In Jan 2008, at the beginning of th

In Jan 2008, at the beginning of the 2nd semester of the academic year
2007/2008, a diagnostic test was administered to the students to rank them
into low, intermediate and high achievers. The classification criteria were
reinforced by the school’s records about the achievement of the students
in the previous years. Then, throughout the 2nd semester from Jan-June
2008, collaborative learning using homogeneous and heterogeneous
groups was extensively implemented. To measure their achievement in
science by the end of the academic year, the students had taken a
standardized national test organized by the SEC in addition to the regular
school test.
Before the start of the study we explained the rules of collaborative
learning for the students that they must follow (Kenny et al., 1995):
1- Each group is responsible for working as a cooperative team.
2- Each team member is to give suggestions and help in completing the
team assignments.
3- Each team member will seek help from other group members.
4- Each team member will help each other learn.
5- Each team will complete worksheets together.
6- Each team member will take the quiz. You will take the quiz by
yourself, but you can help each other by helping others on your team
learn.
7- If a team member has a question, he should ask the group before
asking teachers. This is to make sure that everyone on the team has
tried to solve a problem.
The above rules were made clear to the students and they agreed on
following them. These rules were adopted from the research monograph1
95116. The CL strategy was applied using the Student Teams –
Achievement Divisions (STAD) established by Slavin (1987). However, this
strategy was modified where necessary to include a homogeneous group
of students and to ensure that none of the group members is ignored.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 2551 มกราคม การเริ่มต้นของภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2007/2008 การทดสอบวินิจฉัยถูกจัดการให้นักเรียนเรียงลำดับตามเป็น achievers ต่ำ ปานกลาง และสูง เงื่อนไขการจัดประเภทได้เสริม ด้วยระเบียนของโรงเรียนเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนในปีที่ผ่านมา จากนั้น ตลอดทั้งภาคเรียนที่ 2 เดือนมกราคมมิถุนายน2008 ร่วมกันเรียนรู้โดยใช้เหมือน และแตกต่างกันกลุ่มถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง การวัดความสำเร็จของพวกเขาในวิทยาศาสตร์ โดยปีการศึกษา นักเรียนได้ดำเนินการมาตรฐานทดสอบแห่งชาติจัด โดย SEC นอกประจำการการทดสอบโรงเรียนก่อนเริ่มการศึกษา ที่เราอธิบายกฎของร่วมกันเรียนสำหรับนักเรียนที่จะต้องปฏิบัติตาม (เคนนีและ al., 1995):1 - แต่ละกลุ่มรับผิดชอบการทำงานเป็นทีมแบบมีส่วนร่วม2 - สมาชิกแต่ละทีมจะให้คำแนะนำ และช่วยดำเนินการทีมงานกำหนดไว้3 - สมาชิกแต่ละทีมจะขอความช่วยเหลือจากสมาชิกคนอื่น ๆ4 - สมาชิกแต่ละทีมจะช่วยให้เรียนรู้แต่ละอื่น ๆ5 - แต่ละทีมจะทำแผ่นกัน6 - สมาชิกแต่ละทีมจะใช้แบบทดสอบ แบบทดสอบโดยใช้ตัวเอง แต่คุณสามารถช่วยกัน โดยช่วยเหลือผู้อื่นในทีมของคุณเรียนรู้7 - ถ้าสมาชิกในทีมมีคำถาม เขาควรถามกลุ่มก่อนขอให้ครู ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่า ทุกคนในทีมได้พยายามแก้ปัญหากฎข้างต้นขึ้นชัดเจนนักศึกษา และพวกเขาตกลงต่อไป กฎเหล่านี้ถูกนำจาก monograph1 วิจัย95116 ใช้กลยุทธ์. CL ใช้ทีมนักเรียน-ความสำเร็จส่วน (สแตด) ก่อตั้งขึ้น โดย Slavin (1987) อย่างไรก็ตาม นี้ กลยุทธ์ล่าสุดจำเป็นในการรวมกลุ่มเป็นเนื้อเดียวกันของนักเรียน และ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสมาชิกถูกละเว้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงเดือนมกราคมปี 2008 ที่จุดเริ่มต้นของภาคการศึกษาที่ 2 ของปีการศึกษา
2007/2008 ทดสอบวินิจฉัยเป็นยาให้กับนักเรียนในการจัดอันดับของพวกเขา
เป็นที่ต่ำกลางและประสบความสำเร็จอย่างสูง เกณฑ์การจำแนกประเภทได้รับการ
เสริมด้วยการบันทึกของโรงเรียนเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ในปีก่อนหน้า จากนั้นตลอดภาคการศึกษาที่ 2 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน
2008 เรียนรู้ร่วมกันโดยใช้เหมือนกันและต่างกัน
กลุ่มถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวาง การวัดความสำเร็จของพวกเขาใน
ทางวิทยาศาสตร์ในตอนท้ายของปีการศึกษานักเรียนได้รับ
การทดสอบมาตรฐานแห่งชาติจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่นอกเหนือไปจากปกติ
ทดสอบโรงเรียน.
ก่อนที่จะเริ่มการศึกษาที่เราได้อธิบายกฎระเบียบของการทำงานร่วมกัน
เรียนรู้สำหรับนักเรียน ว่าพวกเขาจะต้องปฏิบัติตาม (เคนนีและคณะ, 1995.)
1- แต่ละกลุ่มจะเป็นผู้รับผิดชอบในการทำงานเป็นทีมความร่วมมือ.
2 สมาชิกในทีมแต่ละคนคือการให้คำแนะนำและช่วยในการกรอก
มอบหมายทีม.
3- สมาชิกในทีมแต่ละคนจะแสวงหา ความช่วยเหลือจากสมาชิกในกลุ่มอื่น ๆ .
4- สมาชิกในทีมแต่ละคนจะช่วยกันเรียนรู้.
5- แต่ละทีมจะเสร็จสมบูรณ์แผ่นกัน.
6- สมาชิกในทีมแต่ละคนจะใช้แบบทดสอบ คุณจะใช้แบบทดสอบโดย
ตัวเอง แต่คุณสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยการช่วยให้คนอื่น ๆ ในทีมของคุณ
เรียนรู้.
7- หากสมาชิกในทีมมีคำถามที่เขาควรจะขอให้กลุ่มก่อนที่จะ
ขอให้ครู นี่คือเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนในทีมได้
พยายามที่จะแก้ปัญหา.
กฎข้างต้นทำให้เห็นได้ชัดให้กับนักเรียนและพวกเขาเห็นด้วยกับ
พวกเขาต่อไป กฎเหล่านี้ถูกนำมาใช้จากการวิจัย monograph1
95116 กลยุทธ์ CL ถูกนำไปใช้โดยใช้ทีมนักศึกษา -
ฝ่ายความสำเร็จ (เมือง) ที่จัดตั้งขึ้นโดย Slavin (1987) แต่นี้
มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในกรณีที่จำเป็นที่จะรวมกลุ่มเป็นเนื้อเดียวกัน
ของนักศึกษาและเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีของสมาชิกในกลุ่มที่จะถูกละเว้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มกราคม 2008 , ที่จุดเริ่มต้นของภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2550 /
) , การทดสอบการวินิจฉัยที่ผู้เรียนระดับ
เป็นต่ำ ปานกลาง และนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง เกณฑ์การจำแนกเป็น
เสริมด้วยโรงเรียนประวัติเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ในปีก่อนหน้า จากนั้นตลอดภาคเรียนที่ 2 จากมกราคมมิถุนายน
2008การเรียนรู้ร่วมกัน และใช้เป็นข้อมูล
กลุ่มเป็นอย่างกว้างขวางใช้ การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใน
วิทยาศาสตร์โดยการสิ้นสุดของปีการศึกษา นักเรียนได้ใช้แบบทดสอบมาตรฐานระดับชาติ
จัดโดย ก.ล.ต. นอกจากสอบโรงเรียนปกติ
.
ก่อนที่จะเริ่มต้นของการศึกษาที่เราอธิบายกฎของ
)การเรียนรู้สำหรับนักเรียนที่จะต้องปฏิบัติตาม ( เคนนี et al . , 1995 ) :
1 - แต่ละกลุ่มรับผิดชอบในการทำงานเป็นทีมแบบมีส่วนร่วม .
2 - สมาชิกแต่ละทีมจะให้คำแนะนำและความช่วยเหลือในการกรอก

