Brunei Darussalam attained independ

Brunei Darussalam attained independence from the United Kingdom on 1 January 1984. A week after achieving independence, Brunei Darussalam joined the Association of South-East Asian Nations (ASEAN).
The country is a sultanate with the Sultan as Head of State, Prime Minister, Defence Minister as well as Finance Minister. The Sultan presides over a 10-member cabinet which he appoints himself. Five councils advise the Sultan on policy matters: the Religious Council, the Privy Council, the Council of Succession, the Legislative Council and the Council of Ministers (the cabinet). The system of government revolves around the Sultan as the source of executive power. Brunei Darussalam is a Muslim country, with a Ministry of Religious Affairs established to foster and promote Islam. The Constitution does, however, allow other religions to be practiced.
The Delegation of the European Union (EU) in Jakarta is responsible for fostering EU relations with Brunei Darussalam. The process of negotiating a new comprehensive EU-Brunei Darussalam Partnership and Co-operation Agreement (PCA) began in 2009.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บรูไนดารุสซาลามได้ประกาศอิสรภาพจากสหราชอาณาจักรบน 1 1984 มกราคม สัปดาห์หลังจากบรรลุอิสรภาพ บรูไนดารุสซาลามเข้าร่วมสมาคมตะวันออกเฉียงใต้เอเชียประเทศ (อาเซียน)ประเทศเป็นรัฐสุลต่าน มีสุลต่านเป็นประมุข นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหม เป็นรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการเงิน สุลต่าน presides ผ่านตู้ 10 สมาชิกที่เขาแต่งตั้งเอง สังคายนาในห้าแจ้งสุลต่านในเรื่องนโยบาย: สภาศาสนา องคมนตรี สภาบัลลังก์ คณะ กรรมการสภา และคณะรัฐมนตรี (คณะรัฐมนตรี) ระบบของรัฐบาล revolves รอบสุลต่านเป็นแหล่งที่มาของอำนาจบริหาร บรูไนดารุสซาลามเป็นประเทศมุสลิม กับการศาสนากระทรวงก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริม และส่งเสริมอิสลาม รัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ให้ศาสนาอื่นไปปฏิบัติการมอบหมายของสหภาพยุโรป (EU) ในจาการ์ตามีหน้าที่ในการอุปถัมภ์ความสัมพันธ์ EU กับบรูไนดารุสซาลาม เริ่มกระบวนการเจรจาครอบคลุมใน EU-บรูไนดารุสซาลามพาร์ตเนอร์ชิพใหม่และข้อตกลงความร่วมมือ (PCA) ในปี 2552

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บรูไนบรรลุเอกราชจากสหราชอาณาจักรวันที่ 1 มกราคม 1984 หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ประสบความสำเร็จเป็นอิสระบรูไนเข้าร่วมสมาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN).
ประเทศที่เป็นสุลต่านกับสุลต่านเป็นประมุขนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สุลต่านประธานในตู้ 10 สมาชิกที่เขาแต่งตั้งตัวเอง ห้าคณะกรรมการให้คำแนะนำสุลต่านในเรื่องนโยบายศาสนาสภาองคมนตรีสภาสืบทอด, สภานิติบัญญัติและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใน ระบบการทำงานของรัฐบาลที่หมุนรอบสุลต่านเป็นแหล่งที่มาของอำนาจบริหาร บรูไนเป็นประเทศมุสลิมที่มีกระทรวงศาสนาที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมและส่งเสริมศาสนาอิสลาม รัฐธรรมนูญอย่างไรให้ศาสนาอื่น ๆ ที่จะได้รับการฝึกฝน.
คณะผู้แทนของสหภาพยุโรป (EU) ในกรุงจาการ์ตามีหน้าที่ในการสนับสนุนให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปกับประเทศบรูไน กระบวนการของการเจรจาต่อรองใหม่ที่ครอบคลุมความร่วมมือของสหภาพยุโรปบรูไนและข้อตกลงความร่วมมือ (PCA) เริ่มในปี 2009

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บรูไนได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2527 หนึ่งสัปดาห์หลังจากการบรรลุความเป็นอิสระ , บรูไนดารุสซาลามเข้าร่วมสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) .
ประเทศเป็นสุลต่านที่มีสุลต่านเป็นประมุข นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สุลต่านเป็นประธาน 10 สมาชิกคณะรัฐมนตรีซึ่งเขาแต่งตั้งเองห้าคณะกรรมการแจ้งสุลต่านในเรื่องนโยบาย สภาศาสนา องคมนตรี แห่งความสำเร็จ สภานิติบัญญัติ และสภารัฐมนตรี ( คณะรัฐมนตรี ) ระบบของรัฐบาลที่หมุนรอบสุลต่านเป็นอำนาจของผู้บริหาร บรูไนเป็นประเทศมุสลิม มีกระทรวงศาสนาก่อตั้งขึ้นเพื่อเสริมสร้างและส่งเสริมศาสนาอิสลามรัฐธรรมนูญไม่ได้ แต่ช่วยให้ศาสนาอื่นต้องปฏิบัติ
คณะผู้แทนของสหภาพยุโรป ( อียู ) ใน จาการ์ตา มีหน้าที่รับผิดชอบในการส่งเสริมความสัมพันธ์ของสหภาพยุโรปกับบรูไน . กระบวนการเจรจา EU ครอบคลุมใหม่ บรูไนดารุสซาลาม หุ้นส่วนและข้อตกลงร่วมมือ ( PCA ) เริ่มในปี 2009