Fallbrook Middle School is typical

Fallbrook Middle School is typical of what you might find in an affluent suburban area; it is presented as an established school with a tradition, and the students are clearly from prosperous families with educated parents. While this may seem limiting, it actually opens the door for real discussion about education, since the focus is not about students who are underpriveleged or from widely differing socio-economic backgrounds. It is unusual these days to find a film about a middle school that actually discusses education. Although many of the ideas and experiences are simplified and shortened, it is presented with some depth. This is especially true in the case of David Paymer's performance as stuffy biology teacher Matt Warner. Although this part could have easily been made into a stereotype, the story line shows Matt Warner as a dimensional person, with good and bad traits, and really the film is more about his re-awakening as an educator than anything else. Paymer handles this difficult role very well. Ryan Reynolds is great as the charismatic Mr. D. This is a type of part that he excels at, and he plays Mr. D with a dry comic delivery that overcomes some of the less than scintillating dialog he is given to say. Some kudos to the supporting cast, especially the teaching staff, who are presented with personality traits that you often see (or imagine) that middle school teachers must have. These cast members include Leila Johnson as the attractive art teacher who has a crush on Mr. D, Brenda McDonald as the veteran math teacher with sardonic lines, John Astin's cameo as the great Stormin' Norman Warner, and Paul Jarrett as the English teacher decrying the end of the language as we know it. Director William Dear keeps the film moving as a quick pace, and while this film doesn't end up being a great film, it is a very good one for its subject matter and intended audience. It doesn't gloss over elements of life and death that appear in the script but shows them in a way that is moving and empathetic to the audience. It presents views about education from both the students' and teachers' viewpoints. As a result, School of Life is a family film that leaves you with a positive feeling about life and an interesting glimpse into the public school system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรงเรียนมัธยมต้น Fallbrook เป็นสิ่งที่คุณอาจพบในแต่ละพื้นที่ชานเมือง แสดงเป็นโรงเรียนที่ขึ้นกับประเพณี และนักเรียนได้อย่างชัดเจนจากครอบครัวเจริญกับพ่อแม่การศึกษา ขณะนี้อาจดูเหมือนจำกัด จริงเปิดประตูจริงสนทนาเกี่ยวกับการศึกษา เนื่องจากความไม่ เกี่ยวกับนักเรียนที่มี underpriveleged หรือ จากกันแตกต่างกันภูมิหลังทางเศรษฐกิจสังคม ได้ปกติวันนี้หาฟิล์มเกี่ยวกับมัธยมที่จะ กล่าวถึงการศึกษา แม้ว่าความคิดและประสบการณ์ภาษา และตัดให้สั้นลง มันจะแสดงความลึกบาง นี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของ David Paymer ประสิทธิภาพเป็นครูชีววิทยาคัดแมตต์วอร์เนอร์ แม้ว่าส่วนนี้อาจได้ทำเป็นแบบเหมารวม เรื่องโดยวอร์เนอร์แมตต์เป็นบุคคลมิติ มีลักษณะดี และไม่ดี และฟิล์มจริง ๆ คือเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขาอีกตื่นขึ้นเป็นประวัติผู้สอนและเป็นมากกว่าสิ่งอื่นใด Paymer จัดการบทบาทนี้ยากมาก เรย์โนลด์ส Ryan เหมาะเป็น d.