The emergence of data intensive sci

The emergence of data intensive science and the establishment of data management mandates have motivated academic libraries to develop research data services (RDS) for their faculty and students. Here the results of two studies are reported: librarians' RDS practices in U.S. and Canadian academic research libraries, and the RDS-related library policies in those or similar libraries. Results show that RDS are currently not frequently employed in libraries, but many services are in the planning stages. Technical RDS are less common than informational RDS, RDS are performed more often for faculty than for students, and more library directors believe they offer opportunities for staff to develop RDS-related skills than the percentage of librarians who perceive such opportunities to be available. Librarians need opportunities to learn more about these services either on campus or through attendance at workshops and professional conferences.

It is clear that some academic research libraries are offering a variety of research data management services and more plan to do so within the next two years. Most commonly these services are extensions of traditional informational or consultative services, such as helping faculty and students locate datasets or repositories. A small, but growing, number of libraries are becoming more involved with research data, from helping with data management plans to preparing and preserving research data for deposit in data repositories.

Many of the librarians who work in academic research libraries feel they have the subject knowledge necessary to help their constituents with research data services, but need the opportunity to take advantage of continuing education. Whether consultative or hands-on services, librarians need opportunities to learn more about these services either on their own campus or through attendance at workshops and professional conferences.

Working with others on campus, as both teachers and joint learners of research data service specifics, will help the library play a shared role in building the future of research data at their universities.

The comparisons drawn here between library policy on RDS and the perceptions of front-line librarians as they implement this policy, indicates some misalignment. However, that is to be expected, as most libraries are in the early stages of making RDS available. Increased awareness of this issue within the academic library community is likely to result in more effective development of RDS.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเกิดขึ้นของข้อมูลวิทยาศาสตร์เร่งรัดและการจัดตั้งการจัดการข้อมูลด้วยตนเองมีไลบรารีศึกษาแรงจูงใจในการพัฒนางานวิจัยข้อมูลบริการ (RDS) คณาจารย์และนักเรียน ที่นี่มีรายงานผลการศึกษาที่สอง: RDS ของ librarians ปฏิบัติในไลบรารีการวิจัยศึกษาของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และไลบรารีที่เกี่ยวข้องกับ RDS นโยบายผู้ หรือไลบรารีที่คล้ายกัน ผลลัพธ์แสดง RDS อยู่ไม่บ่อยพนักงานในไลบรารี แต่มีบริการมากมายในขั้นวางแผน เทคนิค RDS อยู่ทั่วไปน้อยกว่าข้อมูล RDS, RDS ดำเนินการมากขึ้นสำหรับคณะกว่าสำหรับนักเรียน และกรรมการของไลบรารีเพิ่มเติมเชื่อว่า พวกเขาให้โอกาสพนักงานในการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับ RDS กว่าเปอร์เซ็นต์ของ librarians ที่สังเกตเช่นโอกาสในการมี Librarians โอกาสการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการเหล่านี้ ในมหาวิทยาลัย หรือ ผ่านการเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการและสัมมนามืออาชีพได้เป็นที่ชัดเจนว่า ไลบรารีบางงานวิชาการจะนำเสนอบริการจัดการข้อมูลการวิจัยและแผนเพิ่มเติมดังกล่าวภายในสองปีถัดไป มากที่สุดบริการเหล่านี้เป็นส่วนขยายของดั้งเดิมให้ข้อมูล หรือ consultative บริการ ช่วยอาจารย์ และนักศึกษาค้นหา datasets หรือ repositories ตัวเลขขนาดเล็ก แต่เติบ โต รีจะกลายเป็นเพิ่มเติมกับข้อมูลวิจัย จากการช่วยจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแผนการเตรียมการ และการวิจัยข้อมูลการฝากใน repositories ข้อมูลLibrarians ที่ทำงานในห้องสมุดงานวิชาการมากมายรู้สึกว่า พวกเขามีความรู้เรื่องต้องช่วย constituents ของพวกเขา มีบริการข้อมูลการวิจัย แต่ต้องการโอกาสในการใช้ประโยชน์จากการศึกษาต่อเนื่อง ว่าบริการอีก หรือ consultative, librarians ได้โอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการเหล่านี้ ในมหาวิทยาลัยของตนเอง หรือ ผ่านการเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการและสัมมนามืออาชีพทำงานกับผู้อื่นในมหาวิทยาลัย เป็นครูผู้สอนและผู้เรียนร่วมวิจัยข้อมูลบริการประเภท จะได้รีมีบทบาทร่วมในการสร้างอนาคตของข้อมูลงานวิจัยในมหาวิทยาลัยของพวกเขาเปรียบเทียบการวาดนี่ระหว่างนโยบายไลบรารีใน RDS และภาพลักษณ์ของ librarians ล่าง ตามที่พวกเขาใช้นโยบายนี้ บ่งชี้บางอย่างนาน ๆ อย่างไรก็ตาม นั่นคือการ เป็นไลบรารีส่วนใหญ่อยู่ในขั้นเริ่มต้นของว่าง RDS เพิ่มความตระหนักของปัญหาภายในชุมชนห้องสมุดวิชาการจะส่งผลในการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพของ RDS.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเกิดขึ้นของข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เข้มข้นและสถานประกอบการของการจัดการข้อมูลเอกสารที่ได้แรงบันดาลใจห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาในการพัฒนาบริการข้อมูลการวิจัย (RDS) สำหรับอาจารย์และนักศึกษาของพวกเขา นี่คือผลของการศึกษาทั้งสองจะมีการรายงาน: การปฏิบัติ RDS บรรณารักษ์ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาห้องสมุดการวิจัยทางวิชาการและ RDS ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายในห้องสมุดเหล่านั้นหรือห้องสมุดที่คล้ายกัน ผลปรากฏว่า RDS ยังไม่ได้มักใช้ในห้องสมุด แต่บริการจำนวนมากอยู่ในขั้นตอนการวางแผน เทคนิค RDS อยู่ร่วมกันน้อยกว่า RDS ข้อมูล RDS จะดำเนินการมักจะมากขึ้นสำหรับคณาจารย์กว่าสำหรับนักเรียนและกรรมการห้องสมุดมากขึ้นเชื่อว่าพวกเขามีโอกาสสำหรับเจ้าหน้าที่ในการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับ RDS กว่าร้อยละของบรรณารักษ์ที่รับรู้โอกาสดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ บรรณารักษ์ต้องการโอกาสที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริการเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งในมหาวิทยาลัยหรือผ่านการเข้าร่วมในการประชุมเชิงปฏิบัติการและการประชุมมืออาชีพ. เป็นที่ชัดเจนว่าบางห้องสมุดวิจัยทางวิชาการจะนำเสนอความหลากหลายของบริการการจัดการข้อมูลการวิจัยและแผนอื่น ๆ อีกมากมายที่จะทำภายในสองปีข้างหน้า มากที่สุดบริการเหล่านี้มีส่วนขยายของการบริการให้ข้อมูลหรือให้คำปรึกษาแบบดั้งเดิมเช่นการช่วยให้อาจารย์และนักศึกษาหรือค้นหาชุดข้อมูลที่เก็บ ขนาดเล็ก แต่การเจริญเติบโตจำนวนของห้องสมุดจะกลายเป็นส่วนร่วมมากขึ้นกับข้อมูลการวิจัยจากการช่วยให้มีแผนจัดการข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมและรักษาข้อมูลการวิจัยสำหรับการฝากเงินในที่เก็บข้อมูล. หลายของบรรณารักษ์ที่ทำงานในห้องสมุดวิจัยทางวิชาการรู้สึกว่าพวกเขามีเรื่อง ความรู้ที่จำเป็นที่จะช่วยให้องค์ประกอบของพวกเขาด้วยการให้บริการข้อมูลการวิจัย แต่ต้องการโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษาหรือมือในการบริการบรรณารักษ์ต้องการโอกาสที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริการเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งในมหาวิทยาลัยของตัวเองหรือผ่านการเข้าร่วมในการประชุมเชิงปฏิบัติการและการประชุมมืออาชีพ. การทำงานกับคนอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยเป็นทั้งครูผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันของรายละเอียดการให้บริการข้อมูลการวิจัยจะ ช่วยให้ห้องสมุดมีบทบาทร่วมกันในการสร้างอนาคตของข้อมูลการวิจัยที่มหาวิทยาลัยของพวกเขา. เปรียบเทียบวาดนี่ระหว่างนโยบายห้องสมุด RDS และการรับรู้ของบรรณารักษ์หน้าบรรทัดที่พวกเขาดำเนินการตามนโยบายนี้แสดงให้เห็นแนวบาง แต่ที่เป็นที่คาดหวังเป็นห้องสมุดส่วนใหญ่อยู่ในขั้นเริ่มต้นของการทำ RDS ที่มีอยู่ การรับรู้ที่เพิ่มขึ้นของปัญหานี้ภายในชุมชนห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษามีแนวโน้มที่จะส่งผลในการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นของ RDS

