In 1997, Ford Motor Co. equipped th

In 1997, Ford Motor Co. equipped the Mustang with one of the first RFID ignition immobilizers in the U.S. car industry. Theft levels for the Mustang immediately dropped 70 percent from just two years prior [source: Stone]. The results were stunning, and pretty much every other carmaker followed suit.
Today, the RFID (radio frequency identification) industry claims a 90 percent reduction in theft rates for car models equipped with RFID starters, immobilizers and entry systems [source: Vamosi]. Both automakers and insurance companies have full faith in the devices, even going so far as to label them unbeatable. And certainly, the technology is an impressive display of security innovation.
RFID relies on radio-frequency signals to create a system that, for the first several years it was in use, was indeed uncrackable. In the 1990s, many a car thief was thwarted by the rather brilliant addition of RFID immobilizers to regular old physical keys. An RFID immobilizer is a chip embedded in the top part of an ignition key. This chip sends out an encrypted string of radio-frequency signals, basically a particular number of impulses broadcast on various radio frequencies to create a specific code, when the driver inserts it into the ignition-key slot. Without this code, the car either won't start or won't activate the fuel pump. So even if someone hotwires the car or copies an ignition key, the ignition isn't going to work because it hasn't received the proper radio-frequency code.
If you have a car that comes with a special "valet key," the immobilizer probably shuts down the fuel pump if the car is started without the code. This means the car is going to run only on whatever fuel is left in the fuel line, which will only get it a couple of blocks. Thus the valet key -- valet parkers only have to drive a car very short distances. If they try to drive off with your car, they won't get very far. Neither will any other potential car thief.
Early RFID systems, both keyless entry (the key fob device with the button you press to unlock the car) and vehicle immobilizers, used 32-bit encryption. That means they sent a code of 32 impulses. With 32 bits in the code, there are billions of possible combinations [source: Stone]. In newer schemes, including remote starters that let you start a car with the push of a button, the codes have 40 bits, which increases the possibilities. With so many possible codes, the system seems unbeatable.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 1997 ฟอร์ดมอเตอร์ร่วม ม้าป่าพร้อมกับหนึ่งในครั้งแรก immobilizers rfid การเผาไหม้ในตัวเรา อุตสาหกรรมรถยนต์ ระดับการโจรกรรมเพื่อม้าป่าลดลงทันทีร้อยละ 70 จากเพียงสองปีก่อน [ที่มา: หิน] ผลลัพธ์ที่ได้สวยงามและสวยมากทุก carmaker อื่น ๆ ตามหลังชุดสูท.
วันนี้rfid (ระบุความถี่) อุตสาหกรรมอ้างว่าลดลงร้อยละ 90 ของอัตราการโจรกรรมรถสำหรับรุ่นที่มาพร้อมกับการเริ่ม rfid, immobilizers และระบบการเข้า [ที่มา: Vamosi] ทั้งผู้ผลิตรถยนต์และ บริษัท ประกันภัยมีความเชื่อมั่นเต็มรูปแบบในอุปกรณ์แม้ไปไกลที่สุดเท่าที่จะติดป้ายพวกเขาเอาชนะ และแน่นอนว่าเทคโนโลยีที่มีการแสดงผลที่น่าประทับใจของนวัตกรรมการรักษาความปลอดภัย.
rfid อาศัยสัญญาณวิทยุความถี่ในการสร้างระบบที่เป็นเวลาหลายปีก่อนที่มันเป็นในการใช้งานได้แน่นอน uncrackable ในปี 1990 หลายขโมยรถถูกขัดขวางโดยการเติมค่อนข้างสดใสของ immobilizers rfid คีย์ทางกายภาพปกติเก่า ทำให้เคลื่อนที่ rfid เป็นชิปที่ฝังอยู่ในส่วนบนของคีย์การเผาไหม้ชิปนี้จะส่งออกสตริงเข้ารหัสของสัญญาณวิทยุความถี่โดยทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนของแรงกระตุ้นออกอากาศที่ความถี่วิทยุต่างๆเพื่อสร้างรหัสเฉพาะเมื่อขับรถแทรกเข้าไปในช่องที่สำคัญการเผาไหม้ โดยไม่ต้องรหัสนี้รถอาจจะไม่ได้เริ่มต้นหรือจะไม่ได้เปิดใช้งานเครื่องสูบน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นแม้ว่าคน hotwires รถหรือสำเนาที่สำคัญการเผาไหม้,การเผาไหม้ที่ไม่ได้ไปทำงานเพราะมันยังไม่ได้รับรหัสวิทยุความถี่ที่เหมาะสม.
ถ้าคุณมีรถที่มาพร้อมกับพิเศษ "กุญแจรถ" ทำให้เคลื่อนที่อาจปิดปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงถ้ารถจะเริ่มต้น โดยไม่มีรหัส นี้หมายถึงรถจะไปทำงานเฉพาะในสิ่งที่น้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ในท่อน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งจะได้รับมันสองสามช่วงตึกจึงนำรถไปจอดที่สำคัญ - Parkers นำรถไปจอดจะต้องขับรถในระยะทางที่สั้นมาก ถ้าพวกเขาพยายามที่จะขับรถออกไปกับรถของพวกเขาจะไม่ได้ไกลมาก จะไม่อื่น ๆ ที่ขโมยรถที่มีศักยภาพ.
ระบบ rfid ช่วงต้นทั้งสองรายการ keyless (อุปกรณ์โกงกุญแจด้วยปุ่มกดเพื่อปลดล็อครถ) และ immobilizers รถที่ใช้การเข้ารหัส 32 บิต นั่นหมายความว่าพวกเขาส่งรหัสจาก 32 แรงกระตุ้นกับ 32 บิตในรหัสที่มีพันล้านชุดที่เป็นไปได้ [ที่มา: หิน] ในโครงการใหม่รวมทั้งการเริ่มระยะไกลที่ช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นรถด้วยการกดปุ่มที่มีรหัส 40 บิตซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ ด้วยรหัสที่เป็นไปได้มากเพื่อให้ระบบที่ดูเหมือนว่าไม่สามารถเอาชนะ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1997 ฟอร์ดมอเตอร์ จำกัดพร้อมมัสแตงของจุดระเบิด immobilizers แรกของ RFID ในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐ ระดับการโจรกรรมในมัสแตงลดลง 70 เปอร์เซ็นต์ทันทีจากเพียงสองปีก่อน [แหล่งที่มา: หิน] ผลได้สวยงาม และสวยมากทุกอื่น ๆ carmaker ตามชุดการ
วันนี้ อุตสาหกรรม RFID (คลื่นความถี่วิทยุรหัส) อ้างว่า ลด 90 เปอร์เซ็นต์ราคาถูกขโมยรถรุ่นอย่า RFID, immobilizers และระบบรายการ [แหล่งที่มา: Vamosi] Automakers ทั้งบริษัทประกันเลื่อมใสเต็มอุปกรณ์ แม้จะเป็นป้ายนั่งจน และแน่นอน เทคโนโลยี การแสดงผลที่น่าประทับใจของนวัตกรรมความปลอดภัย
RFID อาศัยสัญญาณความถี่วิทยุเพื่อสร้างระบบที่ ปีหลายครั้งแรกก็ใช้ uncrackable แน่นอน ในปี 1990 ขโมยรถหลายถูก thwarted โดยแห่ง immobilizers RFID กับคีย์ทางกายภาพปกติเก่าค่อนข้างสดใส Immobilizer การ RFID ชิพที่ฝังอยู่ในส่วนบนของคีย์การจุดระเบิดได้ ชิพนี้ส่งสตริงเข้ารหัสของสัญญาณความถี่วิทยุ โดยทั่วไปมีจำนวนแรงกระตุ้นการออกอากาศบนคลื่นความถี่วิทยุต่าง ๆ เพื่อสร้างรหัสเฉพาะ เมื่อไดรเวอร์แทรกในช่องคีย์การจุดระเบิด ไม่ มีรหัสนี้ รถไม่ทำงาน หรือไม่เรียกใช้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นแม้ถ้าคน hotwires รถ หรือคัดลอกคีย์การจุดระเบิด การจุดระเบิดไม่ทำงานเนื่องจากไม่ได้รับรหัสความถี่วิทยุที่เหมาะสม
ถ้าคุณมีรถยนต์ที่มาพร้อมกับพิเศษ "บริการคีย์" immobilizer ที่อาจปิดปั๊มน้ำมันถ้ารถเริ่มต้น โดยไม่มีรหัส ซึ่งหมายความว่า รถยนต์จะทำงานเฉพาะบนเชื้อเพลิงสิ่งที่เหลือในบรรทัดน้ำมัน ซึ่งจะได้รับก็ไม่กี่บล็อก ดังนั้น คีย์บริการ - parkers บริการเฉพาะได้ขับระยะทางสั้น ๆ เป็นรถ ถ้าพวกเขาพยายามขับออก ด้วยรถของคุณ พวกเขาจะไม่ได้ไกล ไม่จะใด ๆ อื่น ๆ เป็นรถขโมย.
ระบบ RFID ต้น ทั้งรีโมทคอนโทรล (อุปกรณ์ fob คีย์กับปุ่มที่คุณกดเพื่อปลดล็อกรถ) และยานพาหนะ immobilizers เข้ารหัสแบบ 32 บิตใช้ นั่นหมายความว่า พวกเขาส่งรหัสของแรงกระตุ้น 32 มี 32 บิตในรหัส มีพันชุดสุด [แหล่งที่มา: หิน] ในรูปแบบใหม่ รวมทั้งอย่าไกลที่ช่วยให้คุณเริ่มการทำงานของรถยนต์ ด้วยการกดปุ่ม รหัสมี 40 บิต ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น มีหลายรหัสได้ ระบบดูโทรทัศน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1997 Ford Motor Co .,จัดให้บริการ Mustang Engineering ที่พร้อมด้วยหนึ่งใน immobilizers สตาร์ท RFID เป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ ระดับการโจรกรรมสำหรับ Mustang Engineering ทันทีลดลงร้อยละ 70 จากเพียงสองปีก่อน[แหล่งหิน] ผลการค้นหาที่งดงามจนแทบต้องตกตะลึงและมีจำนวนมากทุกปรุงปักกิ่งเพื่อขยายธุรกิจโทรศัพท์มือถืออื่นๆตามความเหมาะสม.
ในวันนี้สาย RFID ( Radio Frequency Identification )อุตสาหกรรมที่อ้างว่าการลดลงเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ 90 ในอัตราการโจรกรรมรถยนต์ในการจัดให้บริการด้วยระบบและการเข้าชมอาหารเรียกน้ำย่อย immobilizers RFID [แหล่งที่มา vamosi ] บริษัทประกัน ภัย และรถยนต์ทั้งสองมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในอุปกรณ์ที่อาจจะไปไกลถึงฉลากให้ซึ่งไม่มีที่ใดจะเสมอเหมือน และแน่นอนว่าเทคโนโลยีที่มีการแสดงผลที่น่าประทับใจของนวัตกรรมด้านความ ปลอดภัย .
RFID จะขึ้นอยู่กับสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุเพื่อสร้างระบบที่หลายปีแรกที่ใช้งานอยู่ถูก uncrackable จริงๆ ในช่วงปีทศวรรษที่ 1990 s จำนวนมากที่ขโมยรถมาสอบปากคำด้วยนอกจากนี้ยังสดใสมากของ immobilizers RFID เพื่อปุ่มทาง กายภาพ เก่าอย่างสม่ำเสมอ Immobilizer RFID เป็นชิปที่ฝังอยู่ในส่วนพื้นที่ด้านบนสุดของประกายไฟที่ปุ่มชิปนี้จะส่งออกจากสตริงที่เข้ารหัสของสัญญาณวิทยุ - ความถี่โดยพื้นฐานแล้วจำนวนหนึ่งของแรงกระตุ้นและความถี่วิทยุที่หลากหลายเพื่อสร้างรหัสเฉพาะเมื่อแทรกพนักงานขับรถที่เข้าไปในช่องสตาร์ท - ปุ่ม โดยไม่ต้องใช้โค้ดนี้รถที่ทั้งจะไม่เริ่มหรือไม่เปิดใช้งานที่ปั๊มน้ำมัน ดังนั้นแม้ใครบางคน hotwires สำเนาหรือรถที่สตาร์ทคีย์สวิตช์สตาร์ทไม่ได้กำลังไปทำงานเพราะมันไม่ได้มีได้รับรหัสวิทยุความถี่ที่เหมาะสม.
หากคุณมีรถยนต์ที่มาพร้อมกับพิเศษ"พนักงานรับใช้ที่ปุ่ม" Immobilizer ที่อาจจะปิดตัวเองลงไปที่ปั๊มน้ำมันที่หากรถที่จะเริ่มได้โดยไม่ต้องใช้โค้ด ซึ่งหมายความว่ารถที่จะใช้งานกับน้ำมันไม่ว่าจะอยู่ในสายน้ำมันซึ่งจะได้รับและอีกสองช่วงตึกเท่านั้นดังนั้นบริการพนักงานรับใช้ปุ่มของโดโรธีปาร์คเกอร์หาอ่านได้พนักงานรับใช้ได้เพียงระยะไกลมีการขับรถในระยะทางสั้นๆเพื่อไปเป็นอย่างมากรถ หากพวกเขาพยายามที่จะขับรถไปกับรถของคุณจะไม่ได้รับเป็นอย่างมากไปไกล ระบบจะไม่ขโมยรถยนต์มี ศักยภาพ อื่นๆ.
ช่วงต้น RFID เข้าระบบ KEYLESS (อุปกรณ์แบบพกพาที่มีปุ่มที่คุณกดปุ่มเพื่อปลดล็อครถ)และ immobilizers รถใช้การเข้ารหัส 32 บิต ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะส่งรหัส 32 ตัวพร้อมด้วย 32 บิตในรหัสที่มีอยู่ในเท่าที่เป็นไปได้การรวมตัวกันหลายพันล้าน[แหล่งหิน] ในโครงสร้างใหม่รวมถึงอาหารเรียกน้ำย่อยอาหารรีโมทคอนโทรลที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นรถที่มีการกดปุ่มรหัสที่มี 40 บิตซึ่งจะเพิ่มความเป็นไปได้ พร้อมด้วยดังนั้นจึงเป็นไปได้หลายระบบรหัสที่ดูเหมือนจะไม่มีที่ใดจะเสมอเหมือน.