นายบารมี นี้เป็นส่วนหนึ่งที่เขาแก่งที่ และเขาเล่นนาย D กับส่งการ์ตูนแห้งที่ overcomes บางที่น้อยกว่า scintillating คือให้พูดโต้ตอบ บางรุ่งโรจน์ถึงหล่อสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูผู้สอน ที่จะนำเสนอลักษณะนิสัยที่คุณมักจะเห็น (หรือคิด) ที่โรงเรียนต้องมีครู คนนี้หล่อรวมเล Johnson เป็นครูศิลปะที่น่าสนใจที่มีความสนใจในนาย D เบรนดาแมคโดนัลด์เป็นครูคณิตศาสตร์ที่ทหารผ่านศึกกับบรรทัด sardonic จอห์นแอสตินเป็นเป็นการดี Stormin' นอร์แมนวอร์เนอร์ และจาเรตต์ Paul เป็นครูภาษาอังกฤษที่ decrying ตามภาษาเรารู้จักเลย ผู้กำกับ William รักเก็บฟิล์มย้ายเป็นก้าวอย่างรวดเร็ว และในขณะที่ฟิล์มนี้ไม่สิ้นสุดถูก ฟิล์มดี มันเป็นหนึ่งที่ดีสำหรับเรื่องความใคร ไม่เกลื่อนองค์ประกอบของชีวิตและความตายที่ปรากฏในสคริปต์ แต่แสดงออกในลักษณะที่เคลื่อนไหว และ empathetic ให้กับผู้ชม มันนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับการศึกษาจากมุมมองของนักเรียนและครู ดัง โรงเรียนชีวิตเป็นภาพยนตร์ครอบครัวที่ปล่อยให้คุณ มีความรู้สึกที่เป็นบวกเกี่ยวกับชีวิตและเหลือบน่าสนใจในระบบโรงเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Fallbrook โรงเรียนมัธยมเป็นเรื่องปกติของสิ่งที่คุณอาจพบในพื้นที่ชานเมืองที่ร่ำรวย; จะนำเสนอในฐานะที่เป็นโรงเรียนจัดตั้งขึ้นโดยมีประเพณีและนักเรียนอย่างชัดเจนจากครอบครัวเจริญรุ่งเรืองกับพ่อแม่มีการศึกษา ขณะนี้อาจดูเหมือน จำกัด ก็จริงเปิดประตูสำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับการศึกษาที่แท้จริงตั้งแต่โฟกัสไม่ได้เกี่ยวกับนักเรียนที่กำลัง underpriveleged หรือจากภูมิหลังที่แตกต่างกันอย่างแพร่หลายทางเศรษฐกิจและสังคม มันเป็นเรื่องปกติวันนี้จะหาภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับโรงเรียนมัธยมที่จริงกล่าวถึงการศึกษา แม้ว่าจะมีหลายความคิดและประสบการณ์จะง่ายและสั้นลงจะนำเสนอบางส่วนที่มีความลึก นี่คือความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผลการดำเนินงานของเดวิด Paymer ชีววิทยาคัดครูแมตต์วอร์เนอร์ แม้ว่าส่วนนี้จะได้รับได้อย่างง่ายดายทำให้เป็นทัศนคติที่เส้นเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าแมตต์วอร์เนอร์เป็นคนมิติที่มีลักษณะดีและไม่ดีและจริงๆหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเรื่องการตื่นของเขาในฐานะนักการศึกษากว่าสิ่งอื่น Paymer จัดการบทบาทที่ยากลำบากเป็นอย่างดี Ryan Reynolds เป็นที่ดีเป็นเสน่ห์นายดีนี่คือประเภทของส่วนหนึ่งที่เขาเก่งและเขาเล่นนาย D ที่มีการส่งมอบการ์ตูนแห้งที่เอาชนะบางส่วนของน้อยกว่าโต้ตอบประกายเขาจะได้รับที่จะบอกว่า รุ่งโรจน์บางอย่างที่จะสนับสนุนนักแสดงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่การเรียนการสอนที่จะมีลักษณะบุคลิกภาพที่คุณมักจะเห็น (หรือจินตนาการ) ที่ครูโรงเรียนมัธยมจะต้องมี เหล่านี้ประกอบด้วยสมาชิกโยนเลย์จอห์นสันเป็นครูสอนศิลปะที่น่าสนใจที่มีปิ๊งนาย D, เบรนด้าแมคโดนัเป็นครูคณิตศาสตร์ที่มีประสบการณ์กับสายเสียดสีจี้จอห์น Astin เป็นดี Stormin 'นอร์แมนวอร์เนอร์และพอล Jarrett เป็นครูสอนภาษาอังกฤษสตาฟฟ์ ในตอนท้ายของภาษาที่เรารู้ว่า ผู้อำนวยการวิลเลียมที่รักภาพยนตร์เรื่องนี้ช่วยให้การเคลื่อนย้ายเป็นก้าวอย่างรวดเร็วและในขณะที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้จบลงด้วยการเป็นภาพยนตร์ที่ดีก็เป็นหนึ่งที่ดีมากสำหรับเรื่องและผู้ชมเป้าหมาย มันไม่ปัดสวะองค์ประกอบของชีวิตและความตายที่ปรากฏในสคริปต์ แต่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาในทางที่มีการเคลื่อนไหวและความเห็นอกเห็นใจให้กับผู้ชมที่ จะนำเสนอมุมมองเกี่ยวกับการศึกษาจากทั้งนักเรียนและครูมุมมอง เป็นผลให้โรงเรียนของชีวิตเป็นหนังครอบครัวที่ทำให้คุณมีความรู้สึกที่ดีเกี่ยวกับชีวิตและเหลือบที่น่าสนใจในระบบโรงเรียนของรัฐ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรงเรียนกลาง
ราคาปกติของสิ่งที่คุณอาจพบในเขตชานเมืองที่ร่ำรวย มันแสดงเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียน ที่มีประเพณีและนักเรียนได้อย่างชัดเจนจากครอบครัวเจริญกับการศึกษาผู้ปกครอง ในขณะที่มันอาจดูเหมือน จำกัด จริงๆ มันเปิดประตูสำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับการศึกษาเนื่องจากโฟกัสไม่ได้เกี่ยวกับนักเรียนที่ underpriveleged หรือจากอย่างกว้างขวางแตกต่างกันภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคม มันเป็นปกติ สมัยนี้หาภาพยนตร์เกี่ยวกับโรงเรียนที่กล่าวถึงการศึกษา แม้ว่าหลายของความคิดและประสบการณ์จะง่ายและสั้น มันมีบางลึกนี้เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของการแสดงของเดวิด paymer เป็นอบอ้าวชีววิทยาครูแมท วอร์เนอร์ แม้ว่าส่วนนี้อาจได้อย่างง่ายดายถูกสร้างเป็นพิมพ์เส้นเรื่องแสดงแมทวอร์เนอร์เป็นคนมิติที่มีลักษณะดี และ เลว จริงๆ ภาพยนตร์เรื่องของเขาอีกครั้งก็เป็นครูมากกว่าสิ่งอื่น paymer จับยากนี้ได้เป็นอย่างดีRyan Reynolds เป็นที่ดีเป็นเสน่ห์คุณดี นี้เป็นชนิดของส่วนนั้นเขา excels ที่และเขาเล่นคุณ D กับบริการการ์ตูนส่งที่เอาชนะบางส่วนของน้อยกว่าประกายโต้ตอบเขาให้พูด บางรุ่งโรจน์เพื่อส่งเสริม โดยเฉพาะอาจารย์ที่แสดงบุคลิกภาพที่คุณมักจะเห็น ( หรือจินตนาการ ) ที่ครูโรงเรียนกลางต้องมีสมาชิกเหล่านี้รวมถึง Leila จอห์นสันเป็นครูศิลปะที่น่าสนใจมีความหลงใหลอย่างมากบนคุณ D , เบรนด้า แมคโดนัลด์เป็นทหารผ่านศึกครูคณิตศาสตร์กับสายเยาะเย้ย , จอห์น แอสตินจี้เป็น stormin ' นอร์แมน วอร์เนอร์ และพอล Jarrett เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ decrying ตอนท้ายของภาษา ที่เรารู้จักกัน ผู้กำกับ วิลเลี่ยม ที่รักช่วยให้ฟิล์มเคลื่อนที่เป็นจังหวะเร็วและในขณะที่มันไม่ได้เป็นหนังที่ยอดเยี่ยมภาพยนตร์จบลง มันเป็นดีมาก และสำหรับเรื่องของผู้ชมเป้าหมาย มันไม่บิดเบือน องค์ประกอบของชีวิตและความตายที่ปรากฏในบท แต่แสดงพวกเขาในทางที่ถูกย้ายและ empathetic กับผู้ชม มันแสดงมุมมองเกี่ยวกับการศึกษาทั้งจากนักเรียนและครูทัศนะ . ผลโรงเรียนแห่งชีวิตเป็นภาพยนตร์ครอบครัวที่ใบคุณกับบวกความรู้สึกเกี่ยวกับชีวิตและเหลือบที่น่าสนใจในระบบโรงเรียนของรัฐ .