Bar-headed geese: Highest bird migr

Bar-headed geese: Highest bird migration tracked
A tracking study has revealed the secrets of the world's highest bird migration - the Himalayan flight of the bar-headed goose.

The geese have been recorded at heights of more than 7,000m (23,000ft).

Bar-headed goose (c) Nyambayar Batbayar
Now, a team led by researchers from Bangor University has tracked the flight and revealed the basis for the birds' "rollercoaster flight" pattern.

The findings, published in Science, show how the birds hug the mountainous terrain, and that this saves energy.

Bar-headed geese have fascinated biologists for decades.

They achieve physiological feats that seem impossible - flying at extreme altitude, where there is less than 10% the oxygen found at sea level.


In previous tests, the researchers trained the birds to fly in wind tunnels and to wear masks that monitor their oxygen intake
George Lowe, the New Zealand born climber who supported Edmund Hillary and Tenzing Norgay's ascent in 1953, said he had seen the geese flying over the top of Mount Everest - the peak is approximately 29,000ft.

And, using GPS trackers, this team has recorded one bird flying at 24,000ft.

The implanted devices also measured the acceleration, body temperature and heart rate of seven geese, caught in central Mongolia.

Data from these devices enabled the scientists to work out the birds' energy use, as well as tracking what they called their "rollercoaster" flight pattern.

While rising and falling may seem wasteful - losing hard-earned altitude, just to climb again later - these unique trackers revealed the reasons behind it.

Lead researcher Dr Charles Bishop, from Bangor University in Gwynedd, told BBC News: "When we looked at the heart rate, [it was] going up with altitude quite quickly. So flying high is really difficult.

Researcher Lucy Hawkes rounds up bar-headed geese (c) Bruce Moffat
Dr Lucy Hawkes had to round up wild geese in order to study them
"When we calculated what it would be like if they went up to 6,000m and stayed there, that was more expensive than hugging the ground."

He said that the geese also appeared to take advantage of deflections of wind off ridges to gain extra lift.

Even more remarkable, Dr Bishop says, is that the birds do not seem to benefit from any tail winds, and they do not soar.

"They never stop flapping their wings," he said. "And one or two [of the flights we tracked] were up to 17 hours long."

Flapping flight is an energy-intensive activity and, at high altitudes, it is even more challenging to generate lift in very thin, low density air.

Dr Lucy Hawkes, from the University of Exeter, a member of the research team, explained that in their previous studies of the birds, the researchers had found that they would often fly at night, "when the air is colder and denser".

"This would reduce the cost of flight compared to the daytime," she explained.

Bar-headed geese and goslings in Mongolia
Bar-headed geese migrate via the highest mountain range on Earth - the Himalayas
Dr Bishop added that these geese may represent "the limit" of what birds are capable of.

"They have found a way to cross the world's longest and highest land mass - over 1,500km [930 miles] - relatively easily."

"They don't train or acclimatise," he said. "They could walk on the top of Everest and have no problem at all."

