The idea of building a large statue

The idea of building a large statue atop Corcovado was first suggested in the mid-1850s, when Vincentian priest, Pedro Maria Boss, suggested placing a Christian monument on Mount Corcovado to honour Princess Isabel, princess regent of Brazil and the daughter of Emperor Pedro II, although the project was never approved.[1] In 1889, the country became a republic and, the statue was manufactured along with the Statue of Liberty and the Paris Tower but never displayed and, with the official separation of state and church, the idea was dismissed.[7]

The second proposal for a landmark statue on the mountain was made in 1920, by the Catholic Circle[clarification needed] of Rio.[8][better source needed] The group organized an event called Semana do Monumento ("Monument Week") to attract donations and collect signatures to support the building of the statue. What motivated the organization was what they perceived as 'Godlessness' in the society at the time. The donations came mostly from Brazilian Catholics.[4] The designs considered for the "Statue of the Christ" included a representation of the Christian cross, a statue of Jesus with a globe in his hands, and a pedestal symbolizing the world.[9] The statue of Christ the Redeemer with open arms, a symbol of peace, was chosen.

Local engineer Heitor da Silva Costa designed the statue; it was sculpted by Polish-French sculptor Paul Landowski.[10]

The face of the statue was created by Romanian sculptor Gheorghe Leonida, who was born in Galati, Romania, in 1893. He studied sculpture at the Fine Arts Conservatory in Bucharest, then, after three more years' study in Italy, he won a prize for the sculpture Reveil ("Awakening"). After that he moved to Paris, where his work, Le Diable ("The Devil"), was awarded the Grand Prix. Becoming famous in France as portraitist, he was included by Paul Landowski in the team that started working on Christ the Redeemer in 1922. Gheorghe Leonida contributed by portraying Jesus Christ's face on the statue, which made him famous.[11][12]

A group of engineers and technicians studied Landowski's submissions and the decision was made to build the structure out of reinforced concrete (designed by Albert Caquot) instead of steel, more suitable for the cross-shaped statue. The outer layers are soapstone, chosen for its enduring qualities and ease of use.