Salt occurs beneath the surface in

Salt occurs beneath the surface in areas that were once below sea level in restricted basins where extensive evaporation caused the concentration of salt in seawater to become so high that the salt was precipitated on the bottom. This occurred, for example during the Jurassic Period (about 150 million years ago) in the area of the Gulf of Mexico. Later deposition of other sediments on top of this salt, resulted in low density salt underlying higher density sediments. Since salt is rather ductile, it began to flow upward toward the surface, and in many cases became detached from the original layer of salt at depth to form what is called a salt dome. Since the salt now occurs close to the surface, it can dissolve and collapse to form sinkholes.
The salt can also be mined to produce salt for human usage. One mining technique involves injecting fluids into the salt to dissolve it. The fluids are then recovered and the salt re-precipitated from the solutions. Such mining, because it dissolves large cavities in the salt can lead to instability and collapse. Such solution mining resulted in a sinkhole 300 m in diameter in Hutchinson Kansas.

Another salt mine related collapse occurred as the result of oil exploration near a salt dome at Jefferson Island in southwestern Louisiana. Jefferson Island is not an island in the strict sense, but is an area of high topography that formed as the result of salt moving upward through the sediments and uplifting the surface. The salt dome contained active salt mines, where mining was accomplished by digging tunnels in the salt. An oil company attempted to drill a well from a lake adjacent to Jefferson Island, hoping to skirt the edge of the salt dome and find oil. Instead, the oil well penetrated the salt and entered one of the mining tunnels. This caused the lake to drain into the salt mine, which then caused some of the salt to dissolve. Eventually this undermined support above the mines and led to collapse of the surface. The lake drained into the salt mine, ten barges used for oil drilling were sucked into the hole, and a home and entire botanical garden collapsed into the depression. Fortunately no miners or other inhabitants of the area were killed. (See video at - http://www.youtube.com/watch?v=ddlrGkeOzsI)
Coal Mining

Since mining often removes material from below the surface without dissolution, mining can create voids that may become unstable and collapse.

