War breaks out in the Pacific (1941

War breaks out in the Pacific (1941)
Pearl Harbor and Simultaneous Invasions (early December 1941)
On December 7, 1941, Japanese warplanes commanded by Vice Admiral Chuichi Nagumo carried out a surprise air raid on Pearl Harbor, Hawaii, the largest U.S. naval base in the Pacific. The Japanese forces met little resistance and devastated the harbor. This attack resulted in 8 battleships either sunk or damaged, 3 light cruisers and 3 destroyers sunk as well as damage to some auxiliaries and 343 aircraft either damaged or destroyed. 2408 Americans were killed including 68 civilians; 1178 were wounded. Japan lost only 29 aircraft and their crews and five midget submarines. However, the attack failed to strike targets that could have been crippling losses to the US Pacific Fleet such as the aircraft carriers which were out at sea at the time of the attack or the base's ship fuel storage and repair facilities. The survival of these assets have led many to consider this attack a catastrophic long term strategic blunder for Japan.
The following day, the United States declared war on Japan. Simultaneously to the attack on Pearl Harbor, Japan also attacked U.S. air bases in the Philippines. Immediately following these attacks, Japan invaded the Philippines and also the British Colonies of Hong Kong, Malaya, Borneo and Burma with the intention of seizing the oilfields of the Dutch East Indies.
Following the Japanese attack on Pearl Harbor, Germany declared war on the United States on 11 December 1941, even though it was not obliged to do so under the Tripartite Pact of 1940. Hitler made the declaration in the hopes that Japan would support him by attacking the Soviet Union. Japan did not oblige him, and this diplomatic move proved a catastrophic blunder which gave President Franklin D. Roosevelt the pretext needed for the United States joining the fight in Europe with full commitment and with no meaningful opposition from Congress. Some historians mark this moment as another major turning point of the war with Hitler provoking a grand alliance of powerful nations, most prominently the UK, the USA and the USSR, who could wage powerful offensives on both East and West simultaneously.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบ่งออกสงครามในแปซิฟิก (1941)เพิร์ลฮาร์เบอร์และรุกรานพร้อม (ต้น 1941 ธันวาคม)บน 7 ธันวาคม 1941 ญี่ปุ่นแหล่งสั่งพล Chuichi Nagumo ดำเนินการประหลาดโจมตีทางอากาศที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ ฮาวาย ฐานทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในแปซิฟิก กองกำลังญี่ปุ่นตามความต้านทานน้อย และทำลายท่า โจมตีให้ battleships 8 หรือจม หรือเสียหาย ก้า 3 ไฟและเรือพิฆาต 3 จมและเสียหายบาง auxiliaries และ 343 อากาศยานเสียหาย หรือถูกทำลาย 2408 อเมริกันถูกฆ่ารวมถึงพลเรือน 68 1178 ได้รับบาดเจ็บ ญี่ปุ่นสูญเสียเครื่องบินเพียง 29 และหน้าที่ของพวกเขา และเรือดำน้ำขนาดเล็กมาก 5 อย่างไรก็ตาม