The University of Kansas men's bask

The University of Kansas men's basketball program officially began in 1898, following Naismith's arrival, just six years after Naismith drafted the sport's first official rules. Naismith was not initially hired to coach basketball, but rather as a chapel director and physical education instructor.[15] In these early days, the majority of the basketball games were played against nearby YMCA teams, with YMCA's across the nation having played an integral part in the birth of basketball. Other common opponents were Haskell Indian Nations University and William Jewell College. Under Naismith, the team played only one current Big 12 school: Kansas State (once). Naismith was, ironically, the only coach in the program's history to have a losing record (55–60).[16] However, Naismith coached Forrest "Phog" Allen, his eventual successor at Kansas,[17] who went on to join his mentor in the Naismith Memorial Basketball Hall of Fame.[18] When Allen became a coach himself and told him that he was going to coach basketball at Baker University in 1904, Naismith discouraged him: "You can't coach basketball; you just play it."[8] Instead, Allen embarked on a coaching career that would lead him to be known as "the Father of Basketball Coaching." During his time at Kansas, Allen coached Dean Smith (1952 National Championship team) and Adolph Rupp (1922 Helms Foundation National Championship team). Allen, Smith and Rupp have joined Naismith as members of the Basketball Hall of Fame.

By the turn of the century, there were enough college teams in the East of the U.S. that the first intercollegiate competitions could be played out.[17] Although his sport continuously grew, Naismith long regarded his game as a curiosity and preferred gymnastics and wrestling as better forms of physical education.[17] However, basketball became a demonstration sport at the 1904 Games in St. Louis. As the Naismith Memorial Basketball Hall of Fame reports, Naismith was also neither interested in self-promotion nor in the glory of competitive sports.[19] Instead, he was more interested in his physical education career, receiving an honorary PE Masters degree in 1910,[5] patrolled the Mexican border for four months in 1916, traveled to France, published two books (A Modern College in 1911 and Essence of a Healthy Life in 1918). He took American citizenship in 1925.[5]