He and other biologists hope, eventually, to understand the genetics of what makes these animals able to perform energetic feats at such high altitudes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หัวห่าน: ติดตามการย้ายนกสูงสุดการศึกษาติดตามได้เปิดเผยความลับของโลกสูงสุดนกย้าย - หิมาลัยการบินของห่านหัวห่านที่ถูกบันทึกที่ความสูงมากกว่า 7000 m (23, 000 ฟุต)ห่านหัว (c) Nyambayar Batbayarตอนนี้ ทีมนำ โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบังกอร์ได้ติดตามเที่ยวบิน และเปิดเผยข้อมูลพื้นฐานสำหรับรูปแบบ "โรลเลอร์โคสเตอร์บิน" นกแสดงผลการศึกษา วิทยาศาสตร์ การเผยแพร่วิธีนกกอดภูมิประเทศภูเขา และที่นี้ประหยัดพลังงานหัวห่านมีหลง biologists สำหรับทศวรรษที่ผ่านมาพวกเขาบรรลุ feats สรีรวิทยาที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ - บินที่ระดับความสูงมาก มีน้อยกว่า 10% ออกซิเจนที่พบในทะเลระดับในการทดสอบก่อนหน้านี้ นักวิจัยฝึกนกบินในอุโมงค์ลม และสวมหน้ากากที่ตรวจสอบการบริโภคออกซิเจนจอร์จ Lowe นิวซีแลนด์เกิดเถาวัลย์ที่สนับสนุน Edmund ฮิลลารีและเทนซิงนอร์เกขึ้นใน 1953 กล่าวว่า เขาเห็นห่านที่บินอยู่เหนือด้านบนสุดของยอดเขาเอเวอเรสต์ - จุดสูงสุดคือ ประมาณ 29,000 ฟุตก ใช้จีพีเอสติดตามของเรา ทีมนี้มีบันทึกหนึ่งนกบินที่ 24000 ฟุตอุปกรณ์ลิฟต์วัดเร่งความเร็ว อุณหภูมิร่างกาย และอัตราการเต้นหัวใจของห่านเจ็ด ติดมองโกเลียกลางข้อมูลจากอุปกรณ์เหล่านี้เปิดใช้งานนักวิทยาศาสตร์การทำงานจากนกใช้พลังงาน เป็นการติดตามสิ่งที่พวกเขาเรียกรูปแบบการบิน "โรลเลอร์โคสเตอร์"ในขณะที่เพิ่มขึ้น และลดลงอาจดูเหมือน wasteful - สูญเสียหนักได้สูง เพื่อปีนหลัง - ติดตามของเหล่านี้ไม่ซ้ำเปิดเผยเหตุผลอยู่เบื้องหลังมันนักวิจัยนำบาทหลวงชาร์ลส์ Dr จากมหาวิทยาลัยบังกอร์ Gwynedd บอกข่าว BBC: "เมื่อเรามองที่อัตราการเต้นหัวใจ, [ก็] จะขึ้นกับระดับความสูงค่อนข้างรวดเร็ว ดังนั้น บินสูงเป็นเรื่องยากจริง ๆนักวิจัย Lucy Hawkes ปัดขึ้นหัวห่าน (c) Moffat บรูซดร.ลูซี่ Hawkes มีการปัดเศษค่าห่านป่าเพื่อศึกษาให้"เมื่อเราคำนวณอะไรได้เช่นถ้าพวกเขาไปถึง 6000 เมตร และ ๔ ที่ได้แพงกว่ากอดดิน"เขากล่าวว่า ห่านที่ยังปรากฏประโยชน์ deflections ของลมออกจากสันเขาเพื่อยกพิเศษโดดเด่นมากยิ่งขึ้น บาทหลวงดร.กล่าวว่า คือ นกดูเหมือนไม่ ได้รับประโยชน์จากลมหางใด ๆ และพวกเขาทะยาน"พวกเขาไม่เคยหยุด flapping ปีกของพวกเขา เขากล่าวว่า "และหนึ่งหรือสอง [ของเที่ยวบินที่เราติดตาม] ได้ยาวนานถึง 17 ชั่วโมง"Flapping บินเป็นกิจกรรมพลังงานเร่งรัด และ ที่ระดับสูง มันเป็นสิ่งที่ท้าทายยิ่งสร้างลิฟท์ในอากาศความหนาแน่นมาก ต่ำดร.ลูซี่ Hawkes จากมหาวิทยาลัยของเอ็กเซเตอร์ สมาชิกในทีมวิจัย อธิบายว่า ในการศึกษาก่อนหน้านี้ของนก นักวิจัยได้พบว่า พวกเขามักจะบินที่ในเวลากลางคืน "เมื่ออากาศไม่หนาว และ denser""นี้จะลดค่าใช้จ่ายเที่ยวบินเมื่อเทียบกับเวลากลางวัน เธออธิบายหัวห่านและ goslings ในประเทศมองโกเลียห่านหัวย้ายผ่านภูเขาสูงที่สุดในโลก - เทือกเขาหิมาลัยบาทหลวงดร.เพิ่มว่า ห่านเหล่านี้อาจหมายถึง "ข้อจำกัด" ของนกใดมีความสามารถในการ"พวกเขาได้พบวิธีการข้ามมวลดินที่ยาวที่สุด และสูงที่สุดในโลก -กว่า 1500 กม. [930 ไมล์] - ค่อนข้างง่าย""พวกเขาไม่ฝึก หรือ acclimatise เขากล่าวว่า "พวกเขาสามารถเดินบนยอดเขาเอเวอเรสต์ และไม่มีปัญหาเลย"เขาและ biologists อื่น ๆ หวังว่า สุด เข้าใจพันธุศาสตร์ของสิ่งที่ทำให้สัตว์เหล่านี้สามารถทำ feats มีพลังในระดับสูงดังกล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บาร์ห่านหัว: นกอพยพสูงสุดติดตาม
