The Richat Structure, also known as

The Richat Structure, also known as the Eye of the Sahara and Guelb er Richat, is a prominent circular feature in the Sahara desert near Ouadane, west–central Mauritania. This structure is a deeply eroded, slightly elliptical, 40 km in diameter dome. The sedimentary rock exposed in this dome ranges in age from Late Proterozoic within the center of the dome to Ordovician sandstone around its edges. The sedimentary rocks comprising this structure dip outward at 10°–20°. Differential erosion of resistant layers of quartzite has created high-relief circular cuestas. Its center consists of a siliceous breccia covering an area that is at least 30 km in diameter.[1][2][3]

Exposed within the interior of the Richat Structure are a variety of intrusive and extrusive igneous rocks. They include rhyolitic volcanic rocks, gabbros, carbonatites and kimberlites. The rhyolitic rocks consist of lava flows and hydrothermally altered tuffaceous rocks that are part of two distinct eruptive centers, which are interpreted to be the eroded remains of two maars. According to field mapping and aeromagnetic data, the gabbroic rocks form two concentric ring dikes. The inner ring dike is about 20 m in width and lies about 3 km from the center of Richat Structure. The outer ring dike is about 50 m in width and lies about 7 to 8 km from the center of this structure. Thirty-two carbonatite dikes and sills have been mapped within the Richat Structure. The dikes are generally about 300 m long and typically 1 to 4 m wide. They consist of massive carbonatites that are mostly devoid of vesicles. The carbonatite rocks have been dated as having cooled between 94 to 104 million years ago. A kimberlitic plug and several sills have been found within the northern part of the Richat Structure. The kimberlite plug has been dated to around 99 million years old. These intrusive igneous rocks are interpreted as indicating the presence of a large alkaline igneous intrusion that currently underlies the Richat Structure and created it by uplifting the overlying rock.[1][2][4][5]

Spectacular hydrothermal features are a part of the Richat Structure. They include the extensive hydrothermal alteration of rhyolites and gabbros and a central megabreccia created by hydrothermal dissolution and collapse. The siliceous megabreccia is at least 40 m thick in its center to only a few meters thick along its edges. The breccia consists of fragments of white to dark gray cherty material, quartz-rich sandstone, diagenetic cherty nodules, and stromatolitic limestone and is intensively silicified. The hydrothermal alteration, which created this breccia, has been dated to have occurred about 98.2 ± 2.6 million years ago using the 40Ar/39Ar method.[1][2][5]

