Teenagers seem to be more susceptib

Teenagers seem to be more susceptible to sleep texting. This observation may be biased by the fact that they more often use text messages to communicate during the day in general. Teens may even use texts excessively, so that it becomes an important component of their daily lives. In addition, teens are more likely to fall asleep later (as part of delayed sleep phase syndrome) and the use of the cell phone may pass some of this time early in the night. They may also be more likely keep their cell phones close to them at night, both for late-night communication as well as to preserve their privacy.

Ideally, no one should sleep with a phone. This can be disruptive to your sleep environment, either through text messages or phone calls. In addition, it might keep you awake as you chat with others, play games, or surf the internet on smart phones.

Anyone who has a problem with sleep texting might also benefit from observing better sleep guidelines. In particular, it will be important to eliminate sleep deprivation. Sleep deprivation may fragment your ability to sleep soundly, so that the overlapping states of consciousness occur more easily. In addition, the use of Ambien or other hypnotic medications should be avoided because these might affect your memory and awareness while allowing you to perform complex behaviors, including texting.

Most people will find that simply removing the cell phone from the bedroom is enough to stop those errant text messages from being sent. It will also help you to sleep better and wake refreshed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัยรุ่นดูเหมือนจะอ่อนแอมากขึ้นไปนอน texting สังเกตนี้อาจเป็นภาพความจริงที่ว่า บ่อยใช้ข้อความเพื่อสื่อสารในระหว่างวันโดยทั่วไป วัยรุ่นอาจจะใช้ข้อความมากเกินไป เพื่อให้มันกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญของชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ วัยรุ่นมีแนวโน้มจะหลับต่อ (เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาการระยะปล่าช้า) และการใช้โทรศัพท์มือถืออาจส่งของเวลาเช้าในยามค่ำคืน พวกเขาจะว่าให้โทรศัพท์ของพวกเขาใกล้ชิดกับดึก ทั้งดึกสื่อสารเป็นอย่างดีเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของพวกเขาได้

เชิญ ไม่ควรนอนกับโทรศัพท์ได้ นี้สามารถเป็นขวัญระบบนอนหลับของคุณ ได้ข้อความหรือโทรศัพท์ นอกจากนี้ มันอาจทำให้คุณทำงานขณะที่คุณสนทนากับผู้อื่น เล่นเกม หรือท่องอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทได้

ใครที่มีปัญหานอนหลับ texting อาจยังได้ประโยชน์จากการสังเกตแนวทางนอนหลับดีขึ้นได้ โดยเฉพาะ มันจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะขจัดภาวะขาดการนอนหลับ ภาวะขาดการนอนหลับอาจแยกส่วนความสามารถในการหลับสนิท เพื่อให้สถานะทับซ้อนกันของสติเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การใช้ Ambien หรือยาอื่น ๆ สะกดควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อหน่วยความจำและจิตสำนึกของคุณในขณะที่ช่วยให้คุณสามารถทำพฤติกรรมที่ซับซ้อน รวม texting