การโจมตีล้มเหลวเพื่อตีเป้าหมายที่สามารถมีได้ชื่อสูญเสียให้เราแปซิฟิกเรือเช่นสายการบินเครื่องบินที่มีออกซีที่โจมตีหรือฐานการจัดส่งเชื้อเพลิงเก็บและซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวก ความอยู่รอดของสินทรัพย์เหล่านี้ได้นำมากการโจมตีพลาดกลยุทธ์ระยะยาวที่รุนแรงในญี่ปุ่นวันต่อไปนี้ สหรัฐอเมริกาประกาศสงครามกับญี่ปุ่น พร้อมกับการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ญี่ปุ่นยังโจมตีฐานอากาศสหรัฐฯ ในฟิลิปปินส์ ทันทีหลังการโจมตีเหล่านี้ ญี่ปุ่นบุกฟิลิปปินส์ และยังอาณานิคมอังกฤษของ Hong Kong สหพันธรัฐมาลายา เกาะบอร์เนียว และพม่ามีความตั้งใจในการปฏิบัติการยึดสถาน oilfields ของดัตช์อีสต์อินดีส์ต่อญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ เยอรมนีประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาในวันที่ 11 1941 ธันวาคม แม้มันไม่บ้านดังกล่าวภายใต้สนธิสัญญา Tripartite ของ 1940 ฮิตเลอร์ทำการประกาศในความหวังว่า ญี่ปุ่นจะสนับสนุนเขา โดยการโจมตีสหภาพโซเวียต ญี่ปุ่นไม่ได้ไว้เขา และย้ายทูตนี้พิสูจน์พลาดรุนแรงซึ่งให้ประธานาธิบดีแฟรงคลินดีรูสเวลท์ทุกที่จำเป็นสำหรับสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมต่อสู้ในยุโรปมั่น และฝ่ายค้านไม่มีความหมายจากรัฐสภา นักประวัติศาสตร์บางทำเครื่องหมายก่อนหน้านี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอื่นของสงครามกับฮิตเลอร์ที่ provoking พันธมิตรแกรนด์ของประเทศมีประสิทธิภาพ มากที่สุดจึงสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และสหภาพ โซเวียต ที่ได้ค่าจ้าง offensives มีประสิทธิภาพในทั้งตะวันออก และตะวันตกพร้อมกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แบ่งสงครามออกไปในมหาสมุทรแปซิฟิก (1941)
เพิร์ลฮาร์เบอร์และพร้อมกันการรุกราน (ช่วงต้นเดือนธันวาคม 1941)
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1941, เครื่องบินรบญี่ปุ่นได้รับคำสั่งจากพลรอง Chuichi Nagumo ดำเนินการโจมตีทางอากาศแปลกใจที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ฮาวายที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาฐานทัพเรือ ในมหาสมุทรแปซิฟิก กองกำลังญี่ปุ่นพบกับการต่อต้านเล็ก ๆ น้อย ๆ และทำลายท่าเรือ การโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้ทั้ง 8 เรือรบจมหรือเสียหาย 3 คันไฟและ 3 หมื่นจมรวมทั้งความเสียหายที่จะสนับสนุนและเครื่องบิน 343 อย่างใดอย่างหนึ่งเสียหายหรือถูกทำลาย 2408 ชาวอเมริกันที่ถูกฆ่าตายรวมทั้งพลเรือน 68; 1,178 คนได้รับบาดเจ็บ ญี่ปุ่นหายไปเพียง 29 เครื่องบินและลูกเรือของพวกเขาและเรือดำน้ำห้าคนแคระ แต่การโจมตีล้มเหลวในการโจมตีเป้าหมายที่จะได้รับการสูญเสียทำให้หมดอำนาจไปยังสหรัฐอเมริกาเรือเดินสมุทรแปซิฟิกเช่นเครื่องบินสายการบินที่อยู่ออกไปในทะเลในช่วงเวลาของการโจมตีหรือการจัดเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงฐานเรือและสถานที่ซ่อมแซม การอยู่รอดของสินทรัพย์เหล่านี้ได้นำจำนวนมากที่จะต้องพิจารณาการโจมตีครั้งนี้ในระยะยาวความหายนะความผิดพลาดเชิงกลยุทธ์สำหรับญี่ปุ่น.
วันรุ่งขึ้นที่สหรัฐอเมริกาประกาศสงครามกับญี่ปุ่น พร้อมกันกับการโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์, ญี่ปุ่นยังโจมตีฐานอากาศสหรัฐในประเทศฟิลิปปินส์ ทันทีหลังจากการโจมตีเหล่านี้ญี่ปุ่นบุกเข้ามาในฟิลิปปินส์และยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษฮ่องกงแหลมมลายูเกาะบอร์เนียวและพม่าที่มีความตั้งใจที่จะยึดบ่อน้ำมันของดัตช์อีสต์อินดีส.