ศึกษาติดตามได้เปิดเผยความลับของนกอพยพสูงที่สุดในโลก - เที่ยวบินของเทือกเขาหิมาลัยห่านหัวลาย. ห่านได้รับการบันทึกที่สูงกว่า 7,000m (23,000ft) บาร์ห่านหัว (c) Nyambayar Batbayar ตอนนี้ทีมงานนำโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบังกอร์ได้ติดตามเที่ยวบินและเปิดเผยพื้นฐานสำหรับนก "รถไฟเหาะบิน" รูปแบบ. ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่านกกอด ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและที่นี้ช่วยประหยัดพลังงาน. ห่านบาร์หัวมีนักชีววิทยาหลงใหลมานานหลายทศวรรษ. พวกเขาบรรลุอวดทางสรีรวิทยาที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ -. การบินที่ระดับความสูงมากที่มีน้อยกว่า 10% ออกซิเจนพบได้ที่ระดับน้ำทะเลในการทดสอบก่อนหน้านี้ นักวิจัยได้รับการฝึกฝนนกที่จะบินไปในอุโมงค์ลมและสวมหน้ากากที่ตรวจสอบปริมาณออกซิเจนของพวกเขาจอร์จโลว์นิวซีแลนด์เกิดนักไต่เขาที่ได้รับการสนับสนุนเอ๊ดมันด์ฮิลลารีและขึ้นเทนซิงนอร์เกนในปี 1953 กล่าวว่าเขาได้เห็นห่านที่บินอยู่เหนือยอดเขา เอเวอร์เรส -. สูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 29,000ft และใช้จีพีเอสติดตามทีมนี้ได้บันทึกนกตัวหนึ่งบินที่ 24,000ft. อุปกรณ์ฝังยังวัดเร่งอุณหภูมิร่างกายและอัตราการเต้นหัวใจของเจ็ดห่านติดอยู่ในภาคกลางของประเทศมองโกเลีย. ข้อมูลจาก อุปกรณ์เหล่านี้ใช้งานนักวิทยาศาสตร์ในการทำงานจากการใช้พลังงานของนกเช่นเดียวกับการติดตามสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "รถไฟเหาะ" รูปแบบการบินของพวกเขา. ในขณะที่เพิ่มขึ้นและลดลงอาจจะดูเหมือนสิ้นเปลือง - สูญเสียความสูงได้ยากเพียงแค่ปีนขึ้นไปอีกครั้งในภายหลัง - ไม่ซ้ำกันเหล่านี้ . ติดตามการเปิดเผยเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังมันผู้นำการวิจัยดรชาร์ลส์บิชอปจาก Bangor University โดยกวินเนดข่าวบีบีซีบอกว่า "เมื่อเรามองที่อัตราการเต้นหัวใจ, [มันถูก] จะขึ้นกับระดับความสูงได้อย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นบินสูงเป็นเรื่องยากจริงๆ. นักวิจัยลูซี่ฮอว์ครอบขึ้นห่านบาร์หัว (ค) บรูซมอฟแฟตดรลูซี่ฮอว์คมีการปัดเศษขึ้นห่านป่าเพื่อที่จะศึกษาพวกเขา"เมื่อเราคำนวณว่ามันจะเป็นเช่นถ้าพวกเขาก็ขึ้นไปถึง 6,000 เมตรและอยู่ที่นั่นที่มีราคาแพงกว่ากอดพื้นดิน. " เขากล่าวว่าห่านก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากการโก่งตัวของลมออกแนวจะได้รับการยกพิเศษ. แม้ที่โดดเด่นมากขึ้นดรบิชอปกล่าวว่าคือการที่นกไม่ได้ ดูเหมือนจะได้รับประโยชน์จากลมหางใด ๆ และพวกเขาไม่ได้ทะยาน. "พวกเขาไม่เคยหยุดกระพือปีกของพวกเขา" เขากล่าว "และหนึ่งหรือสอง [ของเที่ยวบินที่เราติดตาม] เพิ่มขึ้นถึง 17 เป็นเวลานาน." กระพือบินเป็นกิจกรรมที่ใช้พลังงานมากและในระดับสูงก็เป็นที่ท้าทายมากยิ่งขึ้นในการสร้างลิฟท์ในบางมากความหนาแน่นต่ำอากาศดรลูซี่ฮอว์คจากมหาวิทยาลัยเอ็กซีเตอร์, สมาชิกของทีมวิจัยอธิบายว่าในการศึกษาก่อนหน้านี้ของนกนักวิจัยได้พบว่าพวกเขามักจะบินในเวลากลางคืน "เมื่ออากาศหนาวเย็นและทึบ". " นี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของเที่ยวบินเมื่อเทียบกับช่วงเวลากลางวัน "เธออธิบาย. ห่านบาร์หัวและ goslings ในมองโกเลียห่านบาร์หัวโยกย้ายผ่านช่วงภูเขาที่สูงที่สุดในโลก - เทือกเขาหิมาลัยดรบิชอปเสริมว่าห่านเหล่านี้อาจเป็นตัวแทนของ "จำกัด ". ในสิ่งที่นกมีความสามารถของ"พวกเขาได้พบวิธีที่จะข้ามผืนแผ่นดินที่ยาวที่สุดและสูงที่สุดในโลก - กว่า 1,500km [930 ไมล์] -. ค่อนข้างง่าย" "พวกเขาไม่ได้ฝึกอบรมหรือ acclimatise" เขากล่าว "พวกเขาสามารถเดินอยู่ด้านบนของเอเวอร์เรสและมีปัญหาใด ๆ ." เขาและนักชีววิทยาอื่น ๆ หวังว่าในที่สุดจะเข้าใจพันธุกรรมของสิ่งที่ทำให้สัตว์เหล่านี้สามารถที่จะดำเนินการอวดพลังในระดับสูงเช่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บาร์หัวห่าน : สูงสุดนกอพยพติดตาม
ติดตาม ศึกษาได้เปิดเผยความลับของการย้ายถิ่น - นกที่สูงที่สุดในโลก หิมาลัย เที่ยวบินของบาร์หัวห่าน . . .