คนส่วนใหญ่จะพบว่า เพียงแค่เอาโทรศัพท์จากห้องนอนเป็นพอที่จะหยุดข้อผู้พเนจรส่ง มันยังจะช่วยให้คุณนอนหลับดีขึ้น และตื่นมาสดชื่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัยรุ่นดูเหมือนจะอ่อนแอมากขึ้นเพื่อส่งข้อความการนอนหลับ ข้อสังเกตนี้อาจจะลำเอียงด้วยความจริงที่ว่าพวกเขามักจะใช้ข้อความในการสื่อสารในระหว่างวันโดยทั่วไป วัยรุ่นอาจจะใช้ตำรามากเกินไปเพื่อที่มันจะกลายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของชีวิตประจำวันของพวกเขา นอกจากนี้วัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะหลับต่อมา (เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาการของโรคในระยะการนอนหลับล่าช้า) และการใช้โทรศัพท์มือถืออาจจะผ่านบางเวลานี้ในช่วงต้นในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังอาจจะมีแนวโน้มที่จะทำให้โทรศัพท์มือถือของพวกเขาใกล้กับพวกเขาในเวลากลางคืนทั้งสำหรับการสื่อสารดึกเช่นเดียวกับการที่จะรักษาความเป็นส่วนตัวของพวกเขาจะเป็นการดีที่ไม่มีใครควรนอนกับโทรศัพท์ นี้สามารถทำลายสภาพแวดล้อมการนอนหลับของคุณทั้งผ่านข้อความหรือโทรศัพท์ นอกจากนี้ก็อาจจะทำให้คุณตื่นขึ้นมาในขณะที่คุณสนทนากับคนอื่นเล่นเกมหรือท่องอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์สมาร์ททุกคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการส่งข้อความการนอนหลับนอกจากนี้ยังอาจได้รับประโยชน์จากการสังเกตแนวทางการนอนหลับดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีความสำคัญที่จะกำจัดการอดนอน อดนอนอาจแตกความสามารถในการนอนหลับอย่างเพื่อให้รัฐที่ทับซ้อนกันของสติเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การใช้ของ Ambien หรือยาที่ถูกสะกดจิตอื่น ๆ ควรหลีกเลี่ยงเพราะเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อหน่วยความจำและการรับรู้ของคุณในขณะที่ช่วยให้คุณสามารถดำเนินการกับพฤติกรรมที่ซับซ้อนรวมถึงการส่งข้อความของคนส่วนใหญ่จะพบว่าเพียงแค่การเอาโทรศัพท์มือถือจากห้องนอนก็เพียงพอที่จะหยุด ผู้ที่ข้อความผิดจากการถูกส่งไป นอกจากนี้ยังจะช่วยให้คุณนอนหลับดีขึ้นและตื่นสดชื่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัยรุ่นดูเหมือนจะอ่อนแอมากขึ้นเพื่อการนอนหลับ texting การสังเกตนี้อาจจะอคติโดยความจริงที่ว่าพวกเขามักจะใช้ข้อความสื่อสารระหว่างวันทั่วไป วัยรุ่นอาจใช้ข้อความมากเกินไป เพื่อให้มันกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของพวกเขา นอกจากนี้วัยรุ่นมีแนวโน้มที่จะหลับทีหลัง ( เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาการระยะล่าช้านอนหลับ ) และการใช้โทรศัพท์มือถืออาจจะผ่านบางส่วนของเวลาเช้าขนาดนี้ในตอนกลางคืน พวกเขายังอาจมีแนวโน้มให้โทรศัพท์ของพวกเขาใกล้ชิดกับพวกเขาในเวลากลางคืน ทั้งการสื่อสาร ดึก รวมทั้งเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของพวกเขา .

เหมาะ ไม่ควรนอนกับโทรศัพท์นี้สามารถทำลายสภาพแวดล้อมการนอนของคุณ ผ่านข้อความ หรือโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังอาจทำให้คุณตื่นคุณแชทกับคนอื่น ๆเล่นเกมหรือท่องอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์สมาร์ท .

ใครที่มีปัญหานอน texting อาจได้รับประโยชน์จากการสังเกตนอนดีกว่าแนวทาง โดยเฉพาะมันเป็นเรื่องสำคัญที่จะขจัดการกีดกันการนอนหลับอดนอนอาจทำให้ความสามารถของคุณหลับสนิทจนซ้อนสติของสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การใช้แอมเบี้ยนหรือโรคจิตอื่น ๆ ควรเลี่ยงเพราะเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อความจำและการรับรู้ของคุณในขณะที่ช่วยให้คุณแสดงพฤติกรรมที่ซับซ้อนรวมทั้ง

ข้อความคนส่วนใหญ่จะพบว่า เพียงแค่เอาโทรศัพท์จากห้องนอนก็เพียงพอที่จะหยุดผู้ที่ประพฤติชั่วข้อความถูกส่งมา นอกจากนี้ยังจะช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นและสดชื่น .