Multiculturalism occurs naturally w

Multiculturalism occurs naturally when a society is willing to accept the culture of immigrants (with, ideally, immigrants also willing to accept the culture of the land to which they have come). A distinction should be drawn between multiculturalism that occurs simply due to the absence of a single enforced culture, and multiculturalism which is endorsed and actively encouraged by the government; this is often referred to as state multiculturalism.
Kenan Malik states that "The experience of living in a society transformed by mass immigration, a society that is less insular, more vibrant and more cosmopolitan, is positive" but contrasts this with the political process of multiculturalism, which "describes a set of policies, the aim of which is to manage diversity by putting people into ethnic boxes, defining individual needs and rights by virtue of the boxes into which people are put, and using those boxes to shape public policy."[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รู้สึกเกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อสังคมยินดียอมรับวัฒนธรรมของผู้อพยพ (ที่มี ระดับ ผู้อพยพยังยินดีที่ยอมรับวัฒนธรรมของแผ่นดินที่พวกเขาได้มา) ควรวาดแตกต่างระหว่างรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการขาดการบังคับใช้วัฒนธรรมเดียว และรู้สึกซึ