Images of the historic temples in t

Images of the historic temples in the town of Talakad covered by sand dunes, a phenomenon attributed to the "The Curse of Wodeyars".

Talakad is a historic site on the banks of river Kaveri. It has a continuous history of human habitation since 10,000 BC and emerged as a flourishing city during the Hoysala period (12th-13th century). This thriving city went into decline after the 16th century, which is attributed to the curse uttered in 1610 AD. However, historical records show that Talakad town went into decline only at the end of the 16th century. If it was cursed, why did it take almost 60-70 years to take into effect? A combination of historians, geologists and archaeologists claim to find an answer to this. During 1336, Madhava Manthri, a minister from the Vijayanagara regime, is said to have built an ‘anecut’ or dam across river Cauvery just above the Talakad area near Hemmige. Such a construction is likely to have dried up the river path, exposing the sand banks accumulated there for millions of years. Talakad receives strong winds from northwest and southwest, which while blowing on the river base, could move the sand particles towards Talakad. Studies have observed that these particles could move at a rate of about 7–10 ft/yr.

A diagram which explains the geological process of deposition of sand in Talakad (Source: CURRENT SCIENCE JOURNAL, Dec 2007

Thus, the sand which we see covering the town of Talakad is a consequence of movement of particles from the river path which was amplified by the sharp turn of the river. Gradually, over a period of a century, the town was slowly abandoned by its residents due to accumulation of sand and not as a result of some curse.

2. Malangi Maduvaagali “May a cruel whirlpool be a scourge of Malangi”
About the second part of the curse, Geologists have actively demonstrated that there is an active but a minor fault running along the path of the Cauvery River. Accordingly, owing to a major geological shift, the river Kaveri shifted its course as all rivers do. Plus, river Kaveri takes a sharp turn at several places including one at Talakad and Malangi. On one bank of the turn is Talakad and on other bank is Malangi. The bank of river which faces Malangi faces the rapidly flowing face of the river which cuts into it. This is the reason why Malangi is being eaten up by river Kaveri. Not as a result of any curse.

3. Mysuru Dhoregalige Makkalagade hogali! “And the kings of Mysore suffer the pangs of Childlessness!”
About the third and the most important part of the curse, the lack of heirs in the Mysore royal family. Most people including myself, believed in the curse only because of this third effect. I would ask “ Yes, the first two may be geological reasons, but how do you explain the every alternate generation of Wodeyars not having heirs.?” To me, this confirmed the existence of curse. That is, till now. Apparently, Rani Alamelamma cursed that Wodeyars shall not have any heirs, but did not say anything about skipping a generation! Did she have powers to change the curse in retrospect?

The answer is no. This part can be explained as part genetics and part coincidence. The funny part is that the very man who was cursed, Raja Wodeyar had several sons! While it is true that many Wodeyar rulers have had lack of heirs, they did have sons from their concubines. So what explains this?


A genealogy of the Mysore royal family (Source: CURRENT SCIENCE JOURNAL, Dec 2007)

In those days, genetic defects due to close intermarriages were not well known. Like most Indian rulers, Wodeyars married within their own “Urs” community. There were only around a dozen “well bred” inter married Urs families from which all the spouses of the Wodeyar family came from. This may have caused what is called “inbreeding depression”. Point to note is that out of the 19 rulers, only 10 rulers had lack of heirs. All adopted rulers had heirs but their second generation did not, caused by “enhanced inbreeding depression”. Thus, as well see, there is a strong medical reason which explains the lack of heirs of the Mysore family.

So what is this curse all about?
As analyzed above, the curse did not take effect immediately. The three syndromes of the curse were already visible during that time and historians believe that the curse was intelligently moulded by someone with a vested interest. But what could this vested interest be? It is interesting to see the timing of the first mention of this curse and similar other curses. While it was a part of local folklore, it makes appearance only in early 1830s and 1840s. What surprised me most was that very similar such curses of childlessness have emerged around the same time from other royal durbars. Suddenly every royal family like Gwalior, Jaipur, Porbander etc appears to be cursed! Why?


Lord Dalhousie, whose infamous “Doctrine of Lapse” forced royal families to concoct stories of curses.

