ในช่วงปลายปี 2558 ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งทำให้ประเทศไทยต้องพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและระบบการศึกษาของไทย สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากคือ การพัฒนาทักษะและความสามารถในการใช้ภาษาในการสื่อสาร ซึ่งภาษาอังกฤษคือภาษาราชการที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารของประเทศในประเทศอาเซียน ภาษาอังกฤษนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการติดต่อสื่อสารกับผู้คนทั่วโลกไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ เราจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารทางด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และในสถานการณ์ต่างๆ
จากความสำคัญในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ส่งผลให้การศึกษาไทยในความสำคัญเป็นอย่างมากกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษคาดหวังให้นักเรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการฟัง พูด อ่าน เขียน แลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น และทักษะการฟังและการพูดเป็นทักษะที่ควรได้รับการพัฒนามากที่สุดในการติดต่อสื่อสาร แต่ความเป็นจริงการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของคนไทยยังประสบปัญหา นั่นคือคนไทยส่วนมากเรียนภาษาอังกฤษมาเป็นระยะเวลาหลายปี คือตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังไม่สามารถฟังและพูดสนทนากับชาวต่างประเทศได้อย่างคล่องแคล่วทั้ง ๆ ที่คร่ำเคร่งเรียนภาษาอังกฤษกันมาอย่างหนัก ซึ่งในอดีตการเรียนจะเน้นที่การเรียนรู้กฎเกณฑ์ของภาษา การจำโครงสร้างของประโยค แม้ปัจจุบันสภาพการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก กล่าวคือ เด็กไทยจะเรียนภาษาอังกฤษด้วยความสนุกสนานมากขึ้น เนื่องจากมีกิจกรรมการเรียนการสอนแบบใหม่ที่น่าสนใจ มีเกม มีเพลง มีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย จูงใจให้นักเรียนรักเรียน มีวิธีการสอนที่ใช้การสื่อสาร (Communication Approach) ซึ่งเน้นการสนทนา (Conversation) ตามสถานการณ์เป็นหลัก เพื่อให้นักเรียนเคยชินกับคำศัพท์และรูปประโยคต่าง ๆ เกิดการเรียนรู้และสามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างถูกต้อง แม้กระนั้นเด็กรุ่นใหม่ก็ยังไม่สามารถนำภาษาอังกฤษไปใช้ตามสถานการณ์ในสภาพความเป็นจริงได (ประนอม สุรัสวดี. 2539 : 56) การพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษมีความจำเป็นอย่างมากในทุกวันนี้ดังที่ (จิตพิศุทธิ์ จันตะคุต,ออนไลน์)ได้กล่าวถึงความสำคัญในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษประการแรกน่าจะใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ เช่นเดียวกับการที่เราเรียนรู้ภาษาแรกจากพ่อแม่ พี่เลี้ยง เป็นการเรียนรู้แบบธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องท่องศัพท์ แปล หรือ รู้หลักไวยากรณ์ ดังนั้นการเรียนการสอนในระดับเริ่มเรียนรู้ภาษานั้น คงต้องเน้นการมีส่วนร่วมทางภาษาให้มากที่สุด คือผู้เรียนต้องเรียนรู้จากการฟังและพูดอย่างเป็นธรรมชาติจนเกิดทักษะ เริ่มจากการฟังและพูดในชีวิตประจำวันในครอบครัว แล้วค่อยขยายออกไปสู่โลกภายนอกมากขึ้น เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ในการศึกษาขั้นสูงขึ้น
ในการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ22101 ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 จำนวน 40 คน โรงเรียนพระโขนงพิทยาลัย ผู้วิจัยในฐานะนักศึกษาฝึกสอนพบว่า นักเรียนส่วนหนึ่งมีปัญหาทางการฟังและการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน กล่าวคือเมื่อมีการแบบทดสอบการถาม-ตอบบทสนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน นักเรียนบางคนไม่สามารถถามคำถามและตอบคำถามของครูผู้สอนได้ โดยเกณฑ์คะแนนนักเรียนที่สามารถถาม-ตอบได้ดีมากในช่วงคะแนน 9-10 คะแนน มีจำนวน 6คน นักเรียนที่สามารถถาม-ตอบได้ดีในช่วงคะแนน 7-8 คะแนน มีจำนวน 10คน นักเรียนที่สามารถถาม-ตอบได้ปานกลางในช่วงคะแนน 5-6 คะแนน มีจำนวน 15 คน นักเรียนที่สามารถถาม-ตอบได้น้อยในช่วงคะแนน 3-4 คะแนน มีจำนวน 5 คน นักเรียนที่สามารถถาม-ตอบได้น้อยมากในช่วงคะแนน 0-2 คะแนน มีจำนวน 4 คน จากสภาพปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้วิจัยจำเป็นที่จะต้องแก้ไขเป็นอย่างมาก
นอกจากการสอบถามนักเรียน และยังพบสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้เรียนขาดความสามารถในทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน นั่นคือ นักเรียนขาดความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษเนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวไวยากรณ์ กลัวการพูดผิด ออกเสียงผิดอาจทำให้ตนเองอับอายหรือสื่อสารภาษาอังกฤษกับชาวต่างประเทศไม่ถูกต้องตามไวยากรณ์ อีกหนึ่งประเด็นที่ค้นพบคือ ครูผู้สอนมักเน้นการสอนเกี่ยวกับไวยากรณ์มากกว่าการสอนสนทนาในชีวิตประจำวัน ให้ทำใบงานและตอบให้ถูกต้อง ทำให้นักเรียนไม่ได้รับโอกาสในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
จากประเด็นที่ได้ยกมาดังกล่าว ผู้วิจัยมีวิจัยมีความสนใจและได้ทำการศึกษา ค้นคว้า รวบรวมข้อมูลวิจัยและบทความต่างๆเพื่อพัฒนาความสามารถในการสนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ผู้วิจัยได้ทบทวนบทความของ ทิศนา แขมมณี (2550 : 358) กล่าวถึงวิธีสอนโดยใช้กิจกรรมบทบาทสมมติ คือ กระบวนการที่ผู้สอนใช้ในการช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยการให้ผู้เรียนสวมบทบาทในสถานการณ์ซึ่งมีความใกล้เคียงกับความเป็นจริง และแสดงออกมาตามความรู้สึกนึกคิดของตน และนำเอาการแสดงออกของผู้แสดง ทั้งทางด้านความรู้ ความคิด ความรู้สึกและพฤติกรรมที่สังเกตพบว่าเป็นข้อมูลใน การอภิปราย เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ กระตุ้นความสนใจของผู้เรียน จากแนวคิดดังกล่าว ดังนั้นผู้วิจัยจึงสนใจจะศึกษาวิธีการแก้ปัญหาหารพูดสนทนาภาษาอังกฤษของผู้เรียนในชีวิตประจำวันโดยวิธีการสอนโดยใช้บทบาทสมมุติ ซึ่งผู้วิจัยคาดว่าการใช้วิธีการสอนดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้เรียนมีความรู้และความสามารถในการสนทนาให้ผู้เรียนได้พูดสนทนาเหมือนอยู่ในสถานการณ์จริง และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เรียนในการสนทนาภาษาอังกฤษมากขึ้น