[5] Construction took nine years, from 1922 to 1931 and cost the equivalent of US$250,000 (equivalent to $3,300,000 in 2015). The monument was opened on October 12, 1931.[5][6] During the opening ceremony, the statue was supposed to be lit by a battery of floodlights turned on remotely by shortwave radio pioneer Guglielmo Marconi, stationed 5,700 miles (9,200 km) away in Rome but due to bad weather they were turned on on site.[8]


A view of the statue at night
In October 2006, on the 75th anniversary of the statue's completion, Archbishop of Rio, Cardinal Eusebio Oscar Scheid, consecrated a chapel, named after Brazil's patron saint—Our Lady of the Apparition, under the statue. This allows Catholics to hold baptisms and weddings there.[6]

The statue was struck by lightning during a violent thunderstorm on February 10, 2008, and suffered some damage to the fingers, head and eyebrows. A restoration effort was put in place by the Rio de Janeiro state government to replace some of the outer soapstone layers and repair the lightning rods installed on the statue. It was damaged by lightning again, on January 17, 2014, where a finger on the right hand was dislodged.[13][14][15][16]

In 2010, a massive restoration of the statue was undertaken. The statue was washed, the mortar and soapstone that cover the statue were replaced, the internal structure of iron was restored, and the monument was made waterproof. The statue was vandalized during renovation, wherein paint was sprayed along the arm. Mayor Eduardo Paes called the act "a crime against the nation". The culprits later apologized and presented themselves to the police

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความคิดของการสร้างรูปปั้นขนาดใหญ่บนยอด Corcovado รับการแนะนำครั้งแรกในกลางยุค 1850 เมื่อพระสงฆ์ Vincentian นายเปโดรมาเรีย การแนะนำวางอนุสาวรีย์คริสเตียนบนภูเขา Corcovado ให้เกียรติเจ้าหญิงอิซาเบล รีเจนท์เจ้าหญิงของบราซิลและลูกสาวของจักรพรรดิเปโดร II แม้ว่าโครงการไม่ได้รับอนุมัติ [1] ในปี 1889 ประเทศกลายเป็น สาธารณรัฐ และ ผลิตพร้อม ด้วยเทพีและหอคอยที่ปารีส แต่ไม่ปรากฏรูปปั้น และ ไล่ความคิด ด้วยการแยกอย่างเป็นทางการของรัฐและศาสนจักร [7]ข้อเสนอที่สองสำหรับรูปปั้นแลนด์มาร์คบนภูเขาได้ทำใน 1920 โดยวงคาทอลิก [วัฒนธรรมของริโอ [8] ข้างต้น [] จัดกลุ่มเหตุการณ์ที่เรียกว่าเซมานาทำอนุสาวรีย์วิคโต ("อนุสาวรีย์สัปดาห์) บริจาค และรวบรวมลายเซ็นเพื่อสนับสนุนการสร้างรูปปั้น แรงบันดาลใจองค์กรคือ สิ่งที่พวกเขามองว่าเป็น 'Godlessness' ในสังคมในเวลา การบริจาคมาจากคาทอลิกบราซิล [4] การออกแบบที่พิจารณาสำหรับ "รูปปั้นของพระคริสต์" รวมการแสดงของคริสเตียนกางเขน