A little investigation throws some light on this. In 1830s and

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาพของเมืองในการเมืองของ Talakad ปกคลุม ด้วยทราย ปรากฏการณ์ที่เกิดจากการ "การสาปแช่งของ Wodeyars"Talakad เป็นเว็บไซต์ประวัติศาสตร์ริมฝั่งแม่น้ำ Kaveri มันมีประวัติต่อเนื่องของมนุษย์อาศัยอยู่ตั้งแต่ 10,000 BC และกลายเป็นเมืองเฟื่องฟูในช่วงระยะเวลาความ (ศตวรรษที่ 12-13) เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองไปลดลงหลังจากคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งเกิดจากคำสาปที่พูดในโฆษณา 1610 อย่างไรก็ตาม บันทึกทางประวัติศาสตร์แสดงว่า เมือง Talakad ไปลดลงในตอนท้ายของศตวรรษที่ 16 เท่านั้น ถ้ามันถูกสาป ทำไมใช้เวลาเกือบ 60-70 ปีจะมีผลอย่างไร การรวมกันของนักประวัติศาสตร์ นักธรณีวิทยา และนักโบราณคดีเรียกร้องหาคำตอบนี้ ระหว่าง 1336, Madhava Manthri รัฐมนตรีจากระบอบการปกครองของวิชัยนคร บอกว่า จะได้สร้างเป็น 'anecut' หรือเขื่อนน้ำ Cauvery เหนือพื้นที่ Talakad Hemmige การก่อสร้างจะมีแห้งเส้นทางแม่น้ำ เปิดเผยธนาคารทรายที่สะสมมีล้านปี Talakad ได้รับลมตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งในขณะที่แม่น้ำพัดฐาน สามารถย้ายอนุภาคทรายต่อ Talakad การศึกษาพบว่า อนุภาคเหล่านี้สามารถเคลื่อนที่ในอัตราประมาณ 7-10 ฟุตในปีแผนภาพอธิบายกระบวนการทางธรณีวิทยาของการสะสมของทรายใน Talakad (แหล่งที่มา: วารสารวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน 2007 ธ.ค.ดังนั้น ทรายซึ่งเราเห็นว่า ครอบคลุมเมือง Talakad เป็นผลของการเคลื่อนที่ของอนุภาคจากเส้นทางแม่น้ำซึ่งถูกขยาย โดยชาร์ปเปิดน้ำ ค่อย ๆ ช่วงศตวรรษ เมืองช้าถูกระงับ โดยผู้อยู่อาศัยเนื่องจากการสะสม ของทราย และไม่เป็นผล จากคำสาปบาง2. Malangi Maduvaagali "อาจเป็นน้ำวนที่โหดร้ายจะระบาดของ Malangi"เกี่ยวกับส่วนสองของคำสาป นักธรณีวิทยาได้อย่างแข็งขันแสดงให้เห็นว่ามีการใช้งานแต่ข้อบกพร่องเล็กน้อยวิ่งตลอดเส้นทางช่วยให้สะดวก ตาม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาสำคัญ เวอร์ Kaveri เปลี่ยนหลักสูตรของแม่น้ำทั้งหมดเช่น พลัส แม่น้ำ Kaveri จะหมุนในหลายสถานที่รวมทั้งใน Talakad และ Malangi ทางหนึ่งของการเปิด Talakad และ Malangi เป็นธนาคารอื่น ฝั่งแม่น้ำหันหน้า Malangi ใบหน้าใบหน้าไหลอย่างรวดเร็วของแม่น้ำที่ตัดลงไป นี่คือเหตุผลที่ทำไม Malangi คือกินค่า Kaveri river ไม่เป็นผลจากคำสาปใด ๆ3. มัยซูรู Dhoregalige Makkalagade hogali "และพระมหากษัตริย์ Mysore ประสบพักอันคุ้มค่าของ Childlessness"เกี่ยวกับที่สามและส่วนสำคัญที่สุดของคำสาป ขาดทายาทในครอบครัวมัย คนส่วนใหญ่รวมทั้งตัวเอง เชื่อในคำสาป เพราะผลนี้สามเท่า ฉันอยากจะถาม "ใช่ สองครั้งแรกอาจจะเป็นเหตุผลทางธรณีวิทยา แต่วิธีคุณอธิบายกับทุกรุ่นอื่น Wodeyars ที่ไม่มีทายาทหรือไม่? " ฉัน นี้ยืนยันการมีอยู่ของคำสาป นั่นคือ จนถึงขณะนี้ เห็นได้ชัด รา Alamelamma ซวยว่า Wodeyars จะไม่มีทายาทใด ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับกระโดดข้ามการสร้าง เธอไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนคำสาปในการหวนกลับคำตอบคือไม่ ส่วนนี้สามารถอธิบายได้เป็นพันธุกรรมส่วนหนึ่งและส่วนหนึ่งบังเอิญ ส่วนที่ตลกคือ ว่า คนดีที่ถูกสาป Wodeyar ราชามีบุตรหลาย ในขณะที่มันเป็นความจริงว่า หลาย Wodeyar ไม้มีขาดทายาท พวกเขาไม่มีบุตรจากสนมของพวกเขา ดังนั้น สิ่งที่อธิบายนี้การลำดับวงศ์ตระกูลของครอบครัวมัย (แหล่งที่มา: วารสารวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน 2007 ธ.ค.)ในวันนั้น ข้อบกพร่องทางพันธุกรรมเนื่องจากปิด intermarriages ถูกไม่รู้จัก เช่นไม้บรรทัดสุดอินเดีย Wodeyars แต่งงานภายในชุมชนของตนเอง "Urs" มีได้เฉพาะรอบโหล "พันธุ์ดี" อินเตอร์จากซึ่งทั้งหมดคู่สมรสของ Wodeyar ครอบครัวมาจากครอบครัว Urs แต่งงาน นี้อาจได้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ภาวะซึมเศร้าการ inbreeding" จุดหมายเหตุคือ ว่า จาก 19 ไม้บรรทัด ไม้เพียง 10 มีขาดทายาท ผู้ปกครองบุญธรรมทั้งหมดมีทายาท แต่รุ่นที่สองของพวกเขาไม่ได้ เกิดจาก "ภาวะซึมเศร้า inbreeding ขั้นสูง" ดังนั้น เป็นดูดี มีเหตุผลทางการแพทย์แข็งแกร่งซึ่งอธิบายการขาดทายาทของครอบครัวมัยดัง นี้คำสาปทั้งหมดประมาณคืออะไรตามวิเคราะห์ข้างต้น คำสาปจึงไม่มีผลทันที อาการสามของคำสาปได้มองเห็นได้ในช่วงเวลานั้น และนักประวัติศาสตร์เชื่อว่า คำสาปถูกขึ้นรูป โดยคนมีฉลาด แต่สิ่งนี้ชอบธรรม เป็นที่น่าสนใจเพื่อดูเวลาแรกที่กล่าวถึงคำสาปนี้ และคล้ายคลึงกันอื่น ๆ คำสาป ในขณะที่มันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมพื้นบ้านท้องถิ่น มันทำให้ลักษณะเฉพาะในช่วงต้นยุค 1830 และทศวรรษที่ 1840 อะไรฉันประหลาดใจมากที่สุดคือที่คล้ายกันมากเช่นคำสาปแช่งของ childlessness มีโผล่ออกมาช่วงเวลาเดียวกันจาก durbars อื่น ๆ รอยัล จู่ ๆ ทุกพระราชวงศ์เช่นกวาลิเออร์ ชัยปุระ Porbander ฯลฯ จะถูกสาป ทำไมเจ้าดัลเฮาซี น่าอับอาย "หลักคำสอนของแลปส์" บังคับให้ราชวงศ์จะกุเรื่องเรื่องราวของคำสาปตรวจสอบเล็กน้อยพ่นไฟบางนี้ ในยุค 1830 และ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาพของวัดเก่าแก่ในเมือง Talakad ปกคลุมด้วยเนินทรายปรากฏการณ์ประกอบกับ "คำสาปของ Wodeyars". Talakad เป็นโบราณสถานในธนาคารของแม่น้ำรี่ แต่ก็มีประวัติศาสตร์ต่อเนื่องของการอยู่อาศัยของมนุษย์ตั้งแต่ 10,000 BC และกลายเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองในช่วงระยะเวลาฮอยซาลา (ศตวรรษที่ 12 ที่ 13) เมืองที่เจริญรุ่งเรืองนี้ลงไปหลังจากศตวรรษที่ 16 ซึ่งมีสาเหตุมาจากคำสาปเอ่ยออกมาใน 1610 AD อย่างไรก็ตามการบันทึกทางประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าเมือง Talakad ลงไปเพียงปลายศตวรรษที่ 16 ถ้ามันถูกสาปมันก็ใช้เวลาเกือบ 60-70 ปีทำไมจะนำเข้าผล? การรวมกันของนักประวัติศาสตร์นักโบราณคดีและนักธรณีวิทยาเรียกร้องให้หาคำตอบนี้ ในช่วง 1336 Madhava Manthri เป็นรัฐมนตรีจากระบอบการปกครองวิชัยกล่าวคือได้สร้าง 'anecut' หรือเขื่อนข้ามแม่น้ำ Cauvery เหนือพื้นที่ Talakad ใกล้ Hemmige เช่นการก่อสร้างมีแนวโน้มที่จะได้แห้งขึ้นเส้นทางแม่น้ำเผยธนาคารทรายสะสมที่นั่นเป็นเวลาหลายล้านปี Talakad รับลมแรงพัดจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดในขณะที่อยู่บนฐานแม่น้ำสามารถย้ายอนุภาคทรายต่อ Talakad มีการศึกษาพบว่าอนุภาคเหล่านี้สามารถย้ายในอัตราประมาณ 7-10 ฟุต / ปีได้. แผนภาพซึ่งจะอธิบายกระบวนการทางธรณีวิทยาของการทับถมของทรายใน Talakad (ที่มา: วารสารวิทยาศาสตร์หมุนเวียน, ธันวาคม 2007 ดังนั้นทรายที่เราเห็นที่ครอบคลุม เมือง Talakad เป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวของอนุภาคจากเส้นทางแม่น้ำซึ่งได้รับการขยายโดยหันคมชัดของแม่น้ำ. ค่อยๆในช่วงศตวรรษที่เมืองที่ถูกทิ้งร้างอย่างช้าๆโดยประชาชนเนื่องจากการสะสมของหาดทรายและไม่ได้ เป็นผลมาจากบางคำสาป. 2. Malangi Maduvaagali "อาจอ่างน้ำวนที่โหดร้ายเป็นระบาดของ Malangi" เกี่ยวกับส่วนที่สองของคำสาปนักธรณีวิทยาได้แสดงให้เห็นอย่างแข็งขันว่ามีการใช้งานได้ แต่ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ วิ่งไปตามเส้นทางของ Cauvery แม่น้ำ. ดังนั้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาที่สำคัญแม่น้ำเวอร์รี่ขยับหลักสูตรของแม่น้ำทุกคนทำ. พลัสแม่น้ำเวอร์รี่จะเปิดคมชัดในหลายสถานที่รวมทั้งคนหนึ่งที่ Talakad และ Malangi. ในธนาคารหนึ่งของเทิร์นเป็น Talakad และ ธนาคารอื่น ๆ ที่เป็น Malangi ธนาคารของแม่น้ำที่ใบหน้า Malangi ใบหน้าใบหน้าไหลอย่างรวดเร็วของแม่น้ำที่ตัดเป็นมัน นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไม Malangi จะถูกกินขึ้นที่ริมแม่น้ำเวอร์รี่ ไม่ได้เป็นผลมาจากคำสาปแช่งใด ๆ . 