The questions, “What’s your greates

The questions, “What’s your greatest weakness?” or “What do you know you need to work on?” trip a lot of people up, because who wants to talk about the less impressive parts of your skill set or personality?

But here’s the thing: It can be really tough, but it’s important not to lie or to gloss over your weaknesses. Ultimately, most employers want to hire someone who’s reflective about their skill sets and knows what they’re not as good and need to work on.

So here’s one way that I think about answering this question. First, think about something that isn’t your strong suit, whether it’s delegating to others or attention to detail, but think about it back in the past. Show how you’ve taken steps to overcome it, or worked hard on getting better, and mention that you’re still working and working at becoming even better at this skill set.

So for example, if someone said, “What’s your biggest weakness?” you could answer:

“Well, I used to be pretty horrible at public speaking. When I started college, it was a massive problem, and I was just terrified of doing it, and I didn’t do a very good job. So first I took the small step of promising myself that I would speak up in front of really small groups, for example in class. Then, I worked up to taking a public speaking class, which made a big difference. Now, even though I get nervous, I feel like its something that doesn’t completely hold me back, and, in fact, recently I gave a speech at a conference to over 100 people. My hands were shaking the whole time, but I got really good feedback at the end.”

See, that wasn’t so bad. Now just make sure you don’t say something like, “I’m too perfect,” or “I struggle with perfectionism,” because nobody really believes that is your biggest weakness.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำถาม การอะไร คือจุดอ่อนของคุณมากที่สุด " หรือ"คุณ รู้อะไรคุณต้องทำงาน "ใช้บริการมากขึ้น เพราะอยากพูดคุยเกี่ยวกับส่วนประทับชุดทักษะหรือบุคลิกภาพของคุณแต่นี่คือสิ่ง: สามารถยากจริง ๆ แต่ก็สำคัญไม่โกหก หรือเกลื่อนจุดอ่อนของคุณ สุด ส่วนใหญ่นายจ้างต้องการจ้างคนที่จะทำให้เกี่ยวกับตน และรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาไม่ดี และต้องการทำงานดังนั้น ที่นี่เป็นวิธีหนึ่งที่คิดเกี่ยวกับการตอบคำถามนี้ แรก คิดเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่เหมาะกับของแข็ง ว่าจะเป็นการมอบหมายให้ผู้อื่น หรือความใส่ใจในรายละเอียด แต่คิดว่า มันย้อนกลับไปในอดีต แสดงว่าคุณได้ดำเนินการขั้นตอนที่จะเอาชนะได้ หรือทำงานหนักในการ และพูดว่า คุณจะยังคงทำงาน และกลายเป็นยิ่งขึ้นที่นี้ทักษะการทำงานดังนั้นตัวอย่าง ถ้ามีคนกล่าวว่า อะไรคือจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของคุณ "คุณอาจตอบ:"ดี เคยเป็นพริตตี้ที่น่ากลัวที่พูดในที่สาธารณะ เมื่อฉันเริ่มต้นวิทยาลัย มันเป็นปัญหาใหญ่ ผมเพียงคนกลัวการทำเช่นนั้น และฉันไม่ได้ทำงานที่ดี ดังนั้นก่อน ผมเอาขั้นตอนเล็ก ๆ ของสัญญาตัวเองว่า ฉันจะพูดขึ้นหน้ากลุ่มเล็ก ตัวอย่างในคลาส แล้ว ฉันทำงานขึ้นไปเรียนการพูดในที่สาธารณะ ซึ่งทำให้เกิดความแตกต่าง ขณะนี้ แม้ว่าฉันได้รับประสาท ฉันรู้สึกเหมือนสิ่งที่ไม่สมบูรณ์ฉันกลับ และ ในความเป็นจริง เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันให้คำพูดที่ประชุมกว่า 100 คน มือของฉันกำลังสั่นตลอดเวลา แต่ได้ผลตอบรับที่ดีในตอนท้าย"ดู ที่ไม่เลว ตอนนี้ เพิ่งได้คุณไม่พูดบางสิ่งบางอย่างเช่น "ฉันสมบูรณ์แบบเกินไป" หรือ "ฉันต่อสู้กับหยุ่น เนื่องจากไม่มีใครจริง ๆ เชื่อว่าเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คำถาม "อะไรคือความอ่อนแอที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ?" หรือ "อะไรที่คุณรู้ว่าคุณต้องทำงานใน" การเดินทางคนจำนวนมากขึ้นเพราะผู้ที่ต้องการที่จะพูดคุยเกี่ยวกับชิ้นส่วนที่น่าประทับใจน้อยกว่าความสามารถของคุณตั้งค่าหรือบุคลิกภาพแต่ที่นี่ สิ่งที่มันได้ยากจริงๆ แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่โกหกหรือปัดสวะจุดอ่อนของคุณ ในท้ายที่สุดนายจ้างส่วนใหญ่ต้องการที่จะจ้างคนที่สะท้อนเกี่ยวกับทักษะของพวกเขาและรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีและต้องทำงานใน. ดังนั้นนี่คือวิธีหนึ่งที่ฉันคิดเกี่ยวกับการตอบคำถามนี้ ครั้งแรกคิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้เป็นชุดที่แข็งแกร่งของคุณไม่ว่าจะมอบหมายให้ผู้อื่นหรือใส่ใจในรายละเอียด แต่คิดเกี่ยวกับมันย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าคุณได้ดำเนินการขั้นตอนที่จะเอาชนะมันหรือทำงานอย่างหนักในการที่ดีขึ้นและพูดถึงว่าคุณยังคงทำงานและการทำงานที่ดียิ่งขึ้นกลายเป็นที่ตั้งสกิลนี้. ดังนั้นตัวอย่างเช่นถ้ามีคนกล่าวว่า "มีอะไรจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของคุณ "คุณสามารถตอบ: "ดีฉันเคยเป็นสวยที่น่ากลัวที่พูดในที่สาธารณะ เมื่อผมเริ่มวิทยาลัยมันเป็นปัญหาใหญ่และผมกลัวเพียงแค่ทำมันและฉันไม่ได้ทำผลงานที่ดีมาก ดังนั้นก่อนผมเอาขั้นตอนเล็ก ๆ ที่มีแนวโน้มของตัวเองว่าผมจะพูดถึงในหน้าของกลุ่มเล็ก ๆ จริงๆเช่นในชั้นเรียน จากนั้นผมทำงานขึ้นอยู่กับการเรียนพูดในที่สาธารณะซึ่งทำให้ความแตกต่างใหญ่ ตอนนี้ถึงแม้ว่าฉันได้รับประสาทฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ไม่สมบูรณ์ถือฉันกลับมาและในความเป็นจริงเร็ว ๆ นี้ผมให้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมกว่า 100 คน มือของฉันถูกสั่นตลอดเวลา แต่ฉันได้การตอบรับที่ดีมากในตอนท้าย. " ดูที่ไม่ได้เลวร้าย ตอนนี้เพียงแค่ให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้พูดอะไรบางอย่างเช่น "ฉันที่สมบูรณ์แบบเกินไป" หรือ "ฉันต่อสู้กับอุดมคติ" เพราะไม่มีใครเชื่อว่าเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คำถาม " อะไรคือจุดอ่อนที่สุดของคุณ ? " หรือ " คุณรู้อะไรที่คุณต้องทำ ? " ทริปคนเยอะขึ้น เพราะผู้ที่อยากพูดคุยเกี่ยวกับชิ้นส่วนที่น่าประทับใจน้อยกว่าทักษะของคุณการตั้งค่าหรือบุคลิก ?

