Binge drinking, a form of excessive

Binge drinking, a form of excessive alcohol consumption, is a behavior most common among college students worldwide. Past research has shown this practice to have many negative consequences as well as changing fads and trends. Objective. The purpose of this study was to assess the individual and environmental characteristics that affect excessive alcohol consumption behaviors and trends through the framework of the Theory of Planned Behavior. Participants. A total of 445 undergraduate students from the University of Wisconsin-La Crosse participated in the study in March-April of 2014. Participants completed surveys consisting of demographic items as well as items related to alcohol consumption, Theory of Planned Behavior constructs, self-efficacy, and social belonging. Methods. Data were analyzed using logistic regression and analysis of variance. Results. Results indicated a significant correlation between binge drinking and subjective norm, positive attitude, self-efficacy, and behavioral intention to binge drink. Conclusions. Future binge drinking interventions should target 21-22-year-old college students through strategies related to changing perceptions regarding social approval and expectations, attitudes toward binge drinking, and intentions to binge drink.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดื่ม แบบฟอร์มปริมาณแอลกอฮอล์มากเกินไป การดื่มสุราเป็นพฤติกรรมที่พบมากที่สุดในหมู่นักเรียนทั่วโลก งานวิจัยได้แสดงแบบฝึกหัดนี้ให้มีผลกระทบเชิงลบมากเป็น fads และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างดี วัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ ประเมินลักษณะของแต่ละคน และสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปและแนวโน้มตามกรอบของทฤษฎีของการวางแผนลักษณะการทำงาน ผู้เข้าร่วม จำนวน 445 ระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-La Crosse เข้าร่วมในการศึกษาในเดือนมีนาคมเมษายนปี 2557 ผู้เรียนสมบูรณ์แบบสำรวจประกอบด้วยประชากรสินค้าเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ ทฤษฎีของการวางแผนการทำงานโครงสร้าง ประสิทธิภาพตนเอง และเป็นสมาชิกของสังคม วิธี มีวิเคราะห์ข้อมูลใช้การถดถอยโลจิสติกและการวิเคราะห์ผลต่างของ ผลลัพธ์ที่ ผลแสดงความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างดื่มสุราดื่มปกติตามอัตวิสัย ทัศนคติบวก ประสิทธิภาพตนเอง และตั้งใจพฤติกรรมการดื่มสุรายาเมา บทสรุปของการ ในอนาคตดื่มสุราดื่มรักษาควรเป้าหมาย 21-22-ปีวิทยาลัยนักเรียนผ่านกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนภาพลักษณ์เกี่ยวกับการอนุมัติทางสังคม และความคาดหวัง เจตคติดื่มดื่มสุรา และความตั้งใจการดื่มสุราเครื่องดื่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดื่มเหล้าเมามายรูปแบบของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเป็นพฤติกรรมที่พบมากที่สุดในหมู่นักศึกษาทั่วโลก การวิจัยที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นการปฏิบัติที่จะมีผลกระทบเชิงลบจำนวนมากเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มแฟชั่นนี้ วัตถุประสงค์ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการประเมินลักษณะของแต่ละบุคคลและสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปและแนวโน้มผ่านกรอบของทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนนั้น ผู้เข้าร่วมกิจกรรม รวมเป็น 445 นักศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซินลาครอสมีส่วนร่วมในการศึกษาในเดือนมีนาคมเดือนเมษายนของปี 2014 ผู้เข้าร่วมการสำรวจเสร็จสมบูรณ์ประกอบด้วยรายการที่กลุ่มผู้เข้าชมเช่นเดียวกับรายการที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนสร้างประสิทธิภาพในตนเอง และสังคมที่เป็น วิธีการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การถดถอยโลจิสติกและการวิเคราะห์ความแปรปรวน ผล. ผลการศึกษาพบความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างการดื่มเหล้าเมามายและบรรทัดฐานอัตนัยทัศนคติเชิงบวก, การรับรู้ความสามารถของตนเองและความตั้งใจพฤติกรรมการดื่มสุราเครื่องดื่ม สรุปผลการวิจัย การแทรกแซงการดื่มการดื่มสุราในอนาคตควรกำหนดเป้​​าหมายนักศึกษา 21-22 ปีผ่านกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้เกี่ยวกับการอนุมัติการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความคาดหวังทัศนคติดื่มเหล้าเมามายและความตั้งใจที่จะดื่มเหล้าเมามาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การดื่มสุรามากเกินไป รูปแบบของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป เป็นพฤติกรรมที่พบมากที่สุดในหมู่นักศึกษาทั่วโลก การวิจัยที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า การปฏิบัตินี้จะให้ผลลบมากมาย เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลง fads และแนวโน้ม วัตถุประสงค์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะส่วนบุคคลและสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไปและแนวโน้มผ่านกรอบของทฤษฎีพฤติกรรมตามแผน ผู้เข้าร่วม รวม 445 นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ลาครอสส์ที่เข้าร่วมในการศึกษาในเดือนมีนาคมเมษายน 2014ผู้ผ่านการสำรวจประกอบด้วยรายการส่วนบุคคล ตลอดจนสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนโครงสร้าง การรับรู้ความสามารถของตนเอง และเป็นส่วนหนึ่งของสังคม . วิธีการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การถดถอยโลจิสติกและการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลลัพธ์ ผลการศึกษาพบความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มสุราและบรรทัดฐาน , อัตนัยทัศนคติ การรับรู้ความสามารถของตนเองที่เป็นบวกและเจตนาเชิงพฤติกรรมการดื่ม สรุป การดื่มสุราหรือดื่มในอนาคตควรเป้าหมาย 21-22-year-old นักศึกษาผ่านทางกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงการรับรู้เกี่ยวกับการอนุมัติของสังคมและความคาดหวัง เจตคติต่อการดื่ม และความตั้งใจในการดื่ม