f cellulose, which is produced by G

f cellulose, which is produced by Gluconacetobacter xylinus, or
heteropolysaccharides. Examples of the latter include the CPS
produced by Acetobacter tropicalis SKU1100 [consisting of glucose,
galactose and rhamnose (1)] or that of Acetobacter aceti (reclassified
as Acetobacter pasteurianus subsp. Lovaniensis), consisting of
glucose and rhamnose (2).
A genetic study on the pellicle polysaccharide produced by
A. tropicalis SKU1100 showed that a gene cluster, polABCDE, is
required for pellicle formation; polB is involved in the production of
dTDP-rhamnose, while polE is involved in anchoring the polysaccharide
to the cell surface (3). Disruption of the polE gene
resulted in no pellicle formation in static culture due to the absence
of CPS production. Instead, this mutant strain secretes EPS with the
same sugar composition into the culture medium. Further, the galE
gene that encodes UDP-galactose 4-epimerase was identified to be
involved in UDP-galactose biosynthesis in A. tropicalis SKU1100 (4).
Previous studies reported that A. pasteurianus IFO3284 produces
two different types of colony: a rough-surfaced colony (R strains)
that can produce a pellicle and a smooth-surfaced colony (S strain)
that cannot produce a pellicle in static culture. The R and S strains
are inter-convertible by spontaneous mutation (5). According to
Kanchanarach et al. (6), the R strain of different A. pasteurianus
strains gave higher acetic acid production, whereas the S strains
could not complete the fermentation. This suggests that the R
strains (with pellicle polysaccharide) have higher acetic acid

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เซลลูโลส f ซึ่งผลิต โดย Gluconacetobacter xylinus หรือheteropolysaccharides ตัวอย่างของหลังรวมของวิทยาลัยการผลิต โดย tropicalis Acetobacter SKU1100 [ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคสกาแล็กโทสและ rhamnose (1)] หรือของ Acetobacter aceti (จัดประเภทใหม่เป็น Acetobacter pasteurianus ถั่ว Lovaniensis), ประกอบด้วยกลูโคสและ rhamnose (2)การศึกษาพันธุกรรม pellicle polysaccharide ผลิตโดยA. tropicalis SKU1100 พบว่าคลัสเตอร์ยีน polABCDE เป็นจำเป็นสำหรับการก่อตัวของ pellicle polB มีส่วนร่วมในการผลิตdTDP-rhamnose ในขณะที่ขั้วโลกมีส่วนร่วมในการ anchoring polysaccharide(3) พื้นผิวเซลล์ ทรัพยยีนขั้วโลกส่งผลให้ไม่ก่อ pellicle ในวัฒนธรรมคงเนื่องจากการขาดงานของการผลิตของวิทยาลัย แทน ต้องใช้นี้กลายพันธุ์ secretes EPS กับการองค์ประกอบน้ำตาลเหมือนกันเป็นสื่อวัฒนธรรม เพิ่มเติม ล่าเกลยีนเมจแมปกาแล็กโทส UDP 4 epimerase ที่ระบุให้เกี่ยวข้องในการสังเคราะห์กาแล็กโทส UDP ใน A. tropicalis SKU1100 (4)การศึกษาก่อนหน้านี้รายงานที่ pasteurianus A. IFO3284 สร้างสองประเภทของอาณานิคม: โคโลที่พื้นผิวหยาบ (สายพันธุ์ R)ที่สามารถผลิตแบบ pellicle และโคโลที่พื้นผิวเรียบ (ต้องใช้ S)ที่ไม่สามารถผลิต pellicle ในวัฒนธรรมคง สายพันธุ์ R และ Sอยู่ระหว่างเปลี่ยนแปลงได้ โดยการกลายพันธุ์อยู่ (5) ตามที่Kanchanarach et al. (6), R สายพันธุ์ของ A. pasteurianus แตกต่างกันสายพันธุ์ให้ผลิตกรดอะซิติกสูง ในขณะที่สายพันธุ์ Sสามารถทำการหมัก นี้แนะนำที่ Rเงีย (pellicle polysaccharide) มีกรดอะซิติกสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฉเซลลูโลสซึ่งผลิตโดย xylinus Gluconacetobacter หรือ
heteropolysaccharides ตัวอย่างของหลังรวม CPS
ผลิตโดย Acetobacter tropicalis SKU1100 [ประกอบด้วยกลูโคส
กาแลคและแรมโนส (1)] หรือของเชื้อสายพันธุ์มาตรฐาน (จัดประเภท
เป็น Acetobacter pasteurianus subsp. Lovaniensis) ประกอบด้วย
กลูโคสและแรมโนส (2).
ทางพันธุกรรม ศึกษา polysaccharide ฝ้าผลิตโดย
A. tropicalis SKU1100 แสดงให้เห็นว่าคลัสเตอร์ยีน, polABCDE เป็น
สิ่งจำเป็นสำหรับการก่อฝ้า; polB มีส่วนร่วมในการผลิตของ
พื้นที่ทรงงาน-แรมโนสในขณะที่ขั้วโลกมีส่วนเกี่ยวข้องในการยึด polysaccharide
ให้กับเซลล์ผิว (3) การหยุดชะงักของยีนขั้วโลก
ส่งผลให้ไม่มีการก่อฝ้าในวัฒนธรรมแบบคงที่เนื่องจากขาด
การผลิต CPS แต่นี้สายพันธุ์ที่กลายพันธุ์หลั่งกำไรต่อหุ้นที่มี
องค์ประกอบของน้ำตาลเดียวกันในอาหารเลี้ยงเชื้อ นอกจากนี้พายุ
ยีนที่เข้ารหัส UDP-กาแลค 4 epimerase ถูกระบุว่าจะได้รับ
. มีส่วนร่วมในการสังเคราะห์ทาง UDP ในกาแลคเอ tropicalis SKU1100 (4)
ศึกษาก่อนหน้านี้มีรายงานว่า A. pasteurianus IFO3284 ผลิต
สองประเภทที่แตกต่างกันของอาณานิคม: Dynamics หยาบแ โผล่อาณานิคม (สายพันธุ์ R)
ที่สามารถผลิตเยื่อและอาณานิคมเรียบโผล่ (สายพันธุ์ S)
ที่ไม่สามารถผลิตเยื่อในวัฒนธรรมแบบคงที่ สายพันธุ์ R และ S
เป็นระหว่างแปลงสภาพจากการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นเอง (5) ตาม
Kanchanarach และคณะ (6), สายพันธุ์ R ของ A. pasteurianus แตกต่าง
สายพันธุ์ให้การผลิตกรดอะซิติกที่สูงขึ้นในขณะที่สายพันธุ์ S
ไม่สามารถเสร็จสิ้นการหมัก นี้แสดงให้เห็นว่าการวิจัย
สายพันธุ์ (มี polysaccharide ฝ้า) มีกรดอะซิติกที่สูงขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