In 1935, the National Association of Basketball Coaches (created by Naismith's pupil Phog Allen) collected money so that the 74-year-old Naismith could witness the introduction of basketball into the official Olympic sports program of the 1936 Summer Olympic Games.[19] There, Naismith handed out the medals to three North American teams: United States, for the gold medal, Canada, for the silver medal, and Mexico, for their bronze medal win.[20] During the Olympics, he was named the honorary president of the International Basketball Federation.[5] When Naismith returned he commented that seeing the game played by many nations was the greatest compensation he could have received for his invention.[17] In 1937, Naismith played a role in the formation of the National Association of Intercollegiate Basketball, which later became the National Association of Intercollegiate Athletics (NAIA).[21]

Naismith became Professor Emeritus in Kansas when he retired in 1937 at the age of 76. Including his years as coach, Naismith served as athletic director and faculty at the school for a total of almost 40 years. Naismith died in 1939 after he suffered a fatal brain hemorrhage. He was buried in Lawrence, Kansas. His masterwork "Basketball — its Origins and Development" was published posthumously in 1941.[5] In Lawrence, Kansas, James Naismith has a road named in his honor, Naismith Drive, which runs in front of Allen Fieldhouse (the official address of Allen Fieldhouse is 1651 Naismith Drive), the university's basketball facility. The university also named the court in Allen Fieldhouse James Naismith Court in his honor, despite Naismith having the worst record in school history. Naismith Hall, a college residential dormitory, is located on the northeastern edge of 19th Street and Naismith Drive.[22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โปรแกรมบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยแคนซัสผู้ชายเริ่มอย่างเป็นทางใน 1898 ต่อมาของไนสมิท เพียง 6 ปีหลังจากที่ไนสมิทร่างกฎอย่างเป็นทางการครั้งแรกของกีฬา ไนสมิทไม่เริ่มจ้างโค้ชบาสเกตบอล แต่แทนที่จะ เป็นกรรมการโบสถ์และผู้สอนพลศึกษา [15] ในยุคนี้ ส่วนใหญ่ของเกมบาสเกตบอลได้จัดเล่นกับใกล้เคียงกับทีมงานวายเอ็มซีเอ YMCA ทั่วประเทศที่มีเล่นเป็นส่วนหนึ่งในการเกิดของบาสเกตบอล ฝ่ายตรงข้ามอื่น ๆ ทั่วไปมหาวิทยาลัยประเทศอินเดีย Haskell และ William Jewell วิทยาลัย ภายใต้ไนสมิท ทีมเล่นเดียวปัจจุบันใหญ่ 12 โรงเรียน: รัฐแคนซัส (ครั้งเดียว) ไนสมิทได้ แดกดัน โค้ชเฉพาะในประวัติของโปรแกรมเพื่อให้ระเบียนที่แพ้ (55-60) [16] อย่างไรก็ตาม ไนสมิท coached สฟอร์เรสท์ "Phog" อัลเลน สืบของเขาในที่แคนซัส, [17] ผู้เข้าร่วมที่ปรึกษาของเขาในการไนสมิทอนุสรณ์บาสเกตบอลหอเกียรติยศ [18] เมื่ออัลเลนเป็น โค้ชเอง และบอกว่า เขากำลังจะโค้ชบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยเบเกอร์ใน 1904 ไนสมิทกำลังใจเขา: "คุณไม่สามารถอบรมบาสเกตบอล คุณเพียงแค่เล่นมัน" [8] แทน อัลเลนเริ่มต้นอาชีพการฝึกอบรมที่จะนำเขาให้เรียก "บิดาของ Coaching บาสเกตบอล" ในระหว่างเวลาที่แคนซัส อัลเลน coached คณบดีสมิธ (ทีมชาติแชมป์ 1952) และ Adolph Rupp (ทีมชิงแชมป์แห่งชาติมูลนิธิอรีเฮมส์ 1922) อัลเลน สมิธและ Rupp ได้ร่วมไนสมิทเป็นสมาชิกของการกีฬาบาสเกตบอลหอเกียรติยศโดยเปิดศตวรรษ มีพอทีมวิทยาลัยในภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกาที่สามารถเล่นแข่งขัน intercollegiate แรกออก [17] แม้ว่ากีฬาของเขาอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้น ไนสมิทยาวถือเกมของเขาเป็นความอยากรู้ และยิมนาสติกต้องและมวยปล้ำเป็นฟอร์มดีของพลศึกษา [17] อย่างไรก็ตาม บาสเกตบอลเป็น กีฬาสาธิตในเกม 1904 ใน St. Louis เป็นไนสมิทอนุสรณ์บาสเกตบอลหอเกียรติยศรายงาน ไนสมิทได้ยังไม่สนใจ ใน self-promotion หรือ ในพระสิริของกีฬาที่แข่งขัน [19] แทน เขามีความสนใจในอาชีพของเขาพลศึกษา รับการกิตติมศักดิ์ PE แบบปริญญา 1910, [5] ตรวจตราชายแดนเม็กซิโกสำหรับสี่เดือนใน 1916 เดินทางไปฝรั่งเศส ตีพิมพ์สองเล่ม (A ทันสมัยวิทยาลัยพ.ศ. 2454 และสาระสำคัญของชีวิตที่มีสุขภาพใน 1918) เขาได้สัญชาติอเมริกันใน 1925 [5]ในปี 1935 ชาติสมาคมของบาสเกตบอลโค้ช (สร้างขึ้น โดยนักเรียนของไนสมิทอัลเลน Phog) รวบรวมเงินเพื่อให้ไนสมิทอายุ 74 ปีสามารถเป็นพยานนำบาสเกตบอลในกีฬาโอลิมปิคทางโปรแกรมของ 1936 ร้อนโอลิมปิกเกมส์ [19] มี ไนสมิทกองทุนเหรียญสามทีมอเมริกาเหนือ: สหรัฐอเมริกา สำหรับเหรียญทอง แคนาดา เหรียญเงิน และเม็กซิโก สำหรับผู้ชนะเหรียญทองแดง [20] ในช่วงโอลิมปิก เขาถูกชื่อประธานกิตติมศักดิ์ของสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ [5] เมื่อไนสมิทกลับเขากล่าวว่า ดูเกมที่เล่นหลายประเทศมีค่าตอบแทนมากที่สุด เขาสามารถได้รับการประดิษฐ์ของเขา [17] ในปีค.ศ. 1937 ไนสมิทเล่นบทบาทในการก่อตัวของการเชื่อมโยงของ Intercollegiate เอ็น ซึ่งภายหลังกลายเป็นชาติสมาคมของ Intercollegiate กรีฑา (NAIA) [21]ไนสมิทเป็น ศาสตราจารย์กิตติคุณในแคนซัสเมื่อเขาปลดเกษียณในปี 1937 อายุ 76 รวมทั้งปีของเขาเป็นโค้ช ไนสมิททำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการกีฬาและคณะโรงเรียนทั้งหมดเกือบ 40 ปี ไนสมิทเสียชีวิตในปีพ.ศ. 2482 หลังจากที่เขาประสบการตกเลือดสมองที่ร้ายแรง เขาถูกฝังในลอว์เรนซ์ แคนซัส เขา masterwork "บาสเกตบอล—เป็นจุดเริ่มต้นและพัฒนา" ถูกเผยแพร่ posthumously 1941 [5] ในลอว์เรนซ์ แคนซัส James ไนสมิทมีถนนชื่อเกียรติยศ ไนสมิท Drive ที่ทำงานหน้าบกอัลเลน (อยู่ทางบกอัลเลนเป็นไดรฟ์ ไนสมิท 1651), สิ่งอำนวยความสะดวกกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย ใน นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังชื่อศาลในศาลอัลเลนบก James ไนสมิทเกียรติยศ แม้ไนสมิทที่มีระเบียนเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรงเรียน ฮอลล์ไนสมิท วิทยาลัยบ้านหอพัก ตั้งอยู่บนขอบด้านตะวันออกเฉียงเหนือ 19 ถนนและไดรฟ์ไนสมิท [22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มหาวิทยาลัยแคนซัสโปรแกรมบาสเกตบอลชายเริ่มอย่างเป็นทางการในปี 1898 ตามมาถึงไนเพียงหกปีหลังจากไนร่างของกีฬากฎอย่างเป็นทางการครั้งแรก ไนไม่ได้รับการว่าจ้างในขั้นต้นที่จะโค้ชบาสเก็ต แต่เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลและอาจารย์ผู้สอนการศึกษาทางกายภาพ. [15] ในวันแรกเหล่านี้ส่วนใหญ่ของเกมบาสเก็ตเล่นกับทีมซีเอในบริเวณใกล้เคียงกับซีเอทั่วประเทศที่มีการเล่นหนึ่ง มีส่วนร่วมในการเกิดของบาสเก็ต ฝ่ายตรงข้ามที่พบบ่อยอื่น ๆ ที่ Haskell มหาวิทยาลัยนานาชาติอินเดียและวิลเลียมมณีวิทยาลัย ภายใต้ไนทีมเล่นเพียงหนึ่งในปัจจุบันใหญ่ 12 โรงเรียน: รัฐแคนซัส (ครั้งเดียว) ไนสมิทเป็นกระทบกระเทียบโค้ชคนเดียวในประวัติศาสตร์ของโปรแกรมจะมีการบันทึก (55-60). [16] อย่างไรก็ตามไนสมิทฟอร์เรโค้ช "Phog" อัลเลนในที่สุดทายาทที่แคนซัส [17] ที่ไปในการที่จะเข้าร่วม ที่ปรึกษาของเขาในไนสมิทบาสเกตบอลอนุสรณ์สถานหอเกียรติยศ [18] เมื่ออัลเลนกลายเป็นโค้ชตัวเองและบอกเขาว่าเขาจะเป็นโค้ชบาสเกตบอลที่มหาวิทยาลัยเบเคอร์ในปี 1904 ไนกำลังใจเขาว่า "คุณไม่สามารถโค้ชบาสเก็ตคุณก็. เล่นมัน. "[8] แต่อัลเลนลงมือฝึกอาชีพที่จะนำเขาเป็นที่รู้จักในฐานะ" พระบิดาแห่งการฝึกสอนบาสเกตบอล. " ในช่วงเวลาที่แคนซัสอัลเลนโค้ชคณบดีสมิ ธ (1952 ทีมชิงแชมป์แห่งชาติ) และ Adolph รัปป์ (1922 มูลนิธิหมวกทีมชิงแชมป์แห่งชาติ) อัลเลนสมิ ธ และรัปป์ได้เข้าร่วมไนสมิทในฐานะสมาชิกของฮอลล์ออฟเฟมบาสเก็ต. โดยช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่มีทีมวิทยาลัยเพียงพอในภาคตะวันออกของสหรัฐว่าการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัยครั้งแรกอาจจะเล่นออกมา. [17] แม้ว่าเขา การเล่นกีฬาอย่างต่อเนื่องโตไนนานได้รับการยกย่องว่าเป็นเกมของเขาอยากรู้อยากเห็นและยิมนาสติกมวยปล้ำที่ต้องการและรูปแบบที่ดีของการศึกษาทางกายภาพ. [17] อย่างไรก็ตามกลายเป็นบาสเก็ตเป็นกีฬาสาธิตที่ 1904 เกมส์ในเซนต์หลุยส์ ในฐานะที่เป็นไนสมิทบาสเกตบอลอนุสรณ์สถานหอรายงานเกียรติยศไนสมิทก็ยังไม่สนใจในการส่งเสริมตนเองหรือในพระสิริของการแข่งขันกีฬา. [19] แต่เขากำลังให้ความสนใจในอาชีพการศึกษาของเขาทางกายภาพที่ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ PE ปริญญาโทในปี 1910 [5] ลาดตระเวนชายแดนเม็กซิกันสี่เดือนในปี 1916 ได้เดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศสตีพิมพ์หนังสือสองเล่ม (วิทยาลัยโมเดิร์นในปี 1911 และสาระสำคัญของชีวิตที่มีสุขภาพดีในปี 1918) เขาเอาสัญชาติอเมริกันในปี 1925 [5] ในปี 1935 สมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติโค้ช (สร้างโดยนักเรียนไน Phog อัลเลน) ที่เก็บรวบรวมเงินเพื่อให้ 74 ปีไนอาจเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวของบาสเก็ตในโปรแกรมกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการ . ของ 1936 กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน [19] มีไนยื่นออกมาเหรียญสามทีมในทวีปอเมริกาเหนือ:. United