ห่านที่ได้รับการบันทึกที่ความสูงมากกว่า 7000m ( 23000ft )

บาร์หัวห่าน ( C ) nyambayar batbayar
ตอนนี้ทีมที่นำโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบังกอร์ได้ติดตามเที่ยวบินและข้อมูลพื้นฐานสำหรับนก " เหาะบิน

" รูปแบบ ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวิทยาศาสตร์ แสดงว่านกกอดภูมิประเทศที่เป็นภูเขา และ ที่ นี้ช่วยประหยัดพลังงาน

บาร์หัวห่านได้หลงใหลนักชีววิทยา

พวกเขามานานหลายทศวรรษ สรีรวิทยาบรรลุ feats ที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ - บินที่ระดับความสูงมากที่ไหนมีไม่ถึง 10 % ของออกซิเจนที่พบที่ระดับน้ําทะเล


ในผลการทดสอบที่ผ่านมา นักวิจัยได้ฝึกนกให้บินในอุโมงค์ลมและสวมหน้ากากที่ตรวจสอบปริมาณออกซิเจนของ
จอร์จโลว์นิวซีแลนด์เกิดปีน ที่สนับสนุน และเตนจิง นอร์เกต เอดมันด์ ฮิลลารีเป็น 1953 , กล่าวว่าเขามี เห็นห่านที่บินอยู่ด้านบนของภูเขาเอเวอร์เรส - ยอดประมาณ 29000ft .