Initially interpreted as an asteroid impact structure because of its high degree of circularity, it is now argued to be a highly symmetrical and deeply eroded geologic dome. After extensive field and laboratory studies, geologists have not found any credible evidence for shock metamorphism or any type of deformation indicative of a hypervelocity extraterrestrial impact.[6] While coesite, an indicator of shock metamorphism, had initially been reported as being present in rock samples collected from the Richat Structure, further analysis of rock samples concluded that barite had been misidentified as coesite.[7] In addition, the Richat Structure lacks the annular depression that characterizes large extraterrestrial impact structures of this size. Also, it is quite different from large extraterrestrial impact structures in that the sedimentary strata comprising this structure is remarkably intact and "orderly" and lacking in overturned, steeply dipping strata or disoriented blocks.[1][2] A more recent multianalytical study on the Richat megabreccias concluded that carbonates within the silica-rich megabreccias were created by low-temperature hydrothermal waters, and that the structure requires special protection and further investigation of its origin.[8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โครงสร้าง Richat หรือที่เรียกว่าดวงตาของซาฮาร่าและ Guelb เอ้อ Richat มีคุณลักษณะเด่นเป็นวงกลมในทะเลทรายซาฮาราใกล้ Ouadane มอริเตเนียตะวันตก – ภาคกลาง โครงสร้างนี้อยู่ 40 กิโลเมตรผ่านการกัดเซาะลึก รูป ไข่เล็กน้อย ในโดมเส้นผ่าศูนย์กลาง หินตะกอนที่เปิดเผยในช่วงนี้โดมอายุจาก Proterozoic สายภายในศูนย์กลางของโดมกับหินทราย Ordovician รอบขอบ หินตะกอนที่ประกอบด้วยโครงสร้างนี้ออกจุ่มที่ 10°-20° พังทลายแตกต่างของชั้นทนจากทึบทึมได้สร้างประติมากรรมนูนสูงกลม cuestas ศูนย์กลางประกอบด้วย breccia siliceous ที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 30 กม. [1] [2] [3]เปิดเผยภายในภายในโครงสร้าง Richat จะรำคาญ และ extrusive igneous หินที่หลากหลาย มีหินภูเขาไฟ rhyolitic, gabbros, carbonatites และ kimberlites หิน rhyolitic ประกอบด้วยลาวา และหิน tuffaceous ที่เป็นส่วนหนึ่งของสองแตก eruptive ศูนย์ ซึ่งแปลความหมายจะ ยังคงผ่านการกัดเซาะของสอง maars hydrothermally การเปลี่ยนแปลง แม็ปฟิลด์และข้อมูล aeromagnetic หิน gabbroic แบบสองวงแหวนศูนย์กลางกำแพง ทำนบวงแหวนด้านในกว้างประมาณ 20 เมตร และอยู่ประมาณ 3 กม.จากใจกลางของ Richat โครงสร้าง วงแหวนรอบนอกทำนบกว้างประมาณ 50 เมตร และอยู่ประมาณ 7-8 กม.