States, สำหรับเหรียญทอง, แคนาดา, เหรียญเงินและเม็กซิโกสำหรับเหรียญทองแดงชนะ [20] ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเขาถูกเสนอชื่อประธานกิตติมศักดิ์ของสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ. [5] เมื่อไนกลับเขาให้ความเห็นว่าเห็นเกมที่เล่นโดยหลายประเทศเป็นค่าตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาจะได้รับการประดิษฐ์ของเขา. [17] ในปี 1937 ไนมีบทบาทในการก่อตัวของสมาคมแห่งชาติของมหาวิทยาลัยบาสเกตบอลซึ่งต่อมากลายเป็นสมาคมกีฬามหาวิทยาลัยแห่งชาติ (NAIA). [21] ไนกลายเป็นศาสตราจารย์กิตติคุณในแคนซัสเมื่อเขาเกษียณในปี 1937 ตอนอายุ 76 รวมทั้งของเขา ปีในฐานะโค้ชไนสมิททำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการกีฬาและอาจารย์ที่โรงเรียนรวมเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา ไนเสียชีวิตในปี 1939 หลังจากที่เขาได้รับความเดือดร้อนเลือดออกในสมองร้ายแรง เขาถูกฝังอยู่ในอเรนซ์แคนซัส เขาโบว์ "บาสเกตบอล - ต้นกำเนิดและการพัฒนาของ" ได้รับการตีพิมพ์ในปี 1941 [5] ในอเรนซ์, Kansas, เจมส์ไนสมิทมีถนนที่ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาไนไดรฟ์ที่วิ่งอยู่ด้านหน้าของอัลเลนเฮาส์ (ที่อยู่อย่างเป็นทางการของอัลเลน เฮาส์เป็น 1651 ไนสมิทไดรฟ์), สิ่งอำนวยความสะดวกบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยชื่อยังศาลในอัลเลนเฮาส์เจมส์ไนศาลเป็นเกียรติแก่เขาแม้จะมีไนบันทึกที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรงเรียน ไนฮอลล์วิทยาลัยที่อยู่อาศัยหอพักตั้งอยู่บนขอบด้านตะวันออกเฉียงเหนือของถนนที่ 19 และไนสมิทไดรฟ์. [22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มหาวิทยาลัยแห่งแคนซัสชายโปรแกรมบาสเกตบอลอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นใน 1898 , ต่อไปนี้เนสมิทก็มาถึง ก็ 6 ปี หลังจาก ไนสมิทร่างของกีฬากฎอย่างเป็นทางการครั้งแรก ไนสมิทได้เริ่มจ้างโค้ชบาสเกตบอล แต่เป็นกรรมการโบสถ์และพลศึกษาครู [ 15 ] ในวันแรก ๆ เหล่านี้ ส่วนใหญ่ของเกมบาสเกตบอลมีการเล่นกับทีมและใกล้เคียงกับ YMCA อยู่ทั่วประเทศ มีการเล่นเป็นส่วนหนึ่งในการเกิดของบาสเกตบอล แอสเค็ลล์อินเดียเป็นประเทศคู่แข่งอื่น ๆทั่วไปที่มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยวิลเลียมมณี . ภายใต้ ไนสมิท ทีมเล่นเพียงหนึ่งปัจจุบันใหญ่ 12 โรงเรียน : รัฐแคนซัส ( ครั้งเดียว ) ไนสมิทเป็นแดกดันโค้ชเท่านั้นในประวัติศาสตร์ของโปรแกรมที่จะมีการบันทึกการสูญเสีย ( 55 - 60 ) [ 16 ] อย่างไรก็ตามไนสมิทเป็นโค้ช Forrest " phog อัลเลน ผู้สืบทอดของเขาในที่สุดที่แคนซัส [ 17 ] ที่ไปเข้าร่วมกับที่ปรึกษาของเขาในความทรงจำ ไนสมิทบาสเกตบอลหอเกียรติยศ . [ 18 ] เมื่ออัลเลนกลายเป็นโค้ชของเขาและบอกเขาว่าเขากำลังโค้ชบาสเกตบอลในมหาวิทยาลัยเบเกอร์ใน 1904 , ไนสมิทท้อเขา : " คุณ ไม่สามารถโค้ชบาสเกตบอล ; คุณเพียงแค่เล่นมัน . " [ 8 ] แทนแอลเลนเริ่มการฝึกอาชีพที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ " บิดาของโค้ชบาสเกตบอล " ในช่วงเวลาของเขาที่แคนซัส อัลเลนโค้ชดีนสมิท ( 2495 แชมป์ทีมชาติ ) และ Adolph รัป ( 1922 เฮมส์มูลนิธิแห่งชาติทีมชนะเลิศ ) อลัน สมิธ และ รัปได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของไนสมิทบาสเกตบอลหอเกียรติยศ