Coal occurs beneath the surface as extensive layers called coal seams. These seams were once swampy areas on the surface where much vegetation flourished, died, and became buried before it could decay. Processes acting over long periods of geologic time have turned dead vegetation into coal. Other useful substances are mined by digging tunnels in rock, but in most mining techniques the useful substance occurs along narrow zones only these enriched zones need to be removed. In mining coal, however, all of the material is useful, so large masses of material are removed. The technique used in coal mining is referred to as "room-and-pillar" mining. The rooms are where the coal has been removed, and the pillars are left to support the overlying rock. Sometimes, too few pillars are left, and the overlying rock collapses into the mine. This is not only dangerous to the miners, but can also cause hazards to areas on the surface where the collapse occurs

Underground fires in coal mines can also lead to collapse hazards. Fires can start by spontaneous ignition of coal dust or methane gas released from the coal. Such fires are difficult to extinguish, and often are left to burn for years. In Pennsylvania, for example, coal mine fires have burned for more than 25 years. Burning of the coal results in removal of the coal, and thus may undermine support for the roof of the mine resulting in collapse.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกลือเกิดขึ้นใต้ผิวน้ำในพื้นที่ที่เคยต่ำกว่าระดับน้ำทะเลในอ่างล่างหน้าจำกัดซึ่งระเหยมากมายเกิดจากความเข้มข้นของเกลือในน้ำทะเลจะเป็นสูงว่า เกลือตกตะกอนด้านล่าง นี้เกิดขึ้น เช่นช่วงจูราสสิ (ประมาณ 150 ล้านปี) ในพื้นที่ของอ่าวเม็กซิโก ผลในภายหลังสะสมของตะกอนอื่น ๆ บนนี้เกลือ เกลือต่ำความหนาแน่นสูงความหนาแน่นตะกอนต้น ตั้งแต่เกลือ ค่อนข้าง ductile มันเริ่มไหลขึ้นไปยังพื้นผิว และในหลายกรณีกลายเป็นหลุดจากชั้นเกลือที่ลึกเพื่อสิ่งดั้งเดิมเรียกว่าโดมเกลือนั้น เนื่องจากเกลือเกิดใกล้กับผิวตอนนี้ มันจะยุบ และยุบไปแบบฟอร์ม sinkholes สามารถยังมีขุดเกลือผลิตเกลือใช้มนุษย์ เทคนิคการทำเหมืองแร่หนึ่งเกี่ยวข้องกับ injecting ของเหลวลงในเกลือจะละลายได้ ของเหลวจะกู้แล้ว และเกลือตกตะกอนจากโซลูชั่นใหม่ เช่นเหมืองแร่ เพราะมันละลายผุใหญ่ในเกลือสามารถนำไปสู่ความไม่มีเสถียรภาพ และยุบ เหมืองแร่โซลูชันดังกล่าวส่งผลให้ในหลุมยุบมีเส้นผ่าศูนย์กลางในแคนซัส Hutchinson 300 mเหมืองที่เกี่ยวข้องกับเกลืออีกยุบเกิดขึ้นเป็นผลสำรวจน้ำมันใกล้โดมเกลือที่เกาะ Jefferson ในหลุยเซียน่าที่ตะวันตกเฉียงใต้ Jefferson เกาะไม่เกาะในความเข้มงวด แต่พื้นที่ภูมิประเทศสูงที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการเคลื่อนย้ายขึ้นผ่านตะกอนเกลือ และผิวด้าน โดมเกลืออยู่งานเหมืองเกลือ ที่ทำเหมืองได้สำเร็จ โดยขุดอุโมงค์ในเกลือ บริษัทน้ำมันที่พยายามซ้อมดีจากทะเลสาบติดเกาะ Jefferson หวัง skirt ของโดมเกลือ และการค้นหาน้ำมัน แทน บ่อน้ำมันทะลวงเกลือ และป้อนหนึ่งของอุโมงค์เหมืองแร่ นี้ทำให้เกิดทะเลสาบระบายลงในเกลือเหมือง ที่เกิดของเกลือให้ละลาย ในที่สุดนี้ละเลยสนับสนุนเหนือเหมืองแร่ และนำไปสู่การล่มสลายของผิว ทะเลสาบที่ระบายออกเป็นเกลือเหมือง สิบกองที่ใช้สำหรับการขุดเจาะน้ำมันถูกดูดลงหลุม และสวนพฤกษศาสตร์บ้าน และทั้งยุบเป็นภาวะซึมเศร้า โชคดีไม่ได้หรือคนอื่น ๆ ของพื้นที่ถูกฆ่าตาย (ดูวิดีโอที่ - http://www.youtube.com/watch?v=ddlrGkeOzsI)การทำเหมืองถ่านหินเหมืองแร่การทำเหมืองแร่มักจะเอาวัสดุ from below ผิวยุบ และสามารถสร้าง voids ที่อาจเสถียร และยุบถ่านหินเกิดขึ้นใต้ผิวน้ำเป็นชั้นที่เรียกว่าตะเข็บถ่านหินอย่างละเอียด ครั้งตะเข็บเหล่านี้ได้กลายเป็นหนองบนผิวที่มากเจริญรุ่งเรือง เสียชีวิต และกลายเป็นฝังก่อนที่จะไม่เสื่อมสลาย กระบวนการทำหน้าที่ผ่านธรณีกาลเวลายาวนานได้เปิดพืชตายเป็นถ่านหิน สารที่มีประโยชน์อื่น ๆ ที่ขุด โดยขุดอุโมงค์ในหิน แต่ในเทคนิคการทำเหมืองส่วนใหญ่ สารประโยชน์ที่เกิดขึ้นตามโซนที่แคบเฉพาะโซนนี้ค่อนต้องถูกเอาออก ในเหมืองแร่ถ่านหิน อย่างไรก็ตาม วัสดุทั้งหมดได้ประโยชน์ เพื่อมวลชนขนาดใหญ่วัสดุจะถูกเอาออก เทคนิคที่ใช้ในการทำเหมืองถ่านหินเรียกว่า "ห้อง และเสา" เหมือง ห้องที่ถ่านหินที่ถูกลบออก และหลักคือด้านการสนับสนุนหินเหล่านั้น บางครั้ง หลักน้อยเกินไปด้านซ้าย และหินอยู่เหนือกว่ายุบเข้าไปในเหมือง นี้เท่านั้นไม่มีอันตรายต่อผู้ปฏิบัติ แต่ทำให้เกิดอันตรายต่อพื้นที่บนพื้นผิวที่เกิดการพังทลาย ยังสามารถนำไฟในเหมืองถ่านหินใต้ดินทรุดอันตราย ไฟสามารถเริ่มต้น ด้วยการจุดระเบิดของก๊าซถ่านหินฝุ่นหรือมีเทนออกจากถ่านหินอยู่ ไฟไหม้ดังกล่าวยากต่อการดับ และมักจะเหลือให้เขียนปี ในรัฐเพนซิลวาเนีย เช่น ไฟไหม้เหมืองถ่านหินมีเขียนกว่า 25 ปี เผาไหม้ของถ่านหินส่งผลลบของถ่านหิน กจึง อาจบั่นทอนการสนับสนุนสำหรับหลังคาของเหมืองในยุบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกลือที่เกิดขึ้นใต้พื้นผิวในพื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลในอ่าง จำกัด ที่เกิดจากการระเหยที่กว้างขวางความเข้มข้นของเกลือในน้ำทะเลที่จะกลายเป็นที่สูงเพื่อให้ได้รับเกลือตกตะกอนอยู่ด้านล่าง เรื่องนี้เกิดขึ้นตัวอย่างเช่นในช่วงระยะเวลาจูราสสิ (ประมาณ 150 ล้านปีก่อน) ในพื้นที่ของอ่าวเม็กซิโก ต่อมาทับถมของตะกอนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านบนของเกลือนี้ส่งผลให้ความหนาแน่นต่ำเกลือพื้นฐานตะกอนหนาแน่นสูง ตั้งแต่เกลือค่อนข้างเหนียวก็เริ่มที่จะไหลขึ้นไปยังพื้นผิวและในหลาย ๆ กรณีก็กลายเป็นที่ถอดออกจากชั้นเดิมของเกลือที่ระดับความลึกที่จะสร้างสิ่งที่เรียกว่าโดมเกลือ ตั้งแต่เกลือในขณะนี้เกิดขึ้นใกล้กับพื้นผิวที่มันสามารถละลายและยุบในรูปแบบ sinkholes.