จากใจกลางของโครงสร้างนี้ สามสิบสองแนว carbonatite และกั้นมีการแมปภายในโครงสร้าง Richat กำแพงมักยาวประมาณ 300 เมตรและกว้างโดยทั่วไป 1-4 เมตร ประกอบด้วย carbonatites ใหญ่ที่ส่วนใหญ่ไร้อสุจิ หิน carbonatite ที่ได้รับลงวันที่เป็นมีการระบายความร้อนระหว่าง 94-104 ล้านปี ปลั๊ก kimberlitic และกั้นหลายพบในภาคเหนือของโครงสร้าง Richat ปลั๊ก kimberlite มีได้เดือนประมาณ 99 ล้านปี หิน igneous รำคาญเหล่านี้เป็นการบ่งชี้สถานะของใหญ่ด่าง igneous บุกที่อยู่ underlies โครงสร้าง Richat และสร้าง โดยเย็นหินหลัก [1] [2] [4] [5]คุณสมบัติ hydrothermal งดงามเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง Richat พวกเขาเปลี่ยน hydrothermal หลากหลาย rhyolites และ gabbros และ megabreccia กลางที่สร้างขึ้น โดย hydrothermal ยุบ และยุบ Siliceous megabreccia จะหนาอย่างน้อย 40 เมตรในศูนย์กลางเพียงไม่กี่เมตรที่หนาตามขอบ Breccia ประกอบด้วยชิ้นส่วนของสีขาววัสดุ cherty สีเทาเข้ม อุดมด้วยควอตซ์ และหินทราย diagenetic cherty ก้อน หินปูน stromatolitic และ silicified เป็นอย่าง เปลี่ยน hydrothermal ซึ่งสร้าง breccia นี้ มีได้วันที่จะต้องเกิดขึ้นประมาณ 98.2 ± 2.6 ล้านปีโดยใช้วิธี 40Ar/39Ar [1] [2] [5]ตอนแรกตีความว่าเป็นโครงสร้างที่มีผลกระทบต่อดาวเคราะห์เนื่องจากระดับความสูงของการหมุนเวียน มันคือตอนนี้โต้เถียงจะ สมมาตรสูง และผ่านการกัดเซาะลึกโดมธรณีวิทยา หลังจากฟิลด์กว้างขวางและห้องปฏิบัติการศึกษา นักธรณีวิทยายังไม่พบหลักฐานน่าเชื่อถือสำหรับการแปรสภาพการช็อตหรือชนิดของความผิดปกติเป็นสิ่งยืนยันถึงผลกระทบต่างดาว hypervelocity [6] ในขณะที่ coesite ตัวบ่งชี้ของการแปรสภาพช็อต มีเริ่มต้นรายงานแสดงในตัวอย่างหินเรียกเก็บจาก Richat โครงสร้าง การวิเคราะห์ตัวอย่างหินสรุปได้รับฟังก์แคเซียมที่เป็น coesite [7] นอกจากนี้ โครงสร้าง Richat ขาดภาวะซึมเศร้าป้องกันคอร์เนอร์โครงสร้างผลกระทบต่างดาวมากขนาดนี้ ยัง จะค่อนข้างแตกต่างจากโครงสร้างผลกระทบต่างดาวที่มีขนาดใหญ่ที่ชั้นตะกอนที่ประกอบด้วยโครงสร้างนี้เป็นเหมือนเดิมอย่างน่าทึ่ง และ "เป็นระเบียบ" และขาด แล้ว จุ่มชั้น หรือ disoriented บล็อกออก [1] [2] การศึกษาล่าสุด multianalytical Richat megabreccias สรุปว่า carbonates ภายใน megabreccias ที่อุดมไปด้วยซิลิกาถูกสร้างโดย hydrothermal อุณหภูมิต่ำ และที่ โครงสร้างต้องมีการป้องกันพิเศษและการตรวจสอบแหล่งที่มาของการ [8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โครงสร้าง Richat ยังเป็นที่รู้จักตาของซาฮาราและ Guelb ER Richat ที่เป็นคุณลักษณะที่วงกลมที่โดดเด่นในทะเลทรายซาฮาราใกล้ Ouadane ตะวันตกกลางประเทศมอริเตเนีย โครงสร้างนี้เป็นกัดเซาะลึกรูปไข่เล็กน้อย 40 กิโลเมตรมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโดม ตะกอนหินในช่วงนี้โดมในยุคจากปลาย Proterozoic ภายในใจกลางของโดมจะ Ordovician หินทรายรอบขอบของมัน หินตะกอนประกอบด้วยกรมทรัพย์สินทางปัญญาโครงสร้างนี้ออกไปด้านนอกที่ 10 ° -20 ° การพังทลายของความแตกต่างของชั้นทนของวอได้สร้างนูนสูง cuestas วงกลม ศูนย์ประกอบด้วย breccia ทรายครอบคลุมพื้นที่ที่มีอย่างน้อย 30 กม. ในเส้นผ่าศูนย์กลาง. [1] [2] [3] แดงภายในตกแต่งภายในของโครงสร้าง Richat ที่มีความหลากหลายของการล่วงล้ำและ extrusive หินอัคนี พวกเขารวมถึง rhyolitic ภูเขาไฟหิน gabbros, carbonatites และ kimberlites หิน rhyolitic ประกอบด้วยลาวาไหลและการเปลี่ยนแปลง hydrothermally หิน tuffaceous