รูปปั้นพระเยซูกับโลกในมือของเขา และฐานสัญลักษณ์ของโลก [9]รูปปั้นพระคริสต์ผู้ไถ่ ด้วยการเปิดแขน สัญลักษณ์ของสันติภาพ เลือกท้องถิ่นวิศวกร Heitor da Silva Costa ออกแบบรูปปั้น มันถูกแกะสลัก โดยประติมากรโปแลนด์ฝรั่งเศสพอล Landowski [10]ใบหน้าของรูปปั้นที่สร้าง โดยประติมากรโรมาเนีย Gheorghe Leonida ที่เกิดในโอ โรมาเนีย สักการะ เขาศึกษาประติมากรรมที่เรือนกระจกวิจิตรศิลป์ในบูคาเรสต์ จาก นั้น หลังจากที่สามเพิ่มเติมปีการศึกษาในอิตาลี เขาได้รับรางวัลรางวัลสำหรับประติมากรรม Reveil ("ตื่น") หลังจากนั้น เขาย้ายไปปารีส ที่ทำงานของเขา Le Diable ("The Devil"), ได้รับรางวัลกรังปรีซ์ กลายเป็นมีชื่อเสียงในประเทศฝรั่งเศสเป็น portraitist เขาถูกรวมอยู่ โดยพอล Landowski ในกลุ่มคนที่เริ่มทำงานในพระคริสต์ผู้ไถ่ใน 1922 ครั้ง Gheorghe Leonida ที่โดยจิตรใบหน้าของพระเยซูคริสต์บนรูปปั้น ซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียง [11] [12]กลุ่มของวิศวกรและช่างเทคนิคศึกษาผลงานของ Landowski และการตัดสินใจในการสร้างโครงสร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็ก (ออกแบบ โดยอัลเบิร์ Caquot) แทนเหล็ก เหมาะสำหรับข้ามรูปปั้น ชั้นนอกเป็นหินสบู่ที่ทำ เลือกคุณภาพคงทนและใช้งานง่าย [5] ก่อสร้างใช้เวลาเก้าปี จาก 1922 ถึง 1931 และต้นทุนเทียบเท่าของสหรัฐอเมริกา $250,000 (เทียบเท่ากับ $3,300,000 2015) อนุสาวรีย์เปิดให้บริการเมื่อ 12 ตุลาคม 1931 [5] [6] ระหว่างพิธีเปิด รูปปั้นควรจะส่อง โดยแบตเตอรี่ของไฟที่เปิดจากระยะไกล โดยผู้บุกเบิกวิทยุคลื่นสั้นโบกุลิเอลโม ประจำ 5,700 ไมล์ (9,200 กิโลเมตร) ห่างกัน ในกรุงโรม แต่เนื่อง จากสภาพอากาศเลวร้ายที่พวกเขาได้เปิดเว็บไซต์ [8]มุมมองของรูปปั้นที่คืนในเดือน 2549 ตุลาคม ในการครบรอบ 75 ปีของรูปปั้นแล้วเสร็จ อาร์ชบิชอปแห่งโอ พระคาร์ดินัล Eusebio ออสการ์ใน Scheid ถวายโบสถ์ ตั้งชื่อตามนักบุญอุปถัมภ์ของบราซิล — ของผี ภายใต้รูปปั้น คาทอลิกจะจัดงานแต่งงานและ baptisms มีให้ [6]รูปปั้นหลงฟ้าผ่าในช่วงพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงบน 10 กุมภาพันธ์ 2008 และได้รับความเสียหายบางนิ้ว หัว และคิ้ว ความพยายามฟื้นฟูถูกวางในสถาน โดยรัฐบาลของรัฐริโอเดจาเนโรเพื่อแทนที่บางส่วนของชั้นหินสบู่ที่ทำภายนอก และซ่อมแซมแท่งฟ้าผ่าที่ติดตั้งบนรูปปั้น มันเสียหายจากฟ้าผ่าอีกครั้ง บน 17 มกราคม 2014 ที่นิ้วบน มือข้างขวาถูก dislodged [13] [14] [15] [16]ใน 2010 ฟื้นฟูของรูปปั้นขนาดใหญ่ได้รับการดำเนินการ รูปปั้นถูกล้าง ปูนและหินสบู่ที่ทำรูปปั้นที่ถูกแทนที่ โครงสร้างเหล็กถูกคืนค่า และอนุสาวรีย์ทำกันน้ำ รูปปั้นถูก vandalized ในช่วงปรับปรุง นั้นถูกพ่นสีไปตามแขน นายกเทศมนตรี Eduardo Paes เรียกว่าพระราชบัญญัติ "อาชญากรรมกับประเทศ" ต้นเหตุภายหลังโทษ และนำเสนอตัวเองให้ตำรวจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความคิดของการสร้างรูปปั้นขนาดใหญ่อยู่บนรูปปั้นพระเยซูที่ถูกแนะนำเป็นครั้งแรกในช่วงกลางยุค 1850, เมื่อพระสงฆ์วินเซน, เปโดรมาเรียบอสแนะวางอนุสาวรีย์คริสเตียนบนภูเขา Corcovado เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิงอิซาเบลรีเจ้นท์เจ้าหญิงแห่งบราซิลและบุตรสาวของจักรพรรดิเปโดรครั้งที่สอง แม้ว่าโครงการก็ไม่เคยได้รับการอนุมัติ. [1] ในปี 1889 ประเทศที่กลายเป็นสาธารณรัฐและรูปปั้นถูกผลิตพร้อมกับอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพและปารีสทาวเวอร์ แต่ไม่เคยปรากฏขึ้นและมีการแยกอย่างเป็นทางการของรัฐและคริสตจักรที่ ความคิดที่ถูกไล่ออก. [7] ข้อเสนอที่สองสำหรับรูปปั้นสถานที่สำคัญบนภูเขาที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1920 โดยวงกลมคาทอลิก [ชี้แจงจำเป็น] ริโอ. [8] [แหล่งที่ดีจำเป็น] จัดกลุ่มเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า Semana ทำอนุสาวรีย์ ( "สัปดาห์อนุสาวรีย์") เพื่อดึงดูดเงินบริจาคและรวบรวมลายเซ็นเพื่อสนับสนุนการสร้างรูปปั้น อะไรเป็นแรงจูงใจองค์กรที่ได้รับสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็น 'godlessness' ในสังคมในเวลานั้น บริจาคส่วนใหญ่มาจากคาทอลิกบราซิล. [4] การออกแบบการพิจารณาให้ "รูปปั้นของพระคริสต์" รวมตัวแทนของคริสเตียนข้ามรูปปั้นของพระเยซูกับโลกอยู่ในมือของเขาและแท่นเป็นสัญลักษณ์ของโลก. [9 .] รูปปั้นพระเยซูคริสต์ที่มีแขนเปิดเป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุขได้รับเลือกให้วิศวกรท้องถิ่น Heitor ดาคอสต้าได้รับการออกแบบรูปปั้น; มันถูกแกะสลักโดยโปแลนด์ฝรั่งเศสประติมากรพอล Landowski. [10] ใบหน้าของรูปปั้นถูกสร้างขึ้นโดยโรมาเนียประติมากรเก Leonida ที่เกิดในกาลาตี, โรมาเนียในปี 1893 เขาศึกษาประติมากรรมที่วิจิตรศิลป์เรือนกระจกในบูคาเรสต์แล้ว หลังจากการศึกษาอีกสามปีในอิตาลีเขาได้รับรางวัลสำหรับประติมากรรม Reveil A ( "Awakening") หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปปารีสซึ่งการทำงานของเขา Le Diable ( "ปีศาจ") ได้รับรางวัลกรังปรีซ์ กลายเป็นที่มีชื่อเสียงในประเทศฝรั่งเศสเป็นรูปเขาถูกรวมโดยพอล Landowski ในทีมที่เริ่มทำงานในพระเยซูคริสต์ในปี 1922 เก Leonida สนับสนุนโดยจิตรใบหน้าของพระเยซูคริสต์บนรูปปั้นซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียง. [11] [12] กลุ่มวิศวกรและช่างเทคนิคศึกษาส่ง Landowski และตัดสินใจที่จะสร้างโครงสร้างออกจากคอนกรีตเสริมเหล็ก (ออกแบบโดยอัลเบิร์ Caquot) แทนการใช้เหล็กมากขึ้นเหมาะสำหรับรูปปั้นรูปกากบาท ชั้นนอกจะหินสบู่เลือกคุณภาพที่ยั่งยืนและความสะดวกในการใช้. [5] การก่อสร้างใช้เวลาเก้าปี 1922-1931 และค่าใช้จ่ายเทียบเท่าของสหรัฐ $ 250,000 (เทียบเท่า $ 3,300,000 ในปี 2015) อนุสาวรีย์ถูกเปิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1931 [5] [6] ในช่วงพิธีเปิดรูปปั้นก็ควรที่จะมีไฟจากแบตเตอรี่ของสปอตไลหันในระยะไกลโดยเอฟเอ็มวิทยุบุกเบิก Guglielmo Marconi ประจำ 5,700 ไมล์ (9,200 กิโลเมตร) ออกไปในกรุงโรม แต่เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายที่พวกเขากำลังเปิดอยู่บนเว็บไซต์. [8] มุมมองของรูปปั้นในเวลากลางคืนในเดือนตุลาคมปี 2006 ในวันครบรอบ 75 ปีของความสำเร็จรูปปั้นของอาร์คบิชอปริโอพระคาร์ดินัล Eusebio ออสการ์ Scheid ศักดิ์สิทธิ์โบสถ์ ตั้งชื่อตามชื่อของบราซิลเลดี้นักบุญอุปถัมภ์ของเราของผีภายใต้รูปปั้น นี้จะช่วยให้ชาวคาทอลิกจะถือศีลและงานแต่งงานมี. [6] รูปที่ถูกฟ้าผ่าในช่วงพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงที่ 10 กุมภาพันธ์ 2008 และได้รับความเสียหายบางส่วนไปที่นิ้วมือและหัวคิ้ว ความพยายามฟื้นฟูถูกวางในตำแหน่งโดยรัฐบาลของรัฐริโอเดอจาเนโรที่จะมาแทนที่บางส่วนของชั้นหินสบู่ด้านนอกและซ่อมแซมแท่งฟ้าผ่าที่ติดตั้งบนรูปปั้น มันได้รับความเสียหายจากฟ้าผ่าอีกครั้งวันที่ 17 มกราคม 2014 ที่นิ้วมือข้างขวาก็หลุดออก. [13] [14] [15] [16] ในปี 2010 การบูรณะใหญ่ของรูปปั้นได้ดำเนินการ รูปที่ถูกล้างปูนและสบู่ที่ครอบคลุมรูปปั้นถูกแทนที่โครงสร้างภายในของเหล็กได้รับการบูรณะและอนุสาวรีย์ได้ทำกันน้ำ รูปที่ถูกบุกรุกในระหว่างการปรับปรุงประเด็นสีพ่นพร้อมแขน นายกเทศมนตรี Eduardo Paes เรียกว่าการกระทำ "อาชญากรรมต่อชาติ" ต้นเหตุที่ต่อมาขอโทษและนำเสนอตัวเองให้ตำรวจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนวคิดของการสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่บนคอร์โควาโดเป็นครั้งแรกที่แนะนำใน mid-1850s เมื่อ Vincentian สงฆ์ เปโดร มาเรีย เจ้านาย แนะนำวาง คริสเตียน อนุสาวรีย์บนภูเขาคอร์โควาโดเพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิงอิซาเบล เจ้าหญิงรีเจ้นท์ของบราซิล และลูกสาวของจักรพรรดิเปโดรที่ 2 แม้ว่าโครงการที่ไม่เคยผ่าน . . . [ 1 ] ในปี 1889 , ประเทศ เป็นสาธารณรัฐ และ รูปปั้นที่ถูกผลิตพร้อมกับรูปปั้นของเสรีภาพและปารีสหอแต่ไม่แสดง และ มีการแยกของคริสตจักรและรัฐอย่างเป็นทางการ ความคิดถูกไล่ออก [ 7 ]ข้อเสนอที่สองสำหรับรูปปั้นมาร์คบนภูเขาถูกสร้างในปี 1920 โดยชี้แจงวงกลม [ คาทอลิกต้องการ ] ริโอ [ 8 ] [ แหล่งที่ดีจำเป็น ] กลุ่มจัดกิจกรรมที่เรียกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาทำใน ( " อาทิตย์ " อนุสาวรีย์ ) เพื่อดึงดูดการบริจาคและรวบรวมลายเซ็นเพื่อสนับสนุนการสร้างรูปปั้น สิ่งที่กระตุ้นให้องค์กรเป็นสิ่งที่พวกเขารับรู้ว่าเป็น " " พระเจ้าไม่อยากเหลียวแลในสังคมในเวลานี้ บริจาคมาส่วนใหญ่มาจากคาทอลิกบราซิล [ 4 ] การออกแบบถือว่า " รูปปั้นของพระเยซูคริสต์ " รวมถึงการเป็นตัวแทนของคริสเตียนข้าม , รูปปั้นของพระเยซูกับโลกในมือของเขาและแท่นสัญลักษณ์ของโลก [ 9 ] รูปปั้นพระเยซูที่มีแขนเปิด เป็นสัญลักษณ์ของ สันติภาพที่ถูกเลือกวิศวกรท้องถิ่น heitor ดา ซิลวา คอสตา ออกแบบรูปปั้น มันถูกแกะสลักโดยช่างแกะสลัก ฝรั่งเศส โปแลนด์ พอล landowski [ 10 ]ใบหน้าของรูปปั้นที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวโรมาเนียประติมากร gheorghe leonida ซึ่งเกิดใน Sulina , โรมาเนีย , ใน 1893 . เขาเรียนที่โรงเรียนสอนดนตรี ประติมากรรม ศิลปกรรม ใน บูคาเรสต์ หลังจากนั้นอีกสามปีเรียนที่ประเทศอิตาลี เขาได้รับรางวัลสำหรับประติมากรรม reveil ( " ตื่น " ) หลังจากนั้นเขาย้ายไปปารีส งานของเขา ที่ เลอ เรื่อง " ปีศาจ " ) ได้รับรางวัลกรังปรีซ์ กลายเป็นที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศสเป็นนักเขียนภาพคน เขา รวม โดย พอล landowski ในทีมซึ่งเริ่มทำงานบนรูปปั้นพระเยซูคริสต์ใน 1922 . gheorghe leonida สมทบโดยจิตรใบหน้าพระเยซูบนรูปปั้น ซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียง . [ 11 ] [ 12 ]กลุ่มของวิศวกรและช่างเทคนิคที่เรียน landowski กำลังส่ง และการตัดสินใจที่จะสร้างโครงสร้างของคอนกรีต ( ออกแบบโดย อัลเบิร์ต caquot ) แทนเหล็ก เหมาะสําหรับข้ามรูปรูปปั้น ชั้นนอกเป็นหินสบู่ , เลือกสำหรับเจาะคุณภาพและใช้งานง่าย . [ 5 ] ก่อสร้าง 9 ปี จาก 2465 ถึง 2474 และต้นทุนเทียบเท่าของ $ 250 , 000 ( เทียบเท่ากับ $ 3300000 ในปี 2015 ) อนุสาวรีย์นี้เปิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2474 . [ 5 ] [ 6 ] ในช่วงพิธีเปิด อนุสาวรีย์ น่าจะใช้ไฟจากแบตเตอรี่ของ floodlights เปิดระยะไกลโดยผู้บุกเบิกกูกลีเอลโม มาร์โคนีวิทยุประจำ , 5700 ไมล์ ( 9200 km ) อยู่ในกรุงโรม แต่เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย พวกเขาเคยเปิดบนเว็บไซต์ [ 8 ]มุมมองของอนุสาวรีย์ในตอนกลางคืนในเดือนตุลาคมปี 2006 ใน 75 ปีของรูปปั้นของสมบูรณ์ หัวหน้าของบิชอพริโอ คาร์เชดเอเซียโบหรอกนะคะ ออสการ์ , โบสถ์ถวาย ตั้งชื่อตามนักบุญอุปถัมภ์ของบราซิล เลดี้ของเราของวิญญาณ ใต้รูปปั้น นี้จะช่วยให้คาทอลิกถือ baptisms [ 6 ] และแต่งงานที่นั่นรูปปั้นถูกฟ้าผ่าในช่วงฝนฟ้าคะนองรุนแรงเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2008 และได้รับความเสียหายบางส่วน นิ้ว หัวและคิ้ว . การฟื้นฟูความพยายามที่ถูกวางในสถานที่โดย Rio de Janeiro รัฐเพื่อแทนที่บางส่วนของด้านนอกหินสบู่ชั้นและซ่อมแซมฟ้าผ่าแท่งติดตั้งบนรูปปั้น มันได้รับความเสียหายจากฟ้าผ่าอีกครั้ง ในวันที่ 17 มกราคม 2014 ที่นิ้วมือขวา ย้าย [ 13 ] [ 14 ] [ 15 ] [ 16 ]ใน 2010 , การบูรณะรูปปั้นขนาดใหญ่ของมารดา รูปปั้นถูกล้างครกและหินสบู่ที่ครอบคลุมรูปปั้นถูกแทนที่ โครงสร้างภายในของเหล็กที่ถูกเรียกคืนและอนุสาวรีย์ถูกสร้างกันน้ำ รูปปั้นถูกทำลายในช่วงปี ๒๕๓๐ ซึ่งสีถูกพ่นไปตามแขน นายกเทศมนตรี Eduardo Paes ที่เรียกว่าการกระทำ " อาชญากรรมต่อประเทศชาติ " ผู้กระทำผิดขอโทษในภายหลัง และนำเสนอตัวเองให้ตำรวจ