เกลือยังสามารถขุดได้ในการผลิตเกลือสำหรับการใช้งานของมนุษย์ เทคนิคการทำเหมืองแร่หนึ่งเกี่ยวข้องกับการฉีดของเหลวลงในเกลือจะละลาย ของเหลวจะถูกกู้คืนและเกลืออีกครั้งตกตะกอนจากการแก้ปัญหา การทำเหมืองแร่ดังกล่าวเพราะมันละลายโพรงขนาดใหญ่ในเกลือสามารถนำไปสู่ความไม่แน่นอนและการล่มสลาย การทำเหมืองแร่การแก้ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้มี้ 300 เมตรเส้นผ่าศูนย์กลางในฮัทชินสันแคนซัส. เหมืองเกลืออีกล่มสลายที่เกี่ยวข้องที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการสำรวจน้ำมันที่อยู่ใกล้โดมเกลือที่เจฟเฟอร์สันเกาะทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐลุยเซียนา เจฟเฟอร์สันเกาะไม่ได้เป็นเกาะในความเข้มงวด แต่เป็นพื้นที่ของภูมิประเทศที่สูงที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากเกลือย้ายขึ้นผ่านตะกอนและยกระดับพื้นผิว โดมเกลือที่มีเหมืองเกลือที่ใช้งานอยู่ที่การทำเหมืองแร่ก็ประสบความสำเร็จด้วยการขุดอุโมงค์ในเกลือ บริษัท น้ำมันพยายามที่จะเจาะอย่างดีจากทะเลสาบที่อยู่ติดกับเกาะเจฟเฟอร์สันหวังที่จะกระโปรงขอบของโดมเกลือและหาน้ำมัน แต่ดีน้ำมันทะลุเกลือและเข้าไปในอุโมงค์แห่งหนึ่งการทำเหมืองแร่ เรื่องนี้ทำให้เกิดทะเลสาบเพื่อระบายน้ำเข้าไปในเหมืองเกลือซึ่งเกิดจากบางส่วนของเกลือจะละลาย ในที่สุดนี้ทำลายการสนับสนุนดังกล่าวข้างต้นการทำเหมืองแร่และนำไปสู่การล่มสลายของพื้นผิว ทะเลสาบระบายน้ำเข้าไปในเหมืองเกลือสิบเรือที่ใช้ในการขุดเจาะน้ำมันที่ถูกดูดเข้าไปในหลุมและบ้านและสวนพฤกษศาสตร์ทั้งทรุดตัวลงเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า โชคดีที่คนงานเหมืองแร่หรืออื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ถูกฆ่าตาย (ดูวิดีโอได้ที่ - http://www.youtube.com/watch?v=ddlrGkeOzsI) การทำเหมืองแร่ถ่านหินตั้งแต่การทำเหมืองแร่ที่มักจะเอาวัสดุจากด้านล่างพื้นผิวโดยไม่ต้องสลายตัว, การทำเหมืองแร่สามารถสร้างช่องว่างที่อาจจะไม่เสถียรและการล่มสลาย. ถ่านหินเกิดขึ้นภายใต้ พื้นผิวเป็นชั้นที่กว้างขวางเรียกว่าชั้นถ่านหิน ตะเข็บเหล่านี้เป็นพื้นที่แอ่งน้ำครั้งเดียวบนพื้นผิวที่พืชเจริญรุ่งเรืองมากเสียชีวิตและกลายเป็นที่ฝังอยู่ก่อนที่มันจะสลายตัว กระบวนการที่ทำหน้าที่ในช่วงเวลาที่ยาวนานของเวลาทางธรณีวิทยาได้หันพืชตายลงในถ่านหิน สารที่มีประโยชน์อื่น ๆ มีศีลธรรมด้วยการขุดอุโมงค์ในหิน แต่ในที่สุดเทคนิคการทำเหมืองแร่สารที่มีประโยชน์ที่เกิดขึ้นพร้อมโซนแคบเพียงเหล่านี้อุดมโซนต้องถูกลบออก ในการทำเหมืองแร่ถ่านหิน