ที่เป็นส่วนหนึ่งของสองศูนย์ผื่นที่แตกต่างกันซึ่งจะถูกตีความให้เป็นกัดเซาะซากของสอง MAARS ตามที่การทำแผนที่ข้อมูลและข้อมูล aeromagnetic, หิน gabbroic รูปแบบสองเขื่อนวงแหวน เขื่อนวงแหวนประมาณ 20 เมตรกว้างและอยู่ประมาณ 3 กิโลเมตรจากศูนย์กลางของโครงสร้าง Richat เขื่อนวงแหวนรอบนอกประมาณ 50 เมตรกว้างและอยู่ประมาณ 7-8 กิโลเมตรจากใจกลางของโครงสร้างนี้ สามสิบสองเขื่อน carbonatite และ Sills ได้รับการแมปภายในโครงสร้าง Richat เขื่อนโดยทั่วไปจะมีประมาณ 300 เมตรยาวและมักจะ 1-4 เมตรกว้าง พวกเขาประกอบด้วย carbonatites ขนาดใหญ่ที่ส่วนใหญ่จะไร้ถุง หิน carbonatite ได้รับการลงวันที่ว่ามีการระบายความร้อนระหว่าง 94-104000000 ปีที่ผ่านมา เสียบ kimberlitic และอีกหลาย Sills ได้รับการพบในภาคเหนือของโครงสร้าง Richat ปลั๊ก kimberlite ได้รับวันที่ 99 ล้านปีเก่า หินเหล่านี้หินอัคนีล่วงล้ำจะถูกตีความเป็นแสดงให้เห็นการปรากฏตัวของการบุกรุกหินอัคนีขนาดใหญ่อัลคาไลน์ที่กำลังรองรับโครงสร้าง Richat และสร้างมันขึ้นมาโดยการยกระดับหินวางได้. [1] [2] [4] [5] คุณสมบัติ hydrothermal งดงามเป็นส่วนหนึ่งของ โครงสร้าง Richat พวกเขารวมถึงการเปลี่ยนแปลง hydrothermal กว้างขวางของ rhyolites และ gabbros และ megabreccia กลางที่สร้างขึ้นโดยการสลายตัวร้อนและการล่มสลาย megabreccia ทรายอย่างน้อย 40 เมตรหนาในศูนย์การเพียงไม่กี่เมตรหนาตามขอบของมัน breccia ประกอบด้วยชิ้นส่วนของสีขาวกับวัสดุสีเทาเข้ม cherty หินทรายควอทซ์ที่อุดมไปด้วยก้อน cherty diagenetic และหินปูน stromatolitic และเป็น silicified อย่างหนาแน่น การแปลง hydrothermal ซึ่งสร้าง breccia นี้ได้รับการลงวันที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับ 98.2 ± 2.6 ล้านปีที่ผ่านมาโดยใช้วิธี 40Ar / 39Ar. [1] [2] [5] ตีความแรกเป็นโครงสร้างดาวเคราะห์กระทบเนื่องจากการระดับสูงของ ของวัฏจักรมันเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้จะเป็นสูงสมมาตรและกัดเซาะลึกโดมแร่ หลังจากที่ภาคสนามและห้องปฏิบัติการการศึกษาอย่างกว้างขวางนักธรณีวิทยายังไม่พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือใด ๆ สำหรับการแปรสภาพช็อตหรือประเภทใด ๆ ของการเสียรูปแสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่างดาว hypervelocity. [6] ในขณะที่ coesite ตัวบ่งชี้ของการช็อกแปรสภาพได้ในตอนแรกถูกรายงานว่าเป็นปัจจุบันอยู่ในหิน ตัวอย่างที่เก็บรวบรวมจากโครงสร้าง Richat การวิเคราะห์ต่อไปของตัวอย่างหินแร่แบไรท์ได้ข้อสรุปว่าได้รับการ misidentified เป็น coesite. [7] นอกจากนี้โครงสร้าง Richat ขาดภาวะซึมเศร้าเป็นรูปวงแหวนขนาดใหญ่ที่เป็นลักษณะเฉพาะของโครงสร้างผลกระทบต่างดาวขนาดนี้ นอกจากนี้ก็ค่อนข้างแตกต่างจากที่มีขนาดใหญ่โครงสร้างผลกระทบข้างนอกในที่ชั้นตะกอนที่ประกอบด้วยโครงสร้างนี้เป็นอย่างน่าทึ่งเหมือนเดิมและ "ระเบียบ" และขาดพลิกคว่ำชั้นสูงลิ่วจุ่มหรือบล็อกงง. [1] [2] ขึ้นการศึกษา multianalytical เมื่อเร็ว ๆ นี้ megabreccias Richat สรุปว่าคาร์บอเนตภายใน megabreccias ซิลิกาที่อุดมไปด้วยถูกสร้างขึ้นโดยน้ำร้อนที่อุณหภูมิต่ำและโครงสร้างต้องมีการป้องกันพิเศษและการสอบสวนเพิ่มเติมของต้นกำเนิดของมัน. [8]