หลังจากที่ญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์, เยอรมนีประกาศสงครามกับประเทศ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 1941 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้จำเป็นต้องทำภายใต้สนธิสัญญาไตรภาคีของปี 1940 ฮิตเลอร์ทำคำประกาศในความหวังที่ว่าญี่ปุ่นจะสนับสนุนเขาโดยการโจมตีสหภาพโซเวียต ญี่ปุ่นไม่ได้บังคับเขาและย้ายทูตนี้ได้รับการพิสูจน์ความผิดพลาดภัยพิบัติซึ่งทำให้โรสเวลต์ข้ออ้างที่จำเป็นสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมการต่อสู้ในยุโรปด้วยความมุ่งมั่นและไม่มีความขัดแย้งที่มีความหมายจากการมีเพศสัมพันธ์ นักประวัติศาสตร์บางคนทำเครื่องหมายขณะนี้เป็นอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญของการทำสงครามกับฮิตเลอร์กระตุ้นความเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของประเทศที่มีประสิทธิภาพเด่นที่สุดในสหราชอาณาจักรสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตที่สามารถโจมตีค่าจ้างที่มีประสิทธิภาพทั้งตะวันออกและตะวันตกพร้อมกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สงครามในมหาสมุทรแปซิฟิก ( 1941 )Pearl Harbor และการรุกราน ( ต้นเดือนธันวาคม 2484 ) พร้อมกันเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1941 ญี่ปุ่นทิ้ง นำโดยพลเรือเอก chuichi นางุโมะ ทำเซอร์ไพรส์โจมตีทางอากาศในเพิร์ล ฮาร์เบอร์ , ฮาวาย , ฐานทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก กองทัพญี่ปุ่นได้พบความต้านทานน้อยและทำลายท่าเรือ การโจมตีนี้ทำให้จมเรือรบทั้ง 8 หรือเสียหาย 3 คัน 3 คันจมแสงเช่นเดียวกับความเสียหายบางส่วน auxiliaries และ 343 อากาศยานให้เสียหายหรือทำลาย 1346 คนอเมริกันถูกฆ่าตายรวมทั้ง 68 พลเรือน ; 1130 ได้รับบาดเจ็บ ญี่ปุ่นแพ้เพียง 29 อากาศยานและลูกเรือและห้าเรือดำน้ำจิ๋ว . อย่างไรก็ตาม การโจมตีล้มเหลวที่จะโจมตีเป้าหมายที่อาจได้รับความเสียหายทำลายให้กองเรือแปซิฟิก เช่น เครื่องบินสายการบินที่ออกทะเลในเวลาของการโจมตี หรือเป็นฐานการเก็บเชื้อเพลิงเรือและซ่อมเครื่อง . การอยู่รอดของสินทรัพย์เหล่านี้ได้นำหลายพิจารณานี้โจมตีในระยะรุนแรงนานผิดพลาดเชิงกลยุทธ์สำหรับญี่ปุ่นวันต่อมา สหรัฐอเมริกาประกาศสงครามกับญี่ปุ่น พร้อมกันเพื่อโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ ญี่ปุ่นโจมตีฐานทัพอากาศสหรัฐในฟิลิปปินส์ ทันทีหลังจากการโจมตีเหล่านี้ , ญี่ปุ่นบุกฟิลิปปินส์ และยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษในฮ่องกง แหลมมลายู บอร์เนียว และพม่าที่มีความตั้งใจในการยึด oilfields แห่งหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของดัตช์ .ต่อไปนี้การโจมตีของญี่ปุ่นใน Pearl Harbor , เยอรมนีประกาศสงครามต่อสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1941 แม้ว่าจะไม่ต้องทำภายใต้ข้อตกลงไตรภาคีแห่งปี ฮิตเลอร์ได้ประกาศในความหวังว่าญี่ปุ่นจะสนับสนุนเขา โดยการโจมตีสหภาพโซเวียต ญี่ปุ่นไม่ได้บังคับเขา และย้ายทูตนี้พิสูจน์แล้วว่าเป็นหายนะ พลาดที่ให้ ประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ข้ออ้างที่จําเป็นสําหรับสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมต่อสู้ในยุโรป ด้วยความมุ่งมั่นเต็มและไม่มีความหมาย การต่อต้านจากสภา นักประวัติศาสตร์บางคน มาร์ค ช่วงเวลานี้เป็นอีกจุดเปลี่ยนสําคัญของสงครามกับฮิตเลอร์ ยั่ว เป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของประเทศที่มีประสิทธิภาพเด่นที่สุดในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียต ซึ่งได้ค่าจ้างการโจมตีที่มีประสิทธิภาพทั้งในตะวันออกและตะวันตกพร้อมกัน