แต่ทั้งหมดของวัสดุที่เป็นประโยชน์เพื่อให้มวลชนขนาดใหญ่ของวัสดุที่จะถูกลบออก เทคนิคที่ใช้ในการทำเหมืองถ่านหินจะเรียกว่า "ห้องและเสาหลัก" การทำเหมืองแร่ ห้องพักที่ถ่านหินได้ถูกลบออกและเสาที่เหลือที่จะสนับสนุนการวางหิน บางครั้งเสาน้อยเกินไปเหลืออยู่และร็อคพังทลายลงมาวางลงไปในเหมือง นี้ไม่เพียง แต่เป็นอันตรายต่อคนงาน แต่ยังสามารถก่อให้เกิดอันตรายกับพื้นที่บนพื้นผิวที่ล่มสลายเกิดไฟไหม้รถไฟใต้ดินในเหมืองถ่านหินนอกจากนี้ยังสามารถนำไปสู่การยุบอันตราย ไฟไหม้สามารถเริ่มต้นโดยการเผาไหม้ที่เกิดขึ้นเองของฝุ่นถ่านหินหรือก๊าซมีเทนปล่อยออกมาจากถ่านหิน เกิดเพลิงไหม้ดังกล่าวเป็นเรื่องยากที่จะดับและมักจะถูกทิ้งให้เผาเป็นเวลาหลายปี ในเพนซิลเช่นไฟไหม้เหมืองถ่านหินได้เผามานานกว่า 25 ปี การเผาไหม้ของถ่านหินผลในการกำจัดของถ่านหินและอาจส่งผลเสียต่อการสนับสนุนสำหรับหลังคาของเหมืองที่เกิดขึ้นในการล่มสลาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกลือที่เกิดขึ้นใต้ผิวดินในพื้นที่ที่เคยต่ำกว่าระดับน้ำทะเลในเขตลุ่มน้ำที่ระเหยอย่างละเอียด ทำให้ความเข้มข้นของเกลือในน้ำทะเลจะสูงมาก จนเกลือตกตะกอนอยู่ด้านล่างสุด นี้เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่นในช่วงยุคจูแรสซิก ( ประมาณ 150 ล้านปีมาแล้ว ) ในบริเวณอ่าวเม็กซิโกต่อมาการสะสมของตะกอนอื่น ๆด้านบนของเกลือนี้ส่งผลให้ความหนาแน่นต่ำ ( ความหนาแน่นของเกลือสูง ตะกอน เนื่องจากเกลือจะค่อนข้างอ่อน มันเริ่มจะไหลขึ้นสู่พื้นผิว และในหลายกรณีก็แยกออกจากชั้นเดิมของเกลือที่ความลึกเพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่าเกลือโดม เนื่องจากเกลือเกิดขึ้นใกล้พื้นผิวมันสามารถละลายและยุบเป็นรูปจัง .
เกลือยังสามารถขุดเพื่อผลิตเกลือสำหรับการใช้งานของมนุษย์ หนึ่งเทคนิคเกี่ยวข้องกับฉีดของเหลวเข้าไปในเหมืองเกลือที่ละลายได้ ของเหลวที่เป็นแล้วหายและเป็นเกลือตกตะกอนจากสารละลาย เหมืองแร่ดังกล่าว เพราะมันละลาย โพรงขนาดใหญ่ในเกลือสามารถนำไปสู่ความไม่มั่นคง และยุบโซลูชั่นดังกล่าวส่งผลให้เหมืองบ่อ 300 เมตรในเส้นผ่าศูนย์กลางในฮัตชินสันแคนซัส

อีกเหมืองเกลือที่ยุบ เกิดขึ้นจากผลของการสำรวจน้ำมันใกล้เกลือโดมที่เกาะเจฟเฟอร์สันในทิศตะวันตกเฉียงใต้รัฐหลุยเซียนา เจฟเฟอร์สัน เกาะไม่เกาะในความรู้สึกที่เข้มงวดแต่พื้นที่สูงภูมิประเทศที่เกิดขึ้นเป็นผลของเกลือย้ายขึ้นผ่านตะกอนและยกระดับคุณภาพพื้นผิว โดมเกลือมีเหมืองเกลือที่ใช้งานได้ โดยการขุดอุโมงค์ในเหมืองเกลือ บริษัทน้ำมันพยายามที่จะเจาะจากทะเลสาบที่อยู่ติดกับเกาะเจฟเฟอร์สัน หวังกระโปรงขอบของโดมหินเกลือและน้ำมัน แทนน้ำมันดีเจาะเกลือและป้อนหนึ่งของเหมืองอุโมงค์ ทำให้เกิดทะเลสาบระบายเข้าเหมืองเกลือ ซึ่งทำให้บางส่วนของเกลือละลาย นี้ทำลายการสนับสนุนดังกล่าวข้างต้นเหมืองแร่ และนำไปสู่การล่มสลายของพื้นผิวในที่สุด ทะเลสาบระบายเข้าเหมืองเกลือ เรือ 10 ใช้สำหรับขุดเจาะน้ำมันถูกดูดลงหลุม