3 hogali Mysuru Dhoregalige Makkalagade! "และพระมหากษัตริย์ของซอร์ต้องทนทุกข์ทรมานเจ็บปวดของซื่อสัตย์ม!" เกี่ยวกับที่สามและส่วนที่สำคัญที่สุดของการสาปแช่งขาดทายาทในซอร์พระราชวงศ์ คนส่วนใหญ่รวมทั้งตัวเองเชื่อในคำสาปเพียงเพราะผลที่สามนี้ ผมจะถาม "ใช่ครั้งแรกที่สองอาจจะเป็นเหตุผลทางธรณีวิทยา แต่วิธีการที่คุณจะอธิบายรุ่นอื่นทุก Wodeyars ไม่ได้มีทายาท.?" ให้ฉันนี้ได้รับการยืนยันการดำรงอยู่ของคำสาปแช่ง นั่นคือจนถึงขณะนี้ เห็นได้ชัดว่าราชินี Alamelamma สาปแช่งที่ Wodeyars จะไม่มีทายาทใด ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการกระโดดข้ามรุ่น! เธอมีอำนาจที่จะเปลี่ยนคำสาปแช่งในการหวนกลับ? คำตอบคือไม่มี ส่วนนี้สามารถอธิบายได้พันธุศาสตร์ส่วนหนึ่งและเป็นส่วนหนึ่งบังเอิญ ส่วนที่ตลกคือว่าชายคนที่ถูกสาปราชายาร์มีลูกชายหลาย! ขณะที่มันเป็นความจริงที่หลายโมหะยาร์ได้มีการขาดทายาทพวกเขามีลูกชายจากนางสนมของพวกเขา ดังนั้นสิ่งที่อธิบายนี้หรือไม่? ลำดับวงศ์ตระกูลของพระราชวงศ์ซอร์ (ที่มา: วารสารวิทยาศาสตร์หมุนเวียน ธ.ค. 2007) ในวันนั้นข้อบกพร่องทางพันธุกรรมเนื่องจากการปิด intermarriages ไม่รู้จักกันดี เช่นเดียวกับผู้ปกครองอินเดียส่วนใหญ่ Wodeyars แต่งงานภายในชุมชนของตัวเอง "สซิส" ของพวกเขา มีเพียงประมาณหนึ่งโหล "มารยาทดี" อินเตอร์แต่งงานครอบครัว Urs จากการที่คู่สมรสทั้งหมดของครอบครัวยาร์มาจาก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ภาวะซึมเศร้าแยะ" ชี้ไปที่ควรทราบก็คือออกจาก 19 ผู้ปกครองเพียง 10 ผู้ปกครองมีการขาดทายาท ผู้ปกครองนำมาใช้ทั้งหมดมีทายาท แต่รุ่นที่สองของพวกเขาไม่ได้เกิดจาก "ภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้นแยะ" ดังนั้นที่ดีดูมีเหตุผลทางการแพทย์ที่แข็งแกร่งซึ่งจะอธิบายการขาดทายาทของครอบครัวซอร์. ดังนั้นสิ่งที่เป็นคำสาปนี้ทั้งหมดเกี่ยวกับ? ขณะที่การวิเคราะห์ข้างต้นคำสาปไม่ได้จะมีผลทันที ทั้งสามอาการของคำสาปแช่งอยู่แล้วสามารถมองเห็นได้ในช่วงเวลานั้นและนักประวัติศาสตร์เชื่อว่าคำสาปหล่ออย่างชาญฉลาดโดยคนที่มีส่วนได้เสีย แต่สิ่งที่ได้เสียนี้อาจจะ? เป็นที่น่าสนใจเพื่อดูระยะเวลาของการกล่าวถึงครั้งแรกของคำสาปนี้และคำสาปแช่งอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ในขณะที่มันเป็นส่วนหนึ่งของชาวบ้านในท้องถิ่นก็จะทำให้ลักษณะเฉพาะในช่วงยุค 1830 และ 1840 สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจมากที่สุดก็คือว่าคำสาปแช่งดังกล่าวคล้ายกันมากของซื่อสัตย์จะโผล่ออกมาในช่วงเวลาประมาณเดียวกันจากพระราช Durbars อื่น ๆ ทันใดนั้นทุกคนในครอบครัวเช่นพระราชกวาชัยปุระ Porbander ฯลฯ ดูเหมือนจะสาปแช่ง! ทำไมพระเจ้า Dalhousie ซึ่งน่าอับอาย "ลัทธิของล่วงเลย" บังคับพระราชครอบครัวที่จะกุเรื่องของคำสาป. การตรวจสอบน้อยพ่นไฟบางส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในยุค 1830 และ