Process stabilityThe first challeng

Process stability
The first challenge for micronutrients in rice fortification is the process itself to produce fortified kernels. The applied heat, the humidity during heating, the drying steps, and the presence or absence of air influence stability. In general, the process losses are between 0% and 20% in coating or extrusion technologies, depending on process, nutrient, and matrix. In dusting, the process loss itself is considered to be the smallest of all losses, as no serious stress is applied; however, segregation is an issue.[7]

Storage stability
Storage stability depends on many factors, of which the most critical is vitamin A, as compared with other nutrients it is sensitive to oxidation, especially in the presence of humidity and at elevated temperatures. The concomitant presence of iron ions enhances storage losses, even if non-water-soluble iron phosphates or pyrophosphates are applied. Rice has water content of about 12.5–14%, and at a storage temperature of 30 °C the monthly losses in extruded kernels for vitamin A might be at about 4–10%. The use of an antioxidant (preferably BHT) is recommended for stabilization of this vitamin. Additional influential factors are the packaging material used and exposure to light, as well as the process used (e.g., cold, warm, and hot extrusion).[3] In addition to vitamin A, vitamin B1 is heat sensitive and shows some losses. In order to guarantee a declared vitamin level, overages have to be applied, and the needed amounts have to be identified via trials. Other vitamins are shelf-stable over several months.

Washing stability
Dusting is not suitable when rice is either rinsed or soaked and rinsed before cooking. Also, most of the coated rice versions show substantial washing losses, with few exceptions, for example, when ethyl cellulose is used in the coating. Washing losses in warm- and hot-extruded kernels are very low; in cold extrusion loss depends mainly on the intensity of washing as well on the binder matrix.

Cooking stability
Dusting and coating do not allow cooking with an excess of cooking water, which is discarded after cooking. When testing different cooking methods, the lowest losses are found when rice absorbs all the cooking water (about 10–20%); only vitamin B12 losses are substantially higher (about 40%). Cooking in an excess of water that is removed after cooking results in higher losses, mainly in highly water-soluble vitamins (e.g., vitamin B12; 50–60%), whereas the losses of poorly water-soluble vitamins, such as thiamine mononitrate, is very small (about 10%). Soaking overnight and cooking the rice for 2 h leads to very high losses even for vitamin A (up to 50%) and vitamin B12.[9]

Costs
It is difficult to objectively compare the costs of the various technologies for rice fortification, as a number of factors come into play in the calculation, for example, location, prices for intact rice kernels or broken rice, electricity, steam and water cost, and plant configuration (e.g., which extruder combined with which dryer), as well as depreciation and interest costs.

Final costs are dominated by the raw material cost, especially of the carrier used, the rice. If the technology allows the use of cheap broken rice as starting material, it is a cost advantage. This is one of the key advantages of extruded fortified kernels. Rice flour made from broken rice is the starting material. The outcome is kernels similar to intact, nonbroken rice kernels. If the market price difference between broken kernels and intact kernels offsets the production cost of extruded kernels, then extrusion will be even cheaper than dusting. Coating technologies require intact and thus more expensive rice kernels, if the coated kernels should have the form of intact rice kernels. In some cases broken rice is coated; however, broken rice is less appealing.