และใช้ GPS ติดตาม ทีมนี้มีบันทึกหนึ่งนกบินที่ 24000ft

ถูกอุปกรณ์ยังวัดความเร่ง อุณหภูมิของร่างกาย และอัตราการเต้นหัวใจของเจ็ดห่าน จับกลางในมองโกเลีย

ข้อมูลจากอุปกรณ์เหล่านี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทำงานนกใช้พลังงาน ตลอดจนการติดตาม สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า " เหาะ " รูปแบบการบิน .

ในขณะที่การเพิ่มขึ้นและลดลงอาจดูเหมือนฟุ่มเฟือย - สูญเสียการควบคุมได้ยาก แค่ปีนอีกครั้งในภายหลัง -- ติดตามที่ไม่ซ้ำกันเหล่านี้เปิดเผยเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังมัน

นำนักวิจัย ดร. ชาร์ล บิชอฟ จากมหาวิทยาลัยบังกอร์ในกวินเนดบอกว่าข่าวบีบีซี : " เมื่อเราดูที่อัตราการเต้นของหัวใจ [ เป็น ] จะขึ้นกับระดับความสูงค่อนข้างรวดเร็ว . เพื่อบินสูงยากจริงๆ

นักวิจัยลูซี่ฮอว์ครอบขึ้นแถบหัวห่าน ( C ) บรูซ มอฟแฟต
ดร ลูซี่ ฮอว์คต้องไล่จับห่านป่าเพื่อการศึกษาพวกเขา
" เมื่อเราคำนวณว่ามันจะเป็นยังไงถ้าพวกเขาขึ้นไป 6000m และอยู่ที่นั่น มันแพงกว่ากอดพื้นดิน "

เขากล่าวว่า ห่านยังปรากฏที่จะใช้ประโยชน์จากการแอ่นตัวของลมออกแนวรับยกพิเศษ

โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ดร. บิช็อป กล่าวว่า คือ นกไม่ได้ดูเหมือนจะได้รับประโยชน์จากหางลม , และพวกเขาจะไม่ทะยาน

" พวกเขาไม่เคยหยุดกระพือปีก , " เขากล่าว . " และหนึ่งหรือสองของเที่ยวบินเรา [ ติดตาม ] ถึง 17 ชั่วโมงนาน "

กระพือปีกบินเป็นพลังงานที่เข้มข้น และกิจกรรม ที่ระดับความสูงสูง มันเป็นสิ่งที่ท้าทายมากขึ้นเพื่อสร้างขึ้นในบางมาก ความหนาแน่นอากาศน้อย

ดร ลูซี่ ฮอว์ค จากมหาวิทยาลัย Exeter , สมาชิกของทีมวิจัย อธิบายว่า ในการศึกษาก่อนหน้านี้ของนก นักวิจัยได้พบว่าพวกเขาจะมักจะบินในเวลากลางคืน เมื่ออากาศเย็นและหนาแน่น "

" นี้ จะช่วยลดต้นทุนของเครื่องเมื่อเทียบกับตอนกลางวัน " เธออธิบาย

บาร์หัวห่านและลูก
ในมองโกเลียบาร์หัวห่านอพยพผ่านเทือกเขาสูงที่สุดบนโลก - เทือกเขาหิมาลัย
ดร. บิชอปกล่าวว่าห่านเหล่านี้อาจเป็นตัวแทนของ " ขอบเขต " ของสิ่งที่นกสามารถ

" พวกเขาได้พบวิธีที่จะข้ามโลกที่ยาวที่สุด และสูงสุดของมวลดิน - [ ] - 1500km 930 ไมล์ค่อนข้างได้อย่างง่ายดาย .

" พวกเขาไม่ได้ฝึกหรือ acclimatise " เขากล่าว