Institutionalized sexismThis is man

Institutionalized sexism

This is manifested in terms of:
*the cultural of the curriculum (mathematics as a male domain):
*the forms of assessment used (competitive)
*gender-biased texts and worksheets (stereotyped)
*the modes of teaching employed (individualistic instead of oral and cooperative)
*the organization of schooling and selection
*the insufficiency of positive female role models among mathematics teachers ; and
*unconscious sexism among teachers.
Sexism in society
This is manifested in a number of powerful forms, including:
*overt sexist beliefs and behavior;
*cultural domination (legitimating and reproducing gender-stereotyped roles and gender-biased areas of knowledge, including mathematics );and
*structural institutional sexism (which denies women equal opportunities, thus reproducing the gender inequalities in society).
The way that some of these factors are inter-related and contribute to the gender problem in mathematics can be shown as a reproductive cycle (Figure 12.1).This shows how girls lack of equal opportunities in learning mathematics from a variety of causes, leads to girls’ negative views of their own mathematical ability, and reinforces their perception of mathematics as a male subject. A consequence is girl’s lower examination attainments and participation in mathematics. Because of its ‘critical filer’ role in regulating access to higher level
occupations, this leads to lower paid employment for women. The positioning of women disproportionately in the lower paid and lower status occupations reproduces gender inequality in society. This reinforces gender stereotyping both men and women. This in turn contributes an ideological component to institutional sexism in education, which reproduces the lack of equal opportunities for girls in mathematics, completing the cycle.
This cycle should not be taken as rigidly reproductive or understood too deterministically. It does illustrate how some aspects of the gender related problems in mathematics combine with other factor to reproduce social inequalities. Is also suggests chat any would-be solutions must be multiple, attacking each stage of transmission in the cycle, and that the problem is not merely educational. But also exists in the socio-political realm. For although three components concern mathematics education there are also three components that are essentially socio-political in nature, as the figure shows. The broader dimension means that it is a problem for all of society, not just for girls and women.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การกีดกันทางเพศในสังคมนี้เป็นที่ประจักษ์ในแง่ของ: * ทางวัฒนธรรมของการเรียนการสอน (คณิตศาสตร์เป็นโดเมนชาย): * รูปแบบของการประเมินที่ใช้ (ในการแข่งขัน) * ตำราเพศลำเอียงและแผ่น (ตายตัว) * รูปแบบของการเรียนการสอนที่ใช้ (เป็นปัจเจก แทนในช่องปากและสหกรณ์) * องค์กรของการศึกษาและการเลือก* ไม่เพียงพอบวกรุ่นบทบาทของผู้หญิงในหมู่ครูคณิตศาสตร์; และการกีดกันทางเพศ * หมดสติระหว่างครูกีดกันในสังคมนี้เป็นประจักษ์ในหลายรูปแบบที่มีประสิทธิภาพรวมถึง: * * * * ความเชื่อของผู้หญิงที่ชัดเจนและพฤติกรรมการครอบงำทางวัฒนธรรม * (ถูกต้องชอบธรรมและทำซ้ำบทบาทเพศตายตัวและพื้นที่เพศลำเอียงของความรู้รวมทั้งคณิตศาสตร์ ) และการกีดกันทางเพศ * โครงสร้างสถาบัน (ซึ่งปฏิเสธผู้หญิงโอกาสที่เท่าเทียมกันจึงทำซ้ำความไม่เท่าเทียมกันทางเพศในสังคม) วิธีการที่บางส่วนของปัจจัยเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกันและนำไปสู่ปัญหาทางเพศในวิชาคณิตศาสตร์สามารถแสดงให้เห็นว่าวงจรการสืบพันธุ์ ( รูป 12.1) นี้แสดงให้เห็นว่าเด็กขาดโอกาสที่เท่าเทียมกันในการเรียนรู้คณิตศาสตร์จากความหลากหลายของสาเหตุที่นำไปสู่มุมมองเชิงลบของเด็กผู้หญิงของความสามารถทางคณิตศาสตร์ของตัวเองและตอกย้ำการรับรู้ของคณิตศาสตร์เป็นเรื่องชาย ผลที่ตามมาจะต่ำกว่าการตรวจสอบความรอบรู้ของหญิงสาวและมีส่วนร่วมในวิชาคณิตศาสตร์ เพราะ 'filer สำคัญ' บทบาทในการควบคุมการเข้าถึงระดับที่สูงขึ้นประกอบอาชีพนี้นำไปสู่การลดค่าจ้างสำหรับผู้หญิง การวางตำแหน่งของผู้หญิงอย่างไม่เป็นสัดส่วนในการจ่ายต่ำและลดลงประกอบอาชีพสถานะพันธุ์ความไม่เท่าเทียมกันทางเพศในสังคม นี้ตอกย้ำเวเพศทั้งชายและหญิง นี้ในทางกลับมีส่วนช่วยในส่วนที่เกี่ยวกับลัทธิกีดกันสถาบันการศึกษาซึ่งพันธุ์ขาดโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับสาว ๆ ในวิชาคณิตศาสตร์จบรอบรอบนี้ไม่ควรนำมาเป็นสืบพันธุ์อย่างเหนียวแน่นหรือเข้าใจกำหนดตายตัวเกินไป มันจะแสดงให้เห็นว่าบางแง่มุมของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเพศในวิชาคณิตศาสตร์รวมกับปัจจัยอื่น ๆ ที่จะทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นการสนทนาใด ๆ จะเป็นการแก้ปัญหาจะต้องมีหลายขั้นตอนของการโจมตีการส่งในแต่ละรอบและว่าปัญหาไม่ได้เป็นเพียงการศึกษา แต่ยังอยู่ในดินแดนทางสังคมการเมือง สำหรับแม้ว่าการศึกษาสามองค์ประกอบคณิตศาสตร์กังวลนอกจากนี้ยังมีสามองค์ประกอบที่เป็นหลักทางสังคมและทางการเมืองในลักษณะที่แสดงให้เห็น มิติที่กว้างหมายความว่ามันเป็นปัญหาสำหรับทุกคนในสังคมไม่เพียง แต่สำหรับเด็กหญิงและหญิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สถาบันเพศนิยม

