วานิลา" เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในป่าแถบอเมริกากลาง โดยเฉพาะประเทศเม็กซิโก และ กัวเตมาลาว่ากันว่าชาวสเปนรู้จัก "วานิลา"
มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยมีชาวสเปนนำฝักวานิลาเข้าไปในประเทศสเปน สำหรับทำช๊อกโกแลตกลิ่นวานิลา เมื่อปี ค.ศ 1681
ในปี ค.ศ. 1733 มีการนำวานิลาเข้าไปปลูกในอังกฤษ จากนั้นก็เงียบหายไปไม่มีใครรู้จักหรือเห็นต้นวานิลาอีก จนกระทั่งต้นศตวรรษ
ที่ 19 มาร์ควิส ออพแบลนฟอร์ด (Marquis of Blandford) ได้นำวานิลาเข้ามาในอังกฤษอีกครั้งหนึ่ง นำไปไว้ในสวนรวมพันธุ์ไม้ของชาร์ลส์ เกรวิลล์
(Charles Grevilles) ที่เพดดิงตัน (Peddington) ในปี ค.ศ. 1807 เกรวิลล์ ได้ส่งต้นปักชำวานิลาไปยังสวนพฤกษศาสตร์ในปารีส และ อองเวิร์ป
(Antwerp) วานิลา 2 ต้นที่ อองเวิร์ป ถูกส่งไปยัง บุยเตนซอง (Buitenzong) ประเทศอินโดนิเซีย ในปี ค.ศ. 1819 แต่อยูรอดเพียงต้นเดียว และต้น
ที่เหลือรอดอยู่นี้ออกดอกในปี ค.ศ. 1825 แต่ไม่ติดฝัก ต่อมาในปี 1827 มีการส่งวานิลาไปยังมอริเซียส (Mauritius) เป็นหมู่เกาะในอินโดนิเซีย
ปัจจุบันประกาศเอกราชเป็นประเทศแล้ว
ในปี ค.ศ. 1846 เทร์มานน์ (Teysmann) ได้นำเทคโนโลยีการปลูกวานิลาไปใช้ในอินโดนิเซีย ขณะเดียวกันที่ ตาฮิติ มีปัญหาเรื่องการ-
ปลูกอ้อยจึงมีการนำวานิลาเข้าไปส่งเสริมให้ชาวตาฮิติปลูก เมื่อปี ค.ศ.1848 โดยนำพันธุ์วานิลามาจากฟิลิปปินส์หลังจากนั้นได้มีการพัฒนาการ
ปลูกวานิลาเพื่อเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรม ส่วนการปลูกวานิลาในหมู่เกาะโคโมโร ซึ่งเริ่มเมื่อปี ค.ศ.1893 เป็นแหล่งที่ทำให้วานิลาแพร่หลายไป