Previous research has shown a link

Previous research has shown a link between chronic noise exposure and reading skills. Elementary school-age
children are thought to be negatively a¡ected by such exposure. A limited amount of work has been done on
the e¡ects of chronic noise on pre-school children, and such work has primarily focused on attentional skills.
A cohort model was used in this study to examine the e¡ects of chronic noise on pre-school children's prereading
skills. All of the children attended the same child care center. Ninety 4 and 5-year-old children were
tested on cognitive measures of pre-reading skills and were rated by classroom teachers on their understanding
and use of language. Children were tested in year one, before sound attenuation work in the classrooms,
and in year two, after the installation of sound absorbent panels. In the quieter condition, children scored
higher than their noisier cohort on the letter^number^word recognition measure and were rated higher by
their teachers on the language scale. In addition, children in the quieter classrooms were less susceptible than
those in the noisy classrooms to induced helplessness.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงการเชื่อมโยงระหว่างเรื้อรังเสียงแสงและทักษะการอ่าน ประถมศึกษาอายุเด็กมีความคิดในเชิงลบจะ a¡ected โดยแสงดังกล่าว มีการดำเนินงานในจำนวนที่จำกัดบนe¡ects เสียงเรื้อรังในเด็กเตรียมประถม และงานดังกล่าวได้เน้นหลักในทักษะนี้แบบจำลองศึกษาใช้ในการศึกษานี้การตรวจสอบ e¡ects ของเสียงเรื้อรังในเด็กเตรียมประถม prereadingทักษะ ทั้งหมดของเด็กเข้าร่วมศูนย์การดูแลเด็กคนเดียวกัน 4 เก้าสิบและเด็ก 5 ปีทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจของทักษะการอ่านก่อน และที่ได้รับคะแนน โดยอาจารย์ตามความเข้าใจของพวกเขาและการใช้ภาษา ทดสอบเด็กในปีหนึ่ง ก่อนที่จะทำการลดทอนเสียงในห้องเรียนและ ในปีสอง การติดตั้งของแผงดูดซับเสียง ในสภาพที่เงียบ เด็กทำประตูสูงกว่าการศึกษา noisier บนจดหมาย ^ เลข ^ คำวัดการรับรู้ และได้รับคะแนนสูงโดยครูผู้สอนในระดับภาษา นอกจากนี้ เด็กในห้องเรียนเงียบมีอ่อนแอน้อยกว่าผู้ที่อยู่ในห้องเรียนเสียงดังจะทำอะไรไม่ถูกชักนำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการสัมผัสเสียงเรื้อรังและทักษะการอ่าน ประถมวัย
เด็กมีความคิดที่จะa¡ectedในเชิงลบจากการสัมผัสเช่น จำนวน จำกัด ของการทำงานที่ได้รับการทำใน
e¡ectsของเสียงเรื้อรังในเด็กก่อนวัยเรียนและการทำงานดังกล่าวได้มุ่งเน้นไปที่ทักษะตั้งใจ
รูปแบบการศึกษาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เพื่อตรวจสอบe¡ectsของเสียงเรื้อรังในเด็กก่อนวัยเรียนของ prereading
ทักษะ ทั้งหมดของเด็กที่เข้าเรียนที่ศูนย์ดูแลเด็กเดียวกัน เก้าสิบ 4 และ 5 ปีเด็กถูก
ทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการของทักษะก่อนการอ่านและการได้รับการจัดอันดับโดยครูผู้สอนในชั้นเรียนกับความเข้าใจของพวกเขา
และการใช้ภาษา เด็กถูกทดสอบในหนึ่งปีก่อนที่จะทำงานในการลดทอนเสียงห้องเรียน
และในปีสอง หลังจากการติดตั้งแผงเซลล์ดูดซับเสียง
อยู่ในสภาพที่เงียบสงบเด็กทำคะแนนได้ สูงกว่าการศึกษาของพวกเขาน่าดูที่ตัวอักษร ^ ^ จำนวนวัดที่ได้รับการยอมรับคำและได้รับการจัดอันดับที่สูงขึ้นโดย
ครูของพวกเขาโยภาษา นอกจากนี้เด็กในห้องเรียนที่เงียบสงบมีความไวน้อยกว่า
ผู้ที่อยู่ในห้องเรียนที่มีเสียงดังจะทำอะไรไม่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นการเชื่อมโยงระหว่างการสัมผัสเสียงดังเรื้อรังและทักษะการอ่าน โรงเรียนประถมในวัยเรียนเด็กจะคิดว่าเป็นลบเป็น¡ประมวลด้วยเช่นการเปิดรับแสง จำกัดจำนวนงานที่ได้ทำในอี¡ผลของสัญญาณรบกวนเรื้อรังในเด็กก่อนวัยเรียน และงานนั้นมีหลักเน้นทักษะความสนใจ .เป็นแบบจำลองที่ใช้ในการศึกษานี้ได้ศึกษาเพื่อตรวจสอบ e ¡ผลของสัญญาณรบกวนเรื้อรังในเด็กก่อนวัยเรียน prereadingทักษะ ทั้งหมดของเด็กที่เข้าร่วมในศูนย์ดูแลเด็กเหมือนกัน 90 4 และเด็กอายุ 5 ปีทดสอบวัดความรู้ทักษะการอ่านก่อนและถูกจัดอันดับโดยครูในความเข้าใจของตนเองและการใช้ภาษา เด็กทดสอบในปีหนึ่ง ก่อนทำงานการลดทอนเสียงในห้องเรียนและสองปีหลังจากการติดตั้งแผงดูดซับเสียง ในที่เงียบสงบสภาพเด็กคะแนนสูงกว่า noisier เพื่อนร่วมงานในจดหมายเลข ^ ^ และการรู้คำศัพท์วัดอยู่สูงโดยครูของพวกเขาในภาษาระดับ นอกจากนี้เด็กในชั้นเรียนน้อยอ่อนแอกว่า เงียบกว่าใน ห้องเรียน เสียงและหมดหนทาง .