ปานกลาง ตอนนี้กำลังดิ้นรนบราซิลหลังจากถึงความครอบคลุมการศึกษาหลักสากล เพื่อปรับปรุงคุณภาพและผลลัพธ์ของระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับพื้นฐาน และรองมีความคืบหน้าอย่างมากในการลดการตัดไม้ทำลายป่าของป่าฝนและ biomes สำคัญอื่น ๆ แต่ประเทศเผชิญความท้าทายพัฒนาที่สำคัญในการรวมประโยชน์ของการเกษตรเจริญเติบโต อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำในเจรจาสภาพภูมิอากาศ บราซิลมีความมุ่งมั่นต่อการลดลงของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยระหว่าง 36.1% และ 38.9% จนถึง 2020 และจะบรรลุเป้าหมายนี้ก่อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เจริญเติบโตของ GDP ในบราซิลมีการชะลอตัวจาก 4.5% ในปี 2006-10 2.1% ในช่วง 2011-14 และ 0.1% ในปี 2014 อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงสิ้นสุด 2014 ที่ 6.4%. เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลแมโครปัจจุบันและฟื้นฟูการเติบโตของเจ้าหน้าที่มีสูตร ส่วนเกินเป้าหมายหลักสำหรับ 2015 และ 2016 (ที่ 1.2% และ 2% ของ GDP ตามลำดับ) เมื่อเทียบกับการขาดดุลหลักของ 0.6% และการขาดดุลโดยรวมของ 6.7% ของ GDP ในปี 2014 จนถึงขณะนี้พวกเขาได้ประกาศมาตรการเพื่อลดสิทธิ ตัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตัดสินใจและลดการสนับสนุนของกระทรวงการคลังกับธนาคารภาครัฐและภาคการผลิตไฟฟ้าเพื่อที่จะลดการขาดดุลการคลัง. การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดได้กว้างขึ้นจาก 2.1% ของ GDP ในปี 2011-4.2% ในปี 2014 สะท้อนให้เห็นถึงการถดถอยแง่ของการค้าและการลดลงของการส่งออก ของสินค้าที่ผลิต ในขณะที่การขาดดุลเงินทุนยังคงไหลเข้าส่วนใหญ่มาจากการลงทุนโดยตรง (2.9% ของ GDP) กระแสผลงานที่มีความผันผวนและไฮไลท์ช่องโหว่ที่จะพลิกผันไหลของเงินทุน แม้จะมีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีและแรงกดดันต่อภาคภายนอกไม่มีการคุกคามของวิกฤตภายนอกเป็นบราซิลมี $ 360,000,000,000 ของเงินสำรอง (ประมาณ 17% ของจีดีพี) และภาคการเงินที่มั่นคง. เนื่องจากภัยแล้งเป็นเวลานานมี คือความเสี่ยงของน้ำและการปันส่วนไฟฟ้าในส่วนของประเทศซึ่งจะมีผลกระทบสำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและราคาวางตัวความเสี่ยงต่อรายได้จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งของคนยากจน. แนวโน้มระยะกลางของบราซิลจะขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการปรับตัวในปัจจุบันและ การยอมรับของการเสริมสร้างการเจริญเติบโตการปฏิรูป เพื่อให้บรรลุการเติบโตที่สูงขึ้นในระยะกลางเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการแข่งขันเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับบราซิล ด้วยการผลักดันการเติบโตในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา - บริโภคเครดิตเชื้อเพลิงขยายตัวแรงงานและความเจริญโภคภัณฑ์ - ถอยการเจริญเติบโตจะต้องขึ้นอยู่กับการลงทุนที่สูงขึ้นและกำไรในการผลิต. บราซิลประสบความแตกต่างในระดับภูมิภาคมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการชี้วัดทางสังคมเช่นสุขภาพ , การตายของทารกและโภชนาการ ยิ่งขึ้นใต้และภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้เพลิดเพลินไปกับตัวชี้วัดที่ดีขึ้นกว่าภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. แม้จะมีความสำเร็จในการลดความยากจนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาความไม่เท่าเทียมกันยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงสำหรับประเทศรายได้ปานกลาง หลังจากที่มีถึงหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในการศึกษาประถมศึกษา, ประเทศบราซิลขณะนี้การดิ้นรนเพื่อปรับปรุงคุณภาพและผลลัพธ์ของระบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับพื้นฐานและรอง. มีความคืบหน้าอย่างมากในการลดการตัดไม้ทำลายป่าของป่าฝนและ biomes สำคัญอื่น ๆ แต่ ประเทศเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในการพัฒนารวมผลประโยชน์ของการเจริญเติบโตทางการเกษตร, การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน. ในฐานะที่เป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำในการเจรจาต่อรองสภาพภูมิอากาศ, ประเทศบราซิลมีความมุ่งมั่นที่จะสมัครใจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยระหว่าง 36.1% และ 38.9% ในปี 2020 และ ควรให้บรรลุเป้าหมายนี้ในช่วงต้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเติบโตของ GDP ในบราซิลชะลอตัวจากร้อยละ 4.5 ใน 2006-10 ถึง 2.1% มากกว่า 2011-14 และ 0.1% ในปี 2014 อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงสิ้นสุดปี 2014 ที่ 6.4%

เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลของแมโครที่ปัจจุบัน และปรับการเติบโต รัฐบาลมียุทธศาสตร์หลักเกินเป้าหมายสำหรับปี 2015 และ 2016 ( ที่ 1.2% และ 2% ของ GDP ตามลำดับ เมื่อเทียบกับการขยายตัว 0.6% และเศรษฐกิจโดยรวมของ 6ร้อยละ 7 ของ GDP ในปี 2014 ดังนั้นไกลที่พวกเขาได้ประกาศมาตรการลดรายจ่ายและรองอธิบดี ) ตัดลดการสนับสนุนของคลังธนาคาร ภาครัฐ และภาคไฟฟ้า เพื่อลดการขาดดุลการคลัง

การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดได้กว้างขึ้นจาก 2.1% ของจีดีพีในปี 2554 ลง 4.2% ในปี 2014 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแง่ของการค้าและการส่งออกที่ลดลง สินค้าที่ผลิตขณะที่การขาดดุลส่วนใหญ่ยังคง financed โดยกระแสการลงทุนโดยตรง ( 2.9% ของจีดีพี ) ไหลผลงานได้รับสารระเหย เน้นความเข้าใจ reversals เงินทุนไหล แม้จะยากจนทางเศรษฐกิจและแรงกดดันในภาคภายนอก ไม่มีการคุกคามทันทีจากวิกฤตภายนอกเป็นบราซิลได้ $ 360 พันล้านสำรอง ( ประมาณ 17 % ของ GDP ) และทางการเงินที่มั่นคง

ภาค .เนื่องจากภัยแล้งยืดเยื้อ มีความเสี่ยงของการปันส่วนน้ำ และไฟฟ้า ในส่วนของประเทศ ซึ่งจะมีผลให้ราคา กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และวางตัวความเสี่ยงเพื่อสร้างรายได้จริง โดยเฉพาะผู้ที่ยากจน

ของบราซิลกลางจะขึ้นอยู่กับความสำเร็จของกระแสการปรับตัวและการยอมรับต่อการเจริญเติบโตส่งเสริมการปฏิรูปเพื่อให้บรรลุการเติบโตสูงในอุตสาหกรรม การเพิ่มผลผลิตและการแข่งขันมีความท้าทายที่สำคัญของบราซิล กับการเจริญเติบโตไดรเวอร์มากกว่าทศวรรษที่ผ่านมา การขยายสินเชื่อเพิ่มขึ้น , แรงงาน และสินค้าโภคภัณฑ์บูม - ลดลง , การเจริญเติบโตจะต้องขึ้นอยู่กับการลงทุนที่สูงขึ้นและเพิ่มผลผลิต .

บราซิล ประสบการณ์มากในความแตกต่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตัวชี้วัดทางสังคม เช่น สุขภาพ ทารกตายและโภชนาการ คนรวย ทิศตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคเพลิดเพลินกับตัวชี้วัดดีกว่า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แม้จะมีความสำเร็จในการลดความยากจนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ความไม่เท่าเทียมกันยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงสำหรับรายได้กลางประเทศ หลังจากถึงถ้วนหน้าในการศึกษาระดับประถมศึกษาบราซิลขณะนี้การดิ้นรนเพื่อปรับปรุงคุณภาพ และผลลัพธ์ของระบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พื้นฐานและระดับมัธยมศึกษา

มีความคืบหน้าในการลดการตัดไม้ทำลายป่ามหาศาลของป่าฝนบิมสเทคและอ่อนไหว แต่ประเทศเผชิญความท้าทายการพัฒนาที่สำคัญในการรวมประโยชน์ของการเกษตร , การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

เป็นหนึ่งในชั้นนำของประเทศในการเจรจาภูมิอากาศ บราซิลได้ทำโดยสมัครใจที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยระหว่าง 80% และ 38.9 % จนถึงปี 2020 และจะบรรลุเป้าหมายนี้ก่อน