นี้เป็นประจักษ์ในแง่ของ :
* ทางวัฒนธรรมของหลักสูตร ( คณิตศาสตร์เป็นโดเมนชาย ) :
* รูปแบบการประเมินที่ใช้ ( แข่งขัน )
* เพศลำเอียงข้อความและแผ่น ( ตายตัว )
* โหมดของการสอนงาน ( ส่วนตัวแทนช่องปากและสหกรณ์ )
* องค์กรของตน และเลือก
* ไม่มีบวกโมเดลบทบาทหญิงระหว่างครูคณิตศาสตร์ และหมดสติเพศนิยมของครู
.
เพศนิยมในสังคม
นี้เป็นที่ประจักษ์ในหลายรูปแบบ ที่มีประสิทธิภาพรวมถึง :
* ตัวเหยียดความเชื่อและพฤติกรรม ;
* วัฒนธรรมจักรวรรดินิยม ( legitimating และสร้างเพศตายตัวบทบาทและเพศอคติด้านความรู้ ได้แก่ คณิตศาสตร์ )
; และ* แอสกีโครงสร้างสถาบัน ( ซึ่งปฏิเสธโอกาส เท่าเทียมกัน ผู้หญิงจึงสร้างเพศความไม่เสมอภาคในสังคม ) .
ที่บางส่วนของปัจจัยเหล่านี้เป็น อินเตอร์ ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมกับเพศปัญหาคณิตศาสตร์สามารถแสดงเป็นวงจรการสืบพันธุ์ ( รูปที่ 12.1 ) นี้แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงขาดโอกาสที่เท่าเทียมกันในการเรียนรู้คณิตศาสตร์จาก ความหลากหลายของสาเหตุนำหญิงมุมมองเชิงลบของความสามารถทางคณิตศาสตร์ของตนเอง และส่งเสริมการรับรู้ของคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ชาย ผลคือ ผู้หญิงลดข้อสอบความรอบรู้และการมีส่วนร่วมในคณิตศาสตร์ เนื่องจากบทบาทสำคัญในการควบคุมการเข้าถึงธรรมชาติ ' ' ระดับ
อาชีพนี้นำไปสู่การลดเงินการจ้างงานสำหรับผู้หญิงตำแหน่งของผู้หญิงในการลดสัดส่วน และลดการจ่ายสถานะ reproduces ความไม่เสมอภาคทางเพศในสังคม ซิส stereotyping เพศทั้งชายและหญิง นี้จะจัดสรรเป็นองค์ประกอบลัทธิเพศนิยม สถาบันการศึกษา ซึ่ง reproduces การขาดโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้หญิงในคณิตศาสตร์ จบรอบ
รอบนี้ไม่ควรเป็นการสืบพันธุ์ rigidly หรือเข้าใจด้วย deterministically . มันแสดงให้เห็นว่าบางแง่มุมของเพศที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทางคณิตศาสตร์รวมกับปัจจัยอื่น ๆที่จะเกิดความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ยังแสดงให้เห็นการสนทนาใด ๆที่ประสงค์จะเป็นโซลูชั่นที่ต้องมีหลายขั้นตอนในการส่งการโจมตีแต่ละรอบ และที่เป็นปัญหาไม่เพียง แต่การศึกษาแต่ยังมีอยู่ในสังคมการเมืองที่อาณาจักร เพื่อแม้ว่าสามองค์ประกอบเกี่ยวกับการศึกษาคณิตศาสตร์ยังมีส่วนประกอบสามที่เป็นหลัก สังคมการเมือง ในธรรมชาติ เป็นรูปที่แสดง มิติที่กว้างกว่า หมายความว่า มันเป็นปัญหาของสังคม ไม่ใช่แค่สำหรับเด็กหญิงและสตรี