แต่ว่ามันได้ยากจริงๆ แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่โกหกหรือบิดเบือน จุดอ่อนของคุณ ในที่สุดนายจ้างส่วนใหญ่ต้องการจ้างคนที่ไตร่ตรองเกี่ยวกับชุดทักษะของพวกเขาและรู้ว่าพวกเขาไม่ได้ดี และต้องทำงาน

ดังนั้นนี่เป็นวิธีหนึ่งที่ผมคิดเกี่ยวกับการตอบคำถามนี้ แรกคิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เหมาะกับที่แข็งแกร่งของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการมอบหมายให้ผู้อื่น หรือใส่ใจในรายละเอียด แต่คิดว่าเกี่ยวกับมันกลับไปในอดีต แสดงวิธีการที่คุณได้ถ่ายขั้นตอนที่จะเอาชนะมันหรือทำงานดีขึ้น และพูดถึงว่าคุณยังคงทำงานเป็นดีกว่าที่ทักษะชุดนี้

ดังนั้น ตัวอย่างเช่น ถ้ามีบางคนพูดว่า " อะไรคือจุดอ่อนของคุณ ? " คุณไม่สามารถตอบ :

" ผมเคยเป็นค่อนข้างน่ากลัวที่พูดในที่สาธารณะ ตอนที่ผมเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย มันเป็นปัญหาใหญ่ และฉันก็กลัวทำมัน และผมก็ไม่ได้ทำงานที่ดีมากตอนแรกผมเอาขั้นตอนเล็ก ๆของสัญญากับตัวเองว่า ฉันต้องพูดต่อหน้ากลุ่มเล็กจริงๆ ตัวอย่างเช่น ในชั้นเรียน งั้น ผมทำงานถึงการพูดในที่สาธารณะ ชั้น ซึ่งทำให้ความแตกต่างใหญ่ ตอนนี้แม้ว่าฉันเครียด ฉันก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่ไม่สมบูรณ์รั้งฉันไว้ และในความเป็นจริง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมเคยพูดในที่ประชุม กว่า 100 คนมือผมสั่นตลอดเวลา แต่ฉันได้ข้อเสนอแนะที่ดีจริงๆที่สิ้นสุด . "

ดู มันก็ไม่ได้แย่นัก ตอนนี้เพียงให้แน่ใจว่าคุณไม่พูดสิ่งที่ชอบ " ผมที่สมบูรณ์แบบเกินไป " หรือ " ผมต่อสู้กับลัทธิพอใจ แต่สิ่งดีเลิศ " เพราะไม่มีใครจริงๆเชื่อว่าเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของคุณ .