Epidemiologic studies in the genera

Epidemiologic studies in the general population and those based on the clinical assessment of schizophrenic populations have revealed a high degree of overlap between schizophrenia and addictive disorders. The abuse of psychoactive substances (including alcohol) throughout life is so frequent (50%) that the possibility of a specific link inevitably arises. Various hypotheses have been suggested to explain the high co-morbidity between schizophrenia and addiction: 1) The social-environmental hypothesis has been developed but studies have provided poor evidence to validate it. 2) The possible shared biological vulnerability between schizophrenia and addictions led researchers to explore common genetic determinants and study the involvement of the dopaminergic and opioid systems in the aetiology of both schizophrenia and the abuse of and dependence on psychoactive drugs. 3) Finally, the theory of self-medication suggests that schizophrenics may be attempting to counter the deficit linked to their disorders by using the substances they take or their dependency-type behaviour to cope with their emotional problems. The clinical profile of schizophrenic addicts does seem to display some distinctive features, such as the high level of depressive co-morbidity, very high nicotine and alcohol dependence, with a very poor prognosis. These patients are difficult to manage; the possibility of pharmacologic interactions between the substances they are taking and neuroleptic medication calls for prudence, and their compliance is also poor. Addictive disorders in schizophrenics are currently a topic of active research intended to lead to identifying specific treatments. The early identification of addictive disorders in schizophrenics should make it possible to limit their development and improve the prognosis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษา epidemiologic ในประชากรทั่วไปและที่ยึดตามการประเมินทางคลินิกของจิตเภทประชากรได้เปิดเผยในระดับสูงของการเหลื่อมกันระหว่างโรคจิตเภทและความ ใช้ทางออกฤทธิ์ (รวมแอลกอฮอล์) ตลอดชีวิตได้บ่อยดังนั้น (50%) ความเป็นไปได้ของการเชื่อมโยงเฉพาะย่อมเกิด สมมติฐานต่าง ๆ ที่มีการแนะนำอธิบายเจ็บป่วยร่วมสูงระหว่างโรคจิตเภทและติดยาเสพติด: 1) สมมติฐานสังคมสิ่งแวดล้อมได้รับการพัฒนา แต่ศึกษาให้ดีหลักฐานที่ตรวจสอบ 2) สามารถใช้ร่วมกันทางชีวภาพช่องโหว่ระหว่างโรคจิตเภทและการเสพติดนำนักวิจัยสำรวจดีเทอร์มิแนนต์พันธุกรรมทั่วไป และศึกษาการมีส่วนร่วมขององค์และระบบ opioid ในชครอบทั้งโรคจิตเภท และการใช้ทาง และพึ่งพายาเสพติดทางจิต 3) ในที่สุด ทฤษฎีของยาแนะนำว่า schizophrenics อาจจะพยายามนับขาดการเชื่อมโยงกับความผิดปกติของพวกเขา โดยใช้สารที่ใช้หรืออ้างอิงชนิดพฤติกรรมเพื่อรับมือกับปัญหาทางอารมณ์ ข้อมูลทางคลินิกของจิตเภทติดยาเสพติดดูเหมือนจะ แสดงคุณลักษณะบางประการโดดเด่น เช่นเจ็บป่วยร่วมซึมเศร้า นิโคตินสูงมาก และการ ติดแอลกอฮอล์ กับการคาดคะเนที่แย่มากในระดับสูง ผู้ป่วยเหล่านี้เป็นเรื่องยากที่จะจัดการ ยังไม่ดีไปได้ของ pharmacologic ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารที่พวกเขามีการเรียกยาเยียวยาสำหรับความรอบคอบ และสอดคล้อง ความใน schizophrenics อยู่ในขณะนี้หัวข้อของงานวิจัยไว้เพื่อนำไปสู่การรักษาที่เฉพาะเจาะจงที่ระบุ การระบุช่วงของความใน schizophrenics ควรช่วยให้คุณสามารถจำกัดการพัฒนา และปรับปรุงการคาดคะเน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาทางระบาดวิทยาในประชากรทั่วไปและผู้ที่อยู่บนพื้นฐานของการประเมินผลทางคลินิกของประชากรจิตเภทได้เปิดเผยระดับสูงของการทับซ้อนระหว่างโรคจิตเภทและเสพติดความผิดปกติ การละเมิดของสารออกฤทธิ์ทางจิต (รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) ตลอดชีวิตเพื่อให้บ่อย (50%) ที่เป็นไปได้ของการเชื่อมโยงที่เฉพาะเจาะจงอย่างหลีกเลี่ยงไม่เกิดขึ้น สมมติฐานต่างๆได้รับการแนะนำที่จะอธิบายร่วมการเจ็บป่วยสูงระหว่างโรคจิตเภทและติดยาเสพติด: 1) สมมติฐานทางสังคมสิ่งแวดล้อมได้รับการพัฒนา แต่การศึกษาได้ให้หลักฐานที่ไม่ดีในการตรวจสอบมัน 2) ร่วมกันเป็นไปได้ช่องโหว่ทางชีวภาพระหว่างโรคจิตเภทและการเสพติดนำนักวิจัยเพื่อสำรวจปัจจัยทางพันธุกรรมที่พบบ่อยและการศึกษาการมีส่วนร่วมของ dopaminergic และ opioid ระบบในสาเหตุของทั้งสองโรคจิตเภทและการละเมิดและการพึ่งพายาเสพติดออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท 3) สุดท้ายทฤษฎีของตัวเองยาแสดงให้เห็นว่าอาการจิตเภทอาจจะพยายามที่จะตอบโต้การขาดดุลที่เชื่อมโยงกับความผิดปกติของพวกเขาโดยการใช้สารที่พวกเขาใช้หรือพฤติกรรมการพึ่งพาชนิดของพวกเขาที่จะรับมือกับปัญหาทางอารมณ์ของพวกเขา รายละเอียดทางคลินิกของการติดยาเสพติดจิตเภทดูเหมือนจะแสดงคุณสมบัติที่โดดเด่นบางอย่างเช่นระดับสูงของการซึมเศร้าร่วมเจ็บป่วยนิโคตินสูงมากและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์การพึ่งพาอาศัยกันกับการพยากรณ์โรคที่ดีมาก ผู้ป่วยเหล่านี้มีความยากในการจัดการ; ความเป็นไปได้ของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างยาสารที่พวกเขามีการใช้ยาและจิตเรียกร้องให้รอบคอบและการปฏิบัติของพวกเขายังเป็นที่น่าสงสาร ความผิดปกติของการเสพติดในขณะนี้อาการจิตเภทหัวข้องานวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปสู่​​การรักษาที่เฉพาะเจาะจงระบุ ตัวแรกของความผิดปกติเสพติดในอาการจิตเภทควรจะทำให้มันเป็นไปได้ที่จะ จำกัด การพัฒนาของพวกเขาและปรับปรุงการพยากรณ์โรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาทางระบาดวิทยาในประชากรทั่วไป และผู้ที่ขึ้นอยู่กับการประเมินทางคลินิกของผู้ป่วยจิตเภทมีจำนวนประชากรสูงซ้อนระหว่างโรคจิตเภทและเสพติด disorders การใช้สารออกฤทธิ์ทางจิต ( รวมถึงแอลกอฮอล์ตลอดชีวิตก็บ่อย ( 50% ) ที่เป็นไปได้ของการเชื่อมโยงเฉพาะย่อมเกิดขึ้น สมมติฐานต่างๆได้รับการเสนอเพื่ออธิบายการเจ็บป่วยระหว่างโรคจิตเภทและเสพติดสูง Co : 1 ) สมมติฐานสิ่งแวดล้อมสังคมได้รับการพัฒนา แต่การศึกษาได้ให้หลักฐานที่ยากจนที่จะตรวจสอบมัน 2 ) ได้ใช้ช่องโหว่ทางชีวภาพระหว่างโรคจิตเภทและเสพติดนำนักวิจัยสำรวจปัจจัยทางพันธุกรรมที่พบบ่อยและการมีส่วนร่วมของมโนนุกูล และโคลน ในการศึกษาที่เกี่ยวกับสาเหตุของโรคจิตเภทและการละเมิดและการพึ่งพายา . 3 ) สุดท้ายทฤษฎีของตนเองแสดงให้เห็นว่ายาทางจิตอาจจะพยายามที่จะตอบโต้การขาดดุลที่เชื่อมโยงกับความผิดปกติของพวกเขาโดยการใช้สารที่พวกเขาใช้หรือพึ่งพาประเภทพฤติกรรมเพื่อรับมือกับปัญหาทางอารมณ์ของพวกเขา ลักษณะทางคลินิกของผู้ป่วยจิตเภทติดยาดูเหมือนจะแสดงบางคุณสมบัติที่โดดเด่นเช่นระดับสูงของโรคซึมเศร้า Co ยานิโคตินสูงมากและติดสุรา มีการพยากรณ์โรคไม่ดีมาก ผู้ป่วยเหล่านี้จะยากที่จะจัดการ ; ความเป็นไปได้ของการมีปฏิสัมพันธ์ยาระหว่างสารที่พวกเขาจะ และ ยา neuroleptic เรียกความสุขุมและการปฏิบัติตามของพวกเขาเป็นคนจน เสพติดความผิดปกติทางจิตอยู่ในหัวข้อของการวิจัยที่ใช้งานมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปสู่การระบุการรักษาที่เฉพาะเจาะจง ต้นการเสพติด disorders ในทางจิตควรทำให้มันเป็นไปได้ที่จะ จำกัด การพัฒนาและปรับปรุงการพยากรณ์โรค .