A further cost driver is energy cost. During extrusion, irrespective of whether it is cold, warm, or hot extrusion, water and/or steam are added, part of which has to be removed at the end of the process. The drying step is far more costly than the preconditioning step (in warm and hot extrusion) and the extrusion process itself. Drying is usually done either by using a fluid bed or pasta dryers and is energy intensive. Thus, the additional costs of fortification for rice millers might vary substantially in the range of 3–6% of the bulk rice costs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความมั่นคงกระบวนการองค์ประกอบตามโรคในข้าวระบบป้อมปราการความท้าทายแรกคือ กระบวนการผลิตเมล็ดธาตุ นำร้อน ความชื้นในระหว่างการทำความร้อน ขั้น ตอนการอบแห้ง และการมี หรือขาดอากาศมีผลกระทบต่อความมั่นคง ทั่วไป สูญเสียการได้ระหว่าง 0% และ 20% ในเคลือบหรืออัดเทคโนโลยี กระบวนการ ระบบ และเมตริกซ์ ในปัดฝุ่น กระบวนการสูญเสียตัวเองถือเป็นขนาดเล็กที่สุดของทั้งหมดขาดทุน เป็นความเครียดไม่รุนแรงจะใช้ อย่างไรก็ตาม การแบ่งแยกเป็นประเด็น [7]ความมั่นคงในการจัดเก็บเก็บความมั่นคงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ที่สำคัญที่สุดคือ วิตามินเอ เมื่อเทียบกับสารอาหารอื่นๆ มีความไวต่อการเกิดออกซิเดชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่อหน้า ของความชื้น และ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เหล็กกันก็มั่นใจช่วยเก็บข้อมูลสูญเสีย ถ้าใช้เหล็กไม่น้ำละลายฟอสเฟตหรือ pyrophosphates ข้าวมีปริมาณน้ำประมาณ 12.5-14% และที่เก็บอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส การสูญเสียรายเดือนในเมล็ด extruded สำหรับวิตามินเออาจจะประมาณ 4-10% ใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (เด่นกว่าบาท) แนะนำสำหรับเสถียรภาพของวิตามินนี้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลเพิ่มเติมเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้และแสงไฟ รวมทั้งการใช้ (เช่น เย็น อบอุ่น อุ่น และไหลออกมา) [3] ในนอกให้วิตามินเอ วิตามินบี 1 จะไวต่อความร้อน และแสดงความสูญเสียบาง เพื่อรับประกันระดับประกาศวิตามิน overages ต้องใช้ และยอดเงินจำเป็นต้องระบุได้ผ่านการทดลอง วิตามินอื่น ๆ เป็นคอกชั้นหลายเดือนล้างความมั่นคงปัดฝุ่นไม่เหมาะเมื่อข้าวทั้ง rinsed หรือที่เปี่ยมล้นไปด้วย ความ rinsed ก่อนทำอาหาร ส่วนใหญ่รุ่นเคลือบข้าวแสดงพบล้างขาดทุน มีข้อยกเว้นบาง เช่น เมื่อใช้เอทิลเซลลูโลสในเคลือบด้วย ล้างขาดทุนในอบอุ่น - และ ร้อน-extruded เมล็ดจะต่ำมาก ในการอัดขึ้นรูปเย็น ขาดทุนขึ้นอยู่ส่วนใหญ่กับความเข้มของการซักผ้าเช่นบนเมทริกซ์ binderความมั่นคงอาหารปัดฝุ่นและเคลือบไม่อนุญาตให้ทำอาหาร มีมากเกินอาหารน้ำ ซึ่งจะถูกยกเลิกหลังจากทำอาหาร เมื่อทดสอบวิธีทำอาหาร การสูญเสียต่ำสุดพบเมื่อข้าวดูดซับทั้งหมดทำอาหารน้ำ (ประมาณ 10 – 20%) เท่านั้นขาดวิตามินบี 12 สูงมาก (ประมาณ 40%) อาหารเกินขนาดของน้ำที่จะถูกลบออกหลังจากทำอาหารผลขาดทุนสูงขึ้น ส่วนใหญ่ในวิตามินที่ละลายในสูง (เช่น วิตามินบี 12, 50 – 60%), ในขณะที่การสูญเสียวิตามินที่ละลายในไม่ดี เช่นไทอามีนโมโนไนเตรต มีขนาดเล็กมาก (ประมาณ 10%) แช่ค้างคืน และอาหารข้าวสำหรับ 2 h นำไปสู่การขาดทุนสูงมากสำหรับวิตามิน (ไม่เกิน 50%) และวิตามิน B12. [ 9]ค่าใช้จ่ายมันเป็นเรื่องยากที่จะเปรียบเทียบเป็นต้นทุนของเทคโนโลยีต่าง ๆ สำหรับข้าวระบบป้อมปราการ ปัจจัยเข้ามาเล่นในการคำนวณ ตัวอย่าง ที่ตั้ง ราคาสำหรับเมล็ดข้าวเหมือนเดิม หรือข้าวหัก ไฟฟ้า ไอน้ำและน้ำต้นทุน และโรงงานตั้งค่าคอนฟิก (เช่น extruder ซึ่งรวมกับที่เป่า), และต้นทุนค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยFinal costs are dominated by the raw material cost, especially of the carrier used, the rice. If the technology allows the use of cheap broken rice as starting material, it is a cost advantage. This is one of the key advantages of extruded fortified kernels. Rice flour made from broken rice is the starting material. The outcome is kernels similar to intact, nonbroken rice kernels. If the market price difference between broken kernels and intact kernels offsets the production cost of extruded kernels, then extrusion will be even cheaper than dusting. Coating technologies require intact and thus more expensive rice kernels, if the coated kernels should have the form of intact rice kernels. In some cases broken rice is coated; however, broken rice is less appealing.A further cost driver is energy cost. During extrusion, irrespective of whether it is cold, warm, or hot extrusion, water and/or steam are added, part of which has to be removed at the end of the process. The drying step is far more costly than the preconditioning step (in warm and hot extrusion) and the extrusion process itself. Drying is usually done either by using a fluid bed or pasta dryers and is energy intensive. Thus, the additional costs of fortification for rice millers might vary substantially in the range of 3–6% of the bulk rice costs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความมั่นคงกระบวนการความท้าทายแรกสำหรับแร่ธาตุอาหารในป้อมปราการข้าวเป็นกระบวนการของตัวเองในการผลิตเมล็ดป้อม ความร้อนที่ใช้ความร้อนความชื้นในระหว่างขั้นตอนการอบแห้งและการมีหรือไม่มีอิทธิพลของความมั่นคงทางอากาศ โดยทั่วไปแล้วการสูญเสียในกระบวนการที่อยู่ระหว่าง 0% และ 20% ในการเคลือบหรือเทคโนโลยีการอัดรีดขึ้นอยู่กับกระบวนการของสารอาหารและเมทริกซ์ ปัดฝุ่นในการสูญเสียในกระบวนการของตัวเองจะถือเป็นที่เล็กที่สุดของการสูญเสียทุกอย่างที่ไม่มีความเครียดอย่างรุนแรงถูกนำไปใช้; แต่แยกเป็นปัญหา. [7] ความมั่นคงการเก็บรักษาเสถียรภาพการจัดเก็บขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือวิตามิน A, เมื่อเทียบกับสารอาหารอื่น ๆ มันมีความไวต่อการเกิดออกซิเดชันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ที่มีความชื้นและอุณหภูมิที่สูงขึ้น การปรากฏตัวด้วยกันของไอออนเหล็กช่วยเพิ่มความเสียหายที่เกิดจากการจัดเก็บแม้ว่าเหล็กฟอสเฟตที่ไม่ละลายน้ำหรือ pyrophosphates ถูกนำมาใช้ ข้าวมีปริมาณน้ำประมาณ 12.5-14% และที่อุณหภูมิการเก็บรักษาอุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียสการสูญเสียรายเดือนในเมล็ดอัดสำหรับวิตามินอาจจะอยู่ที่ประมาณ 4-10% การใช้งานของสารต้านอนุมูลอิสระ (ยิ่งบาท) เป็นที่แนะนำสำหรับการรักษาเสถียรภาพของวิตามินนี้ ปัจจัยที่มีอิทธิพลเพิ่มเติมเป็นวัสดุที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์และการสัมผัสกับแสงเช่นเดียวกับกระบวนการที่ใช้ (เช่นเย็นที่อบอุ่นและการอัดรีดร้อน). [3] นอกจากวิตามินเอวิตามินบี 1 คือความร้อนที่สำคัญและแสดงให้เห็นการสูญเสียบางส่วน เพื่อรับประกันระดับวิตามินประกาศ overages จะต้องนำไปใช้และจำนวนเงินที่จำเป็นจะต้องมีการระบุผ่านการทดลอง วิตามินอื่น ๆ ที่มีการเก็บรักษาที่มีความเสถียรในช่วงหลายเดือน. ความมั่นคงซักผ้าปัดฝุ่นไม่เหมาะเมื่อข้าวเป็นทั้งล้างหรือแช่และล้างก่อนปรุงอาหาร นอกจากนี้ส่วนใหญ่ของรุ่นข้าวเคลือบแสดงผลขาดทุนจากการซักผ้าอย่างมีนัยสำคัญโดยมีข้อยกเว้นสำหรับตัวอย่างเช่นเมื่อเอทิลเซลลูโลสถูกนำมาใช้ในการเคลือบ การสูญเสียในการซักผ้าและเมล็ด warm- ร้อนอัดอยู่ในระดับต่ำมาก