3 ทีมที่ได้รับมอบหมาย สมาชิกแต่ละทีมจะขอความช่วยเหลือจากสมาชิกกลุ่มอื่น ๆ
4 - สมาชิกแต่ละทีมจะช่วยให้แต่ละอื่น ๆเรียนรู้ .
5 - แต่ละทีมจะสมบูรณ์
แผ่นด้วยกัน6 - สมาชิกแต่ละทีมจะใช้ทดสอบ คุณจะใช้แบบทดสอบโดย
ด้วยตัวคุณเอง แต่คุณสามารถช่วยให้แต่ละอื่น ๆโดยการช่วยผู้อื่นในทีมงานของคุณเรียนรู้
.
7 - ถ้าสมาชิกทีม มีคำถามที่เขาควรจะถามในกลุ่มก่อน
ถามครู นี่คือเพื่อให้แน่ใจว่า ทุกคนในทีมได้

พยายามที่จะแก้ปัญหา กฎข้างต้นได้ชัดเจนให้กับนักเรียนและพวกเขาตกลง
ต่อไปนี้พวกเขากฎเหล่านี้ถูกนำมาจาก monograph1 วิจัย
95116 . กลยุทธ์การใช้ CL แบ่งกลุ่มผลสัมฤทธิ์ ( STAD )
) ก่อตั้งขึ้นโดยกองสลาวิน ( 1987 ) อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์นี้
ดัดแปลงจำเป็นที่จะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน กลุ่ม
ของนักเรียนและเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีสมาชิกกลุ่มจะถูกละเว้น