The econometric model reveals that

The econometric model reveals that an increase in temperatures and a poor spread of rainfall throughout the growing season have a damaging impact on the mean of crop yields; and simultaneously, an increase in precipitation (or a reduction in the severity of drought) is beneficial to crop yields. Furthermore, I find significant evidence to conclude that precipitation and temperature are risk-increasing in maize production. In contrast, precipitation is risk-increasing and temperature is risk-decreasing in millet and sorghum production, respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบ econometric พบว่า แพร่กระจายจนน้ำฝนในฤดูกาลเจริญเติบโตและการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิมีผลกระทบความเสียหายในค่าเฉลี่ยของผลผลิตพืช และพร้อมกัน การเพิ่มขึ้นของฝน (หรือลดความรุนแรงของภัยแล้ง) เป็นประโยชน์ต่อพืชอัตราผลตอบแทน นอกจากนี้ พบหลักฐานสำคัญเพื่อสรุปฝนและอุณหภูมิเพิ่มความเสี่ยงในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในทางตรงกันข้าม ฝนมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และอุณหภูมิจะลดความเสี่ยงในการผลิตข้าวฟ่างและฟ่าง ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เศรษฐรูปแบบที่แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิและการแพร่กระจายที่ดีของปริมาณน้ำฝนตลอดฤดูปลูกมีผลกระทบเสียหายต่อเฉลี่ยของผลผลิตพืชนั้น และในขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำฝน (หรือลดลงในความรุนแรงของภัยแล้ง) ที่เป็นประโยชน์ต่อผลผลิตพืช นอกจากนี้ฉันพบหลักฐานสำคัญในการสรุปได้ว่าปริมาณน้ำฝนและอุณหภูมิที่มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นในการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในทางตรงกันข้ามการตกตะกอนคือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นและอุณหภูมิที่มีความเสี่ยงลดลงและการผลิตลูกเดือยข้าวฟ่างตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แบบจำลองเศรษฐมิติ พบว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิและปริมาณฝนกระจายยากจนตลอดฤดูปลูกมีความเสียหายต่อค่าเฉลี่ยของผลผลิตพืช และพร้อมกัน การเพิ่มการตกตะกอน ( หรือลดความรุนแรงของภัยแล้ง ) เป็นประโยชน์ต่อผลผลิตพืช นอกจากนี้ฉันพบหลักฐานสำคัญที่จะสรุปได้ว่า ปริมาณน้ำฝนและอุณหภูมิมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการผลิตข้าวโพด ในทางตรงกันข้าม การตกตะกอน คือ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และอุณหภูมิจะลดลง และความเสี่ยงข้าวฟ่างข้าวฟ่างการผลิตตามลำดับ