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเกิดขึ้นของข้อมูลเข้มวิทยาศาสตร์และสถานประกอบการของเอกสารการจัดการข้อมูลห้องสมุดทางวิชาการเพื่อพัฒนาแรงจูงใจข้อมูลบริการ ( RDS ) สำหรับอาจารย์และนักศึกษาของพวกเขา ที่นี่ผลสองการศึกษารายงาน : บรรณารักษ์ RDS การปฏิบัติในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาห้องสมุดงานวิจัยทางวิชาการและ RDS ที่เกี่ยวข้องห้องสมุดนโยบายเหล่านั้น หรือห้องสมุดที่คล้ายคลึงกันผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าระบบ RDS ยังไม่ได้ใช้บ่อยในห้องสมุด แต่การบริการต่างๆมากมายอยู่ในขั้นตอนการวางแผน RDS เทคนิคทั่วไปน้อยกว่า RDS ครอบครัว RDS จะดำเนินการมากขึ้นมักจะมากกว่าสำหรับคณะนักศึกษาและกรรมการห้องสมุดมากขึ้นเชื่อว่าพวกเขาเสนอโอกาสสำหรับพนักงานเพื่อพัฒนาทักษะมากกว่าร้อยละของ RDS ที่บรรณารักษ์ที่มองเห็นโอกาสดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ บรรณารักษ์ต้องการโอกาสเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการเหล่านี้ทั้งในมหาวิทยาลัยหรือผ่านการเข้าร่วมในการประชุมเชิงปฏิบัติการและการประชุมมืออาชีพ .

เป็นที่ชัดเจนว่าบางห้องสมุดงานวิจัยทางวิชาการเสนอความหลากหลายของบริการการจัดการข้อมูลวิจัย และวางแผนที่จะทำภายในสองปีถัดไป มากที่สุดบริการเหล่านี้เป็นส่วนขยายของบริการด้านข้อมูล หรือแบบดั้งเดิม เช่น ช่วยให้อาจารย์และนักศึกษาหาข้อมูลหรือที่เก็บ . ขนาดเล็ก แต่การเติบโตหมายเลขของห้องสมุดจะกลายเป็นที่เกี่ยวข้องมากขึ้นกับข้อมูลการวิจัยจากช่วยจัดการข้อมูลแผนการเตรียมและรักษาข้อมูลการวิจัยเพื่อฝากเงินในคลังข้อมูล .

หลายของบรรณารักษ์ที่ทำงานในห้องสมุดงานวิจัยทางวิชาการรู้สึกว่าพวกเขามีความรู้ที่จำเป็นเพื่อช่วยให้องค์ประกอบของข้อมูลบริการแต่ต้องการโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากการศึกษาต่อเนื่อง ไม่ว่าที่ปรึกษาหรือมือบนบริการบรรณารักษ์ต้องการโอกาสเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการเหล่านี้ทั้งในวิทยาเขตของตนเองหรือผ่านการเข้าร่วมในการประชุมเชิงปฏิบัติการและการประชุมมืออาชีพ

ทำงานร่วมกับผู้อื่นในมหาวิทยาลัย เป็นทั้งครูและผู้เรียนร่วมกันกำหนดบริการข้อมูลการวิจัยจะช่วยให้ห้องสมุดมีบทบาทร่วมในการก่อสร้างในอนาคตของข้อมูลการวิจัยที่มหาวิทยาลัย

การวาดที่นี่ระหว่างห้องสมุดนโยบาย RDS และความคิดเห็นของบรรณารักษ์ในขณะที่พวกเขาใช้นโยบายนี้ พบว่า มีการบิด แต่ที่ต้องคาดหวัง เช่น ห้องสมุดส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนแรกของการ RDS พร้อมเพิ่มความตระหนักของปัญหาภายในชุมชนวิชาการห้องสมุดมีแนวโน้มที่จะส่งผลในการพัฒนามีประสิทธิภาพมากขึ้นของ RDS .