AbstractSummary: A double-blind cro

Abstract

Summary: A double-blind crossover clinical trial designed to evaluate the mucolytic activity of bromhexine hydrochloride on sputum was completed by 15 patients with chronic lung disease. All the subjects chosen were troubled by production of tenacious mucoid or mucopurulent sputum at the beginning of the trial. Each subject received 16 mg of bromhexine by mouth, three times daily and identical appearance placebo tablets, for an equal number of weeks, in random sequence.

Twenty-four-hour sputum production was collected for each subject throughout the trial. Viscosity of sputum was evaluated with a Wells-Brookfield Micro-Viscometer Model RVT, studying the highest viscosity sample produced per 24-hour period. In eight patients some significant decrease in sputum viscosity was observed during bromhexine therapy. In one patient a significant decrease in sputum viscosity was observed while he was receiving the placebo. The mean sputum viscosity for all 15 patients considered as a group was significantly lower during bromhexine therapy than during the placebo therapy.

It is concluded from the results obtained that bromhexine has a demonstrable mucolytic effect on tenacious sputum and consequently may play a useful role in the management of patients with chronic lung disease involving the production of high viscosity bronchial secretions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อสรุป: ทดลองทางคลินิกแบบครอสโอเวอร์ออกแบบมาเพื่อประเมินกิจกรรมของ bromhexine ช่วยเพิ่มไฮโดรคลอไรด์ในเสมหะยาเสพเสร็จ โดยผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง 15 ทุกวิชาที่เลือกถูกทุกข์ โดยผลิตเสมหะ mucoid หรือ mucopurulent หวงแหนที่จุดเริ่มต้นของการทดลอง แต่ละวิชาได้รับ 16 มก.ของ bromhexine ช่วยเพิ่ม โดยปาก สามครั้งต่อวัน และเหมือนลักษณะเม็ดยาหลอก ของสัปดาห์ ในลำดับแบบสุ่มยี่สิบสี่ชั่วโมงเสมหะถูกรวบรวมสำหรับแต่ละวิชาตลอดการทดลอง ความหนืดของเสมหะถูกประเมินกับหลุม Brookfield Micro Viscometer รุ่น RVT ศึกษาตัวอย่างความหนืดสูงสุดที่ผลิตต่อระยะเวลา 24 ชั่วโมง ในผู้ป่วยที่แปด สำคัญลดความหนืดของเสมหะพบว่า ระหว่างการรักษา bromhexine ช่วยเพิ่ม ในผู้ป่วยรายหนึ่ง ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในความหนืดของเสมหะพบว่า ในขณะที่เขาได้รับยาหลอก ความหนืดหมายถึงเสมหะสำหรับผู้ป่วยทั้งหมด 15 ถือว่าเป็นกลุ่มต่ำอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการรักษา bromhexine ช่วยเพิ่มมากกว่าในระหว่างการรักษาด้วยยาหลอกมันคือสรุปจากผลได้รับ bromhexine ช่วยเพิ่มที่มีหวงแหนเสมหะยาเสพผลพลอย และจึง อาจมีบทบาทเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการของผู้ป่วย ด้วยโรคปอดเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับการผลิตของสารคัดหลั่งหลอดลมความหนืดสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ

สรุป: ครอสโอเวอร์ทดลองทางคลินิกแบบ double-blind ออกแบบมาเพื่อประเมินกิจกรรม mucolytic ของไฮโดรคลอไรยาบรอมเฮกซีนในเสมหะเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยผู้ป่วย 15 โรคปอดเรื้อรัง ทุกวิชาที่ได้รับการแต่งตั้งกำลังมีความสุขจากการผลิตของเสมหะเหนียว mucoid หรือ mucopurulent ที่จุดเริ่มต้นของการพิจารณาคดี เรื่องแต่ละคนได้รับ 16 มิลลิกรัมยาบรอมเฮกซีนจากปากวันละสามครั้งและแท็บเล็ตที่เหมือนลักษณะยาหลอกเป็นจำนวนเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมาในลำดับแบบสุ่ม

การผลิตเสมหะยี่สิบสี่ชั่วโมงถูกเก็บไว้สำหรับแต่ละเรื่องตลอดการศึกษา ความหนืดของเสมหะถูกประเมินด้วยเวลส์-Brookfield Micro-Viscometer รุ่น RVT การศึกษากลุ่มตัวอย่างที่มีความหนืดสูงสุดผลิตต่อระยะเวลา 24 ชั่วโมง ในผู้ป่วยบางแปดลดลงอย่างมีนัยสำคัญในความหนืดเสมหะพบว่าในระหว่างการบำบัดยาบรอมเฮกซีน ในผู้ป่วยรายหนึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญในความหนืดเสมหะพบว่าในขณะที่เขาได้รับยาหลอก ความหนืดเสมหะเฉลี่ยสำหรับทุก 15 ผู้ป่วยถือว่าเป็นกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญลดลงในช่วงการรักษาด้วยยาบรอมเฮกซีนกว่าในช่วงการรักษาด้วยยาหลอก

จะได้ข้อสรุปจากผลที่ได้รับยาบรอมเฮกซีนที่มีผล mucolytic ซึ่งแสดงให้เห็นในเสมหะเหนียวและจึงอาจมีบทบาทที่เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการของผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับการผลิตของความหนืดสูงหลั่งหลอดลมที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อสรุป : การทดลองทางคลินิกแบบไขว้ที่ออกแบบมาเพื่อประเมินกิจกรรมมิวโคไลติกของกุหลาบมอญไฮโดรคลอไรด์ในเสมหะแล้วเสร็จ 15 ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง ทุกวิชาเลือกมีปัญหาจากการผลิต mucopurulent เหนียวน้ำลายหรือเสมหะที่จุดเริ่มต้นของการทดลอง แต่ละเรื่องได้รับ 16 มิลลิกรัม กุหลาบมอญ โดยปากสามครั้งทุกวัน และเหมือนลักษณะเม็ดยา เป็นจำนวนเท่ากับของสัปดาห์แบบสุ่มลำดับยี่สิบสี่ชั่วโมงการผลิตเสมหะเป็นข้อมูลสำหรับแต่ละวิชาตลอดการทดลอง ความหนืดของเสมหะที่ประเมินด้วยแบบ rvt บ่อ Brookfield Micro Mesh ความหนืดสูงสุด ศึกษาตัวอย่างที่ผลิตต่อระยะเวลา 24 ชั่วโมง 8 ในผู้ป่วยบางรายลดลงอย่างมากในเสมหะมีความหนืดกุหลาบมอญสังเกตในระหว่างการรักษา ในผู้ป่วยที่พบในเสมหะมีความหนืดสูงขึ้น ขณะที่เขาได้รับยาหลอก หมายถึงเสมหะหนืดทั้งหมด 15 ราย ถือเป็นกลุ่มที่ลดลงในช่วงระหว่างการรักษากว่ากุหลาบมอญยาหลอกรักษามันเป็นสรุปจากผลการศึกษาที่ได้ผลการพิสูจน์กุหลาบมอญมูโคไลติกในเสมหะเหนียวจึงอาจมีบทบาทเป็นประโยชน์ในการจัดการกับผู้ป่วยที่มีโรคปอดเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับการผลิตของความหนืดสูงการหลั่ง .