F เซลลูโลส ซึ่งผลิตโดย gluconacetobacter xylinus หรือ
heteropolysaccharides . ตัวอย่างของหลังรวม CPS
ผลิตโดย Acetobacter ขั้วผล sku1100 [ ประกอบด้วยกลูโคสและกาแล็กโทส
rhamnose ( 1 ) หรือของ Acetobacter aceti ( ร้อยละ
เป็น Acetobacter pasteurianus subsp . lovaniensis ) ที่ประกอบด้วยกลูโคสและ rhamnose

( 2 )การศึกษาทางพันธุกรรมในเยื่อพอลิแซคคาไรด์ที่ผลิตโดย
A sku1100 ขั้วผล พบว่า ยีนกลุ่ม polabcde ,
ที่จําเป็นสําหรับการพัฒนาเยื่อ ; polb มีส่วนร่วมในการผลิตของ
dtdp rhamnose ในขณะที่เสาที่เกี่ยวข้องในการทอดสมอพอลิแซ็กคาไรด์
ให้เซลล์ผิวหน้า ( 3 ) การหยุดชะงักของเสายีน
ส่งผลให้เกิดไม่เยื่อเซลล์ในวัฒนธรรมคงที่เนื่องจากขาด
การผลิตของ CPS แต่สายพันธุ์ที่กลายพันธุ์นี้ secretes EPS องค์ประกอบเดียวกันกับ
น้ำตาลในวัฒนธรรมสื่อ นอกจากนี้ เกล
ยีน encodes UDP galactose 4-epimerase ถูกระบุเป็น
เกี่ยวข้องกับ UDP กาแล็กโทสในใน A ขั้วผล sku1100 ( 4 ) .
การศึกษาก่อนหน้านี้รายงานว่า อ. ifo3284 pasteurianus ผลิต
สองประเภทที่แตกต่างกันของอาณานิคม :ขรุขระพื้นผิวอาณานิคม ( สายพันธุ์ R )
ที่สามารถผลิตเยื่อและอาณานิคมเรียบพื้นผิว ( เมื่อย )
ที่ไม่สามารถผลิตเยื่อในวัฒนธรรมแบบคงที่ R และ S สายพันธุ์
เป็นอินเตอร์ แปลงโดยธรรมชาติการกลายพันธุ์ ( 5 ) ตาม
kanchanarach et al . ( 6 ) , สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน A . R pasteurianus
สายพันธุ์ให้ปริมาณการผลิตของกรดโดยเชื้อ
ไม่ผ่านการหมัก นี้แสดงให้เห็นว่า R
สายพันธุ์ ( มีเยื่อพอลิแซ็กคาไรด์ กรด ) ได้สูงกว่า