โดยหันของศตวรรษที่มีพอทีมวิทยาลัยในภาคตะวันออกของสหรัฐฯ ว่า การแข่งขันมหาวิทยาลัยแรกอาจจะเล่นออก . [ 17 ] แม้ว่ากีฬาของเขาอย่างต่อเนื่อง เติบโตขึ้น ไนสมิทยาวถือว่าเกมของเขาเป็นอย่างที่ต้องการ และยิมนาสติก และมวยปล้ำเป็นฟอร์มที่ดีของพลศึกษา [ 17 ] อย่างไรก็ตาม บาสเกตบอลเป็นกีฬาสาธิตใน 1904 เกมส์ ในเซนต์ หลุยส์ไนสมิทบาสเกตบอลเป็นอนุสรณ์ในห้องโถงของรายงานชื่อเสียง เนสมิทก็มิได้สนใจในการส่งเสริมตนเองและในเกียรติของกีฬาที่แข่งขัน [ 19 ] แทน เขาก็ยิ่งสนใจในอาชีพการศึกษาทางกายภาพของเขาได้รับปริญญาโทกิตติมศักดิ์ PE ระดับ 1910 , [ 5 ] ลาดตระเวนชายแดนเม็กซิกันสี่เดือนใน 1916 , เดินทาง ฝรั่งเศสได้รับการตีพิมพ์หนังสือสองเล่ม ( ปัจจุบันวิทยาลัยในปี 1911 และแก่นแท้ของชีวิตที่มีสุขภาพดีใน 2461 ) เขาเอาสัญชาติอเมริกัน 1925 [ 5 ]

ในปี 1935 , สมาคมแห่งชาติของโค้ชบาสเกตบอล ( สร้างโดย ไนสมิทเป็นลูกศิษย์ phog อัลเลน ) รวบรวมเงินเพื่อที่ 74 ปี ไนสมิทเป็นพยานได้เบื้องต้นของบาสเกตบอลในกีฬาโอลิมปิกอย่างเป็นทางการโปรแกรมของ 1936 โอลิมปิกเกม[ 19 ] มี ไนสมิท แจกเหรียญให้ 3 ทีมอเมริกา : สหรัฐอเมริกา เหรียญทอง แคนาดา สำหรับเหรียญเงิน และเม็กซิโก สำหรับเหรียญทองแดงของพวกเขาชนะ [ 20 ] ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เขาชื่อ ประธานกิตติมศักดิ์ของสหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ[ 5 ] เมื่อ ไนสมิท กลับมาเขาเห็นว่าเห็นเกมเล่นหลายประชาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาจะได้รับค่าตอบแทนสำหรับการประดิษฐ์ของเขา [ 17 ] ในปี 1937 ไนสมิทมีบทบาทในการพัฒนาของสมาคมแห่งชาติของบาสเกตบอลมหาวิทยาลัย ซึ่งต่อมากลายเป็นสมาคมกีฬามหาวิทยาลัย ( NAIA ) [ 21

]ไนสมิทเป็นศาสตราจารย์กิตติคุณในแคนซัสเมื่อเขาเกษียณในปี 1937 เมื่ออายุ 76 รวมทั้งปีของเขาเป็นโค้ช ไนสมิท ทำหน้าที่เป็นนักกีฬาผู้อำนวยการและคณะที่เรียนรวมเป็นเวลาเกือบ 40 ปี ไนสมิทเสียชีวิตในปี 1939 หลังจากเขาประสบภาวะเลือดออกในสมองร้ายแรง เขาถูกฝังอยู่ในลอว์เรนซ์ , แคนซัสผลงานชิ้นเอกของเขา " บาสเกตบอล - ต้นกำเนิดและการพัฒนา " ได้รับการตีพิมพ์ในปี 1941 [ 5 ] ในลอว์เรนซ์ , แคนซัส , เจมส์ ไนสมิทมีถนนชื่อในเกียรติของเขา ไนสมิท ไดรฟ์ ซึ่งอยู่ในด้านหน้าของอัลเลน fieldhouse ( ที่อยู่อย่างเป็นทางการของอัลเลน fieldhouse 1143 ไนสมิทเป็นไดรฟ์ ) , บ้านพักบาสของมหาวิทยาลัยศาลในแอลเลน fieldhouse เจมส์ ไนสมิทศาลในเกียรติของเขาที่มหาวิทยาลัยชื่อยัง แม้จะมี ไนสมิทมีระเบียนที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของโรงเรียน ไนสมิทฮอลล์วิทยาลัยที่อยู่อาศัยหอพัก , ตั้งอยู่บนขอบของถนนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 ไนสมิทขับรถ [ 22 ]