Model-Driven Development and UML Pr

Model-Driven Development and UML Profile
As mentioned previously, the model-driven development
concept, like MDA [1], can be used to generate software code
from the models. The development team can respond to
business requirements by first building a software model, e.g.
in UML, at the functional PIM level. This model can be
transformed into lower level models, i.e. the PSM level and
code level respectively, by using transformation tools that
recognize transformation rules. These rules define mapping
between the metamodels that are used to build the models at
the two consecutive levels. In this research, the UML profile
[5] is used to extend the UML metamodel to create a platform
specific metamodel for building PSM-level models. A UML
profile allows a definition of stereotypes (as specific
metaclasses denoted by >), tagged values (as specific
metaattributes), and constraints, which altogether are used to

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พัฒนาแบบโมเดลและรายละเอียดของ UMLตามที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ การพัฒนารูปแบบการขับเคลื่อนสามารถใช้เพื่อสร้างรหัสซอฟต์แวร์แนวคิด เช่น MDA [1],จากแบบจำลอง ทีมพัฒนาสามารถตอบสนองต่อการทำธุรกิจ โดยครั้งแรกสร้างแบบจำลองซอฟต์แวร์ เช่นใน UML ที่ระดับการพิมพ์ทำงาน รุ่นนี้สามารถเปลี่ยนเป็นรุ่นระดับล่าง เช่นระดับราคา/ตร.ม. และระดับรหัสตามลำดับ โดยใช้การแปลงเครื่องมือที่รู้จักกฎการแปลง กฎเหล่านี้กำหนดการแม็ปการระหว่าง metamodels ที่ใช้ในการสร้างแบบจำลองที่ระดับสองติดต่อกัน ในการวิจัยครั้งนี้ โปรไฟล์ UML[5] ใช้เพื่อขยาย UML metamodel เพื่อสร้างสรรค์เฉพาะ metamodel สำหรับการสร้างแบบจำลองระดับ PSM ใน UMLโพรไฟล์ช่วยให้คำนิยามของตน (ตามที่ระบุmetaclasses เขียนแทน ด้วย <><>), ติดแท็กค่า (โดยเฉพาะmetaattributes), และข้อ จำกัด ซึ่งทั้งหมด ถูกนำมาใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แบบขับเคลื่อนการพัฒนาและการ UML รายละเอียด
ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้การพัฒนาแบบขับเคลื่อน
แนวคิดเช่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ [1] สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างรหัสซอฟต์แวร์
จากแบบจำลอง ทีมพัฒนาสามารถตอบสนองต่อ
ความต้องการทางธุรกิจครั้งแรกโดยการสร้างรูปแบบซอฟแวร์เช่น
ใน UML ในระดับ PIM ทำงาน รุ่นนี้สามารถ
เปลี่ยนเป็นรุ่นที่ต่ำกว่าระดับเช่นระดับ PSM และ
รหัสระดับตามลำดับโดยใช้เครื่องมือการเปลี่ยนแปลงที่
รับรู้การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ กฎเหล่านี้จะกำหนดทำแผนที่
ระหว่าง metamodels ที่ใช้ในการสร้างแบบจำลองที่
สองระดับต่อเนื่อง ในงานวิจัยนี้รายละเอียด UML
[5] จะใช้ในการขยาย metamodel UML ในการสร้างแพลตฟอร์ม
metamodel ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการสร้างแบบจำลอง PSM ระดับ UML
รายละเอียดช่วยให้ความหมายของแบบแผน (ตามที่ระบุ
metaclasses แสดงโดย << >>) ค่าติดแท็ก (เป็นเฉพาะ
metaattributes) และข้อ จำกัด ซึ่งทั้งหมดจะใช้ในการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลักดันการพัฒนาแบบจำลอง UML และโปรไฟล์ตามที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ผลักดันการพัฒนาแบบจำลองแนวคิดเช่น MDA [ 1 ] สามารถใช้ในการสร้างโค้ดซอฟต์แวร์จากรุ่น ทีมพัฒนาที่สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจโดยการสร้างซอฟต์แวร์แบบแรก เช่นใน UML , ที่ฟังก์ชั่น PIM ) รุ่นนี้สามารถแปลงเป็นรุ่นระดับล่าง คือ ระดับ PSM และระดับรหัสตามลำดับ โดยใช้เครื่องมือที่แปลงจำกฎของการเปลี่ยนแปลง กฎเหล่านี้กำหนดแผนที่ระหว่าง metamodels ที่ใช้ในการสร้างรุ่นที่2 ) ระดับ ในงานวิจัยนี้ ศึกษา UML โปรไฟล์[ 5 ] ใช้ขยาย metamodel UML เพื่อสร้างแพลตฟอร์มmetamodel เฉพาะอาคาร PSM ระดับนางแบบ เป็นคัมภีร์รายละเอียดช่วยให้ความหมายของแบบแผน ( เฉพาะmetaclasses แทน โดย < < > > ) ( เฉพาะค่าแท็กmetaattributes ) และข้อจำกัด ซึ่งทั้งหมดจะใช้