The atmosphere's water-holding capa

The atmosphere's water-holding capacity increases by about 4 percent for every 1° Fahrenheit (0.6° Celsius) rise in temperature. This effect is similar to the difference between a warm bathroom and a cold bathroom: the mirror fogs up more when the air is warmer.

Extreme precipitation is likely when a storm passes through a warmer atmosphere holding more water. In warmer months, it takes the form of torrential rainstorms; in winter, blizzards are more likely.

At the same time, most regions, in the face of warming temperatures, are losing snow cover on the ground that lasts longer than 30 days. Winters are shorter, fewer cold records are set, more precipitation is falling as rain and less as snow—although whopper snowstorms are even more likely in some places—and snowpacks are shrinking and melting earlier. Whether precipitation falls as rain or snow, these extremes can heighten the risk of flood, and cause economic and social disruptions for communities unprepared to cope.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บรรยากาศของน้ำ-ถือกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4 สำหรับเพิ่มขึ้นทุก 1 องศาฟาเรนไฮต์ (0.6 องศาเซลเซียส) อุณหภูมิ ลักษณะนี้จะคล้ายกับความแตกต่างระหว่างน้ำร้อนและน้ำเย็น: กระจก fogs ขึ้นมากเมื่ออากาศจะอุ่นขึ้นฝนที่มากจะเมื่อพายุผ่านบรรยากาศอุ่นเก็บน้ำเพิ่มเติม ในเดือนที่อุ่น ใช้แบบฟอร์มของพายุฝนต่อ ในฤดูหนาว blizzards มีแนวโน้มในเวลาเดียวกัน ภูมิภาคส่วนใหญ่ หน้าร้อนอุณหภูมิ จะแพ้หิมะปกบนพื้นดินที่ใช้เวลานานเกินกว่า 30 วัน ฤดูหนาวอากาศจะสั้น ตั้งจำนวนระเบียนเย็น ฝนมากจะตกเป็นฝน และน้อยเป็นหิมะ — แม้ว่า whopper snowstorms มักมากในบางสถาน — และ snowpacks มีการหดตัว และการละลายก่อนหน้านี้ ว่าฝนตกเป็นฝนหรือหิมะ สุดขั้วเหล่านี้ป็นความเสี่ยงน้ำท่วม และสามารถทำให้เกิดการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจ และสังคมในชุมชนเกิดการรับมือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บรรยากาศความจุของน้ำที่ถือครองเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4 สำหรับทุก 1 องศาฟาเรนไฮต์ (0.6 °เซลเซียส) อุณหภูมิจะสูงขึ้น ผลกระทบนี้จะคล้ายกับความแตกต่างระหว่างห้องน้ำอบอุ่นและห้องน้ำเย็น: หมอกกระจกมากขึ้นเมื่ออากาศอุ่น. ฝนมีแนวโน้มมากเมื่อพายุผ่านบรรยากาศที่อบอุ่นถือน้ำมากขึ้น ในเดือนที่อากาศอบอุ่นก็ใช้รูปแบบของพายุฝนกระหน่ำ; ในช่วงฤดูหนาวพายุหิมะมีแนวโน้มมากขึ้น. ในเวลาเดียวกัน, ภูมิภาคส่วนใหญ่ในการเผชิญกับอุณหภูมิร้อนที่มีการสูญเสียหิมะปกคลุมบนพื้นดินที่มีระยะเวลานานกว่า 30 วัน ฤดูหนาวจะสั้นลงบันทึกเย็นน้อยลงมีการตั้งค่าฝนจะตกมากขึ้นในขณะที่มีฝนตกน้อยและเป็นหิมะแม้ว่าพายุหิมะที่ใหญ่โตจะยิ่งมีโอกาสมากขึ้นในบางสถานที่และแสงวาวมีการหดตัวและการละลายก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะฝนตกฝนหรือหิมะสุดขั้วเหล่านี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงของน้ำท่วมและก่อให้เกิดการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจและสังคมของชุมชนเตรียมตัวที่จะรับมือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บรรยากาศการจับน้ำความจุเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ ทุก 1 องศาฟาเรนไฮต์ ( 0.6 องศาองศาเซลเซียส ) อุณหภูมิสูงขึ้น . ผลกระทบนี้จะคล้ายกับความแตกต่างระหว่างห้องน้ำและห้องอาบน้ำอุ่นเย็น : กระจกหมอกขึ้นเมื่ออากาศอุ่นขึ้น

มากฝนมีโอกาสเมื่อพายุผ่านบรรยากาศอบอุ่นถือมากกว่าน้ำ ในเดือนที่อากาศอบอุ่นจะใช้เวลารูปแบบของฝนตกกระหน่ำ ในฤดูหนาว , พายุหิมะมีแนวโน้มมากขึ้น

ในเวลาเดียวกัน ภูมิภาคส่วนใหญ่ในหน้าของอุณหภูมิโลกร้อนขึ้น จะสูญเสียหิมะปกคลุมบนพื้นดินที่กินเวลานานกว่า 30 วัน ในฤดูหนาวจะสั้นน้อยกว่าเย็นบันทึกชุดฝนยิ่งตกเหมือนฝน และหิมะ แม้ว่าลังกาน้อยเป็นพายุหิมะก็มีโอกาสมากขึ้นในบางสถานที่ และ snowpacks จะหดตัวและละลายเร็ว ไม่ว่าฝนตกลงมาเป็นฝนหรือหิมะ , สุดขั้วเหล่านี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงของอุทกภัย และก่อให้เกิดการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน เตรียมตัวรับมือ