ในการสูญเสียการอัดขึ้นรูปเย็นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการซักผ้าได้เป็นอย่างดีในเมทริกซ์เครื่องผูก. ความมั่นคงทำอาหารปัดฝุ่นและเคลือบไม่อนุญาตให้มีการปรุงอาหารด้วยส่วนที่เกินจากการปรุงอาหารน้ำซึ่งจะถูกยกเลิกหลังจากการปรุงอาหาร เมื่อการทดสอบวิธีการปรุงอาหารที่แตกต่างกันการสูญเสียต่ำสุดที่พบเมื่อข้าวดูดซับน้ำปรุงอาหาร (ประมาณ 10-20%); เพียง แต่การสูญเสียวิตามินบี 12 สูงขึ้นเป็นอย่างมาก (ประมาณ 40%) การปรุงอาหารในส่วนเกินของน้ำที่จะถูกลบออกหลังจากที่ผลการทำอาหารในการสูญเสียที่สูงขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในวิตามินสูงที่ละลายน้ำได้ (เช่นวิตามินบี 12; 50-60%) ในขณะที่การสูญเสียที่ไม่ดีของวิตามินที่ละลายน้ำเช่นวิตามินบี Mononitrate ที่ มีขนาดเล็กมาก (ประมาณ 10%) แช่ค้างคืนและการปรุงอาหารข้าวเป็นเวลา 2 ชั่วโมงจะนำไปสู่การสูญเสียสูงมากแม้สำหรับวิตามินเอ (ถึง 50%) และวิตามินบี 12. [9] ค่าใช้จ่ายมันเป็นเรื่องยากที่จะอคติเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายของเทคโนโลยีต่างๆในการป้องกันข้าวเป็นจำนวนของปัจจัยที่เข้ามาเล่นในการคำนวณเช่น, สถานที่, ราคาสำหรับเมล็ดข้าวเหมือนเดิมหรือข้าวหักไฟฟ้าไอน้ำและค่าใช้จ่ายน้ำและการกำหนดค่าพืช (เช่นที่ Extruder รวมกับการที่เครื่องเป่า) เช่นเดียวกับค่าเสื่อมราคาและ ค่าใช้จ่ายที่น่าสนใจ. ค่าใช้จ่ายในรอบชิงชนะเลิศจะถูกครอบงำโดยต้นทุนวัตถุดิบโดยเฉพาะอย่างยิ่งของผู้ให้บริการที่ใช้ข้าว หากเทคโนโลยีช่วยให้การใช้ปลายข้าวราคาถูกเริ่มต้นเป็นวัสดุที่มันเป็นข้อได้เปรียบค่าใช้จ่าย นี้เป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญของเมล็ดป้อมอัด แป้งที่ทำจากข้าวปลายข้าวเป็นวัสดุที่เริ่มต้น ผลคือคล้ายกับเมล็ดเหมือนเดิมเมล็ดข้าว nonbroken หากราคาในตลาดต่างระหว่างเมล็ดหักและเมล็ดเหมือนเดิมชดเชยต้นทุนการผลิตเมล็ดอัดแล้วอัดขึ้นรูปจะยิ่งมีราคาถูกกว่าปัดฝุ่น เทคโนโลยีการเคลือบผิวต้องเหมือนเดิมและทำให้มีราคาแพงกว่าเมล็ดข้าวถ้าเมล็ดเคลือบควรจะมีรูปแบบของเมล็ดข้าวเหมือนเดิม ในบางกรณีเป็นข้าวหักเคลือบ; แต่ปลายข้าวน่าสนใจน้อย. โปรแกรมควบคุมค่าใช้จ่ายต่อไปเป็นค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ในระหว่างการอัดขึ้นรูปโดยไม่คำนึงถึงไม่ว่าจะเป็นเย็นอุ่นหรือน้ำร้อนอัดขึ้นรูปและ / หรือการอบไอน้ำที่มีการเพิ่มส่วนที่จะต้องมีการลบออกในตอนท้ายของกระบวนการ ขั้นตอนการอบแห้งอยู่ไกลมากขึ้นค่าใช้จ่ายสูงกว่าขั้นตอน preconditioning (ในการอัดขึ้นรูปที่อบอุ่นและร้อน) และขั้นตอนการอัดขึ้นรูปตัวเอง การอบแห้งมักจะทำอย่างใดอย่างหนึ่งโดยใช้เตียงของเหลวหรือเครื่องเป่าพาสต้าและเป็นพลังงานที่เข้มข้น ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของป้อมปราการสำหรับมิลเลอร์ข้าวแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญอาจจะอยู่ในช่วง 3-6% ของค่าใช้จ่ายในกลุ่มข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความท้าทายแรกของกระบวนการ
รูปในข้าวป้อมปราการเป็นกระบวนการเสริมตัวเองเพื่อผลิตเมล็ด การใช้ความร้อน ความชื้นในระหว่างขั้นตอนของเครื่อง อบแห้ง และการขาดเสถียรภาพของอากาศ หรืออิทธิพล โดยทั่วไปกระบวนการความสูญเสียระหว่าง 0% และ 20% ในเทคโนโลยีการเคลือบเม็ดขึ้นอยู่กับกระบวนการ , สารอาหาร , และเมทริกซ์ ในการปัดฝุ่น ,สูญเสียกระบวนการเองถือเป็นที่สุดของความสูญเสียทั้งหมด เช่น ไม่ซีเรียส เครียดไป อย่างไรก็ตาม แยกเป็นปัญหา [ 7 ]


กระเป๋ากระเป๋าเสถียรภาพความมั่นคงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ที่สำคัญที่สุดคือ วิตามิน A , เมื่อเทียบกับสารอาหารอื่น ๆ มันมีความไวต่อปฏิกิริยาออกซิเดชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการแสดงตนของความชื้นและอุณหภูมิสูง