For builders and sculptors, the wor

For builders and sculptors, the word 'marble' covers a wide
range of rocks. Limestones, serpentines and even quartzites
may be called marble if they are pale in colour and can be
carved or polished. For geologists, though,
marble is a very specific kind of rock, made
metamorphically under specific conditions.
Even so, there is ambiguity. Some geologists
describe as marble any rock that is
metamorphosed from carbonate rocks. This
includes metamorphosed dolomite, made
from magnesium carbonate. A few
geologists suggest that only rocks
metamorphosed from pure calcium-rich
limestones should be called marble.
This kind of true marble formed when beds
of limestone were buried deep in the crust
and altered by the heat of the Earth's

interior and the pressure of overlying rocks. Marble is
often brought up from deep mountain roots and continental
collision zones interlayered with other ancient metamorphic
rocks such as phyllites, quartzites and schists. Marble can be
formed by contact as well as regional metamorphism, and
small outcrops develop where hot granite intrusions have
pushed their way into pure limestone beds.
Like metaquartzite, marble is made from reformed crystals
of the same mineral as its protolith. During metamorphism,
the calcite in limestone recrystallizes in larger, formless
grains. Pore space between grains disappears, and grain and
cement blur into one, leaving a tightly interlocking mass of
calcite grains. The grains are odd shapes, and the texture
can look sugary or even like the cracked pattern on ancient
glazed porcelain. But this dense, uniform
texture is just what makes marble so
beautifully smooth for sculpture. The
stone even seems to glow because it is
slightly translucent and allows light to
penetrate through the surface grains and
reflect off internal grains.
Marble is soft enough to carve, but is
tough enough to survive quite well in
dry conditions. However, it is easily
corroded by acid rain. Large masses of
marble can be weathered into the same
karst formations as limestone, and marble
walls and statuary become pitted over time.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การสร้างนี้ คำว่า 'อ่อน' เป็นที่ครอบคลุม ช่วงของหิน พึง serpentines และ quartzites ได้ อาจจะเรียกว่าหินอ่อนถ้ามีสีซีด และอาจ แกะสลัก หรือขัดเงา สำหรับธรณี แม้ว่า หินอ่อนเป็นหิน ทำแบบเฉพาะเจาะจงมาก metamorphically ภายใต้เงื่อนไขที่ระบุ มาก มีความคลุมเครือ นักธรณีวิทยาบาง อธิบายเป็นหินอ่อนหินใด ๆ ที่ metamorphosed จากหินคาร์บอเนต นี้ มีโดโลไมต์ metamorphosed ทำ จากแมกนีเซียมคาร์บอเนต นิดเดียว นักธรณีวิทยาแนะนำที่เฉพาะหิน metamorphosed จากอุดมไปด้วยแคลเซียมบริสุทธิ์ พึงควรจะเรียกว่าหินอ่อน หินอ่อนจริงชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อเตียง ของหินปูนที่ฝังลึกในเปลือก และเปลี่ยนแปลง โดยความร้อนของโลก ภายในและแรงกดดันของหินเหล่านั้น หินอ่อนเป็น มักจะขึ้นมาจากรากลึกภูเขาและคอนติเนนทัล interlayered โซนชนกับโบราณอื่น ๆ metamorphic หินเช่น phyllites, quartzites และ schists หินอ่อนได้ เกิดขึ้นจากการติดต่อเป็นการแปรสภาพของภูมิภาค และ พัฒนา outcrops ขนาดเล็กที่มีหินแกรนิตพร้อมรุก ผลักคนเป็นเตียงหินปูนบริสุทธิ์ เช่น metaquartzite หินที่ทำจากผลึกปฏิรูป แร่เดียวกันเป็นของ protolith ในระหว่างการแปรสภาพ แคลไซต์ในหินปูน recrystallizes ในขนาดใหญ่ เกม ธัญพืช รูขุมขนระหว่างเกรนหายไป และเมล็ด และ ปูนซีเมนต์เบลอเป็นหนึ่ง ออกพัวพันแน่นโดยรวมของ calcite grains. The grains are odd shapes, and the texture can look sugary or even like the cracked pattern on ancient glazed porcelain. But this dense, uniform texture is just what makes marble so beautifully smooth for sculpture. The stone even seems to glow because it is slightly translucent and allows light to penetrate through the surface grains and reflect off internal grains. Marble is soft enough to carve, but is tough enough to survive quite well in dry conditions. However, it is easily corroded by acid rain. Large masses of marble can be weathered into the same karst formations as limestone, and marble walls and statuary become pitted over time.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับผู้สร้างและแกะสลักคำว่า 'หินอ่อน' ครอบคลุมกว้าง
ช่วงของหิน หินปูน serpentines และ quartzites แม้
อาจจะเรียกว่าหินอ่อนถ้าพวกเขามีสีซีดสีและสามารถนำมา
แกะสลักหรือขัด สำหรับนักธรณีวิทยาแม้ว่า
หินอ่อนเป็นชนิดที่เฉพาะเจาะจงมากของหินที่ทำ
metamorphically ภายใต้เงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจง.
ดังนั้นแม้มีความคลุมเครือ นักธรณีวิทยาบางคน
อธิบายเป็นหินอ่อนหินที่ใด
metamorphosed จากหินคาร์บอเนต นี้
รวมถึงโดโลไมต์ metamorphosed ทำ
จากแมกนีเซียมคาร์บอเนต ไม่กี่
นักธรณีวิทยาชี้ให้เห็นว่าหินเท่านั้น
metamorphosed จากที่อุดมด้วยแคลเซียมบริสุทธิ์
หินปูนควรจะเรียกว่าหินอ่อน.
ชนิดของหินอ่อนจริงนี้เกิดขึ้นเมื่อเตียง
หินปูนถูกฝังลึกลงไปในเปลือก
และเปลี่ยนแปลงโดยความร้อนของโลกภายในและความดันของการวางหิน . หินอ่อนมักจะนำขึ้นมาจากรากภูเขาลึกและคอนติเนนโซนที่มีการปะทะกัน interlayered หินแปรโบราณอื่น ๆเช่นหิน phyllites, quartzites และ schists หินอ่อนสามารถเกิดขึ้นจากการติดต่อเช่นเดียวกับการแปรสภาพในระดับภูมิภาคและก้อนหินขนาดเล็กที่พัฒนาบุกรุกหินแกรนิตร้อนได้ผลักดันทางของพวกเขาเป็นเตียงหินปูนบริสุทธิ์. เช่นเดียวกับ metaquartzite หินอ่อนทำจากคริสตัลปฏิรูปของแร่ธาตุเช่นเดียวกับ protolith ของ ในระหว่างการแปรสภาพ, แคลเซียมคาร์บอเนตหินปูน recrystallizes ในขนาดใหญ่รูปร่างธัญพืช พื้นที่รูขุมขนระหว่างเม็ดหายไปและเมล็ดพืชและเบลอซีเมนต์เป็นหนึ่งออกจากมวลประสานแน่นของธัญพืชแคลไซต์ ธัญพืชที่มีรูปทรงแปลกและพื้นผิวสามารถดูหวานหรือแม้กระทั่งเช่นรูปแบบแตกโบราณพอร์ซเลนเคลือบ แต่นี้หนาแน่นเครื่องแบบเนื้อเป็นเพียงสิ่งที่ทำให้หินอ่อนเพื่อให้สวยงามเรียบประติมากรรม หินแม้ดูเหมือนว่าจะเรืองแสงเพราะมันเป็นโปร่งแสงเล็กน้อยและช่วยให้แสงที่จะเจาะผ่านธัญพืชพื้นผิวและสะท้อนออกธัญพืชภายใน. หินอ่อนนุ่มพอที่จะแกะสลัก แต่ยากพอที่จะอยู่รอดได้ค่อนข้างดีในสภาวะที่แห้ง แต่ก็เป็นได้อย่างง่ายดายสึกกร่อนจากฝนกรด มวลชนขนาดใหญ่ของหินอ่อนสามารถตากแดดตากฝนเข้าไปเดียวกันการก่อตัวของหินปูนหินปูนและหินอ่อนผนังและรูปปั้นกลายเป็นหลุมเมื่อเวลาผ่านไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำหรับผู้สร้างและแกะสลักหินอ่อน คำว่า ' ' ครอบคลุมกว้าง
ช่วงของหิน หินปูน serpentines , และแม้กระทั่ง คว ์ตไซต์
อาจจะเรียกว่าหินอ่อนถ้าพวกเขาจะซีดสีและสามารถ
แกะสลักหรือขัด สำหรับนักธรณีวิทยา , แม้ ,
หินอ่อนเป็นชนิดที่เฉพาะเจาะจงมากของหินทำให้
metamorphically ภายใต้เงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจง
ดังนั้นแม้มีความกำกวม นักธรณีวิทยา
บางอธิบายเป็นหินอ่อน หินใด ๆที่
ลงเกาะหินคาร์บอเนต นี้ลงเกาะได้

รวมถึงโดโลไมต์จากแมกนีเซียมคาร์บอเนต ไม่กี่
นักธรณีวิทยาแนะนำว่าแค่ลงเกาะบริสุทธิ์อุดมด้วยแคลเซียมจากหิน

น่าจะเรียกว่า หินปูน หินอ่อน
ชนิดของหินอ่อนที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อเตียง
หินปูนถูกฝังลึกลงไปในเปลือกโลก
และเปลี่ยนแปลงโดยความร้อนของโลก

ภายในและความดันของวางหิน หินอ่อนเป็น
มักจะนำขึ้นจากรากลึกบนภูเขาและเขตการชนแบบ interlayered ด้วย

หินแปรหินโบราณอื่น ๆเช่น phyllites คว ์ตไซต์ และ schists , . หินอ่อนสามารถ
รูปแบบโดยติดต่อ รวมทั้งการแปรสภาพ ภูมิภาค และก้อนหินขนาดเล็กพัฒนาที่บุกรุกหินแกรนิต

จาได้ผลักดันวิธีการของพวกเขาในเตียงหินปูนที่บริสุทธิ์
ชอบ metaquartzite หินอ่อนทำจากผลึกของแร่ปฏิรูป
เดียวกันเป็นหินต้นกำเนิด . ในการแปรสภาพ
, แคลไซต์ในหินปูน recrystallizes ในขนาดใหญ่ หมายถึง
ธัญพืช จากช่องว่างระหว่างเม็ดหายไป และเมล็ดพืชและ
ซีเมนต์เบลอเป็นหนึ่งออกแน่นประสานมวล
แคลไซต์ธัญพืช เมล็ดมีรูปร่างแปลก ๆและเนื้อ
สามารถดูหวานหรือแม้แต่ชอบแตกลายโบราณ
พอร์ซเลนเคลือบ . แต่นี่หนาเนื้อชุด
เป็นเพียงสิ่งที่ทำให้หินอ่อนดังนั้น
สวยงามเรียบประติมากรรม
หินแม้ดูเหมือนจะเรืองแสงเพราะเป็น
เล็กน้อยโปร่งแสงช่วยให้แสงทะลุผ่านผิว

สะท้อนจากธัญพืชและธัญพืชภายใน
หินอ่อนเป็นอ่อนพอที่จะแกะสลัก แต่เป็น
เหนียวพอที่จะอยู่รอดได้ดีใน
สภาพแห้ง อย่างไรก็ตาม มันได้อย่างง่ายดาย
สึกกร่อนจากฝนกรด ฝูงขนาดใหญ่ของ
หินอ่อนสามารถผุเป็นเหมือนกัน
หินปูนก่อตัวเป็นหินปูน และผนังหินอ่อนและรูปปั้น
กลายเป็นหลุมตลอดเวลา