opportunity to analyse events that

opportunity to analyse events that they encounter in daily life, but also become more aware of the connection between chemistry/science and their daily lives (TPSI
1991). The students are thereby able to become more actively involved in their own learning processes (Stolk et al. 2009a, b). In these projects, contexts that are the
starting points for the development of scientific under-standing (Bennett et al.2005) are introduced to the students in order to excite their curiosity (Stolk et al.2009a, b). The students are required to induce meanings by using contexts; thus, they justify a ‘need-to-know’ approach to content. Once the students perceive the importance and relevance of the material, their enthusiasm towards science/chemistry is boosted (Barker and Millar1999, 2000; Belt et al. 2005; Potter and Overton2006). Context-based courses improve student engagement in learning chemistry, and help them to acquire a better understanding of their environment (Bennett and Lubben 2006).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โอกาสในการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่พวกเขาพบในชีวิตประจำวัน แต่ยัง เป็นการตระหนักถึงการเชื่อมต่อระหว่างเคมี/วิทยาศาสตร์และชีวิตประจำวัน (TPSI1991) เรียนอยู่จึงจะขันมากขึ้นในกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง (Stolk et al. 2009a, b) ในโครงการเหล่านี้ บริบทที่มีการเริ่มต้นจุดสำหรับการพัฒนาของวิทยาศาสตร์น้อย (เบนเนต et al.2005) แนะนำให้นักเรียนเพื่อกระตุ้นความอยากรู้ของพวกเขา (Stolk et al.2009a, b) นักเรียนจะต้องก่อให้เกิดความหมายโดยบริบท ดังนั้น พวกเขาจัดวิธีการ 'ต้องรู้' เนื้อหา เมื่อนักเรียนสังเกตความสำคัญและความเกี่ยวข้องของวัสดุ ความกระตือรือร้นของพวกเขาต่อวิทยาศาสตร์/เคมีจะเพิ่มขึ้น (บาร์คเกอร์และ Millar1999, 2000 เข็มขัด et al. 2005 พอตเตอร์และ Overton2006) เนื้อหาตามหลักสูตรปรับปรุงหมั้นนักเรียนเคมี และช่วยให้พวกเขาได้รับการเข้าใจสภาพแวดล้อมของพวกเขา (เบนเนตและ Lubben 2006)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โอกาสที่จะวิเคราะห์เหตุการณ์ที่พวกเขาพบในชีวิตประจำวัน แต่ยังมากขึ้นตระหนักถึงการเชื่อมต่อระหว่างเคมีวิทยาศาสตร์ / และชีวิตประจำวันของพวกเขา (TPSI
1,991) นักเรียนจึงมีความสามารถที่จะกลายเป็นส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ของตนเอง (Stolk et al. 2009A b) ในโครงการเหล่านี้บริบทที่มี
จุดเริ่มต้นสำหรับการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ภายใต้การยืน (เบนเน็ตต์และ al.2005) ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับนักศึกษาเพื่อที่จะกระตุ้นความอยากรู้ของพวกเขา (Stolk และ al.2009a b) นักเรียนจะต้องทำให้เกิดความหมายโดยใช้บริบท; ดังนั้นพวกเขาแสดงให้เห็นถึง 'จำเป็นต้องไปรู้' วิธีการไปที่เนื้อหา เมื่อนักเรียนรับรู้ถึงความสำคัญและความเกี่ยวข้องของวัสดุที่กระตือรือร้นของพวกเขาต่อวิทยาศาสตร์ / เคมีจะเพิ่มขึ้น (บาร์เกอร์และ Millar1999 2000; เข็มขัด, et al. 2005; พอตเตอร์และ Overton2006) หลักสูตรตามบริบทปรับปรุงความผูกพันของนักเรียนในการเรียนรู้วิชาเคมีและช่วยให้พวกเขาที่จะได้รับความเข้าใจที่ดีขึ้นของสภาพแวดล้อมของพวกเขา (เบนเน็ตต์และ Lubben 2006)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โอกาสที่จะวิเคราะห์เหตุการณ์ที่พวกเขาพบในชีวิตประจําวัน แต่ยังกลายเป็นมากขึ้นตระหนักถึงการเชื่อมต่อระหว่างเคมีและชีวิตประจำวัน / วิทยาศาสตร์ ( tpsi
1991 ) นักเรียนจึงสามารถที่จะกลายเป็นส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกระบวนการการเรียนรู้ของตนเอง ( สโตล์ก et al . 2009a , B ) ในโครงการเหล่านี้ บริบทที่
จุดเริ่มต้นสำหรับการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ภายใต้การยืน ( Bennett et al . 2005 ) จะแนะนำให้นักเรียน เพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขา ( สโตล์ก et al.2009a , B ) นักเรียนจะต้องก่อให้เกิดความหมายโดยใช้บริบท ดังนั้น พวกเขาปรับ ' ต้องรู้ ' วิธีเนื้อหา เมื่อนักเรียนเห็นความสำคัญและความเกี่ยวข้องของวัสดุความกระตือรือร้นของพวกเขาต่อวิทยาศาสตร์ / เคมี จะเพิ่มขึ้น และ millar1999 ( Barker , 2000 ; เข็มขัด et al . 2005 ; พอตเตอร์และ overton2006 ) บริบทพื้นฐานหลักสูตรปรับปรุงการมีส่วนร่วมของนักศึกษาในการเรียนเคมี และช่วยให้พวกเขาที่จะได้รับความเข้าใจที่ดีขึ้นของสภาพแวดล้อมของพวกเขา ( เบนเน็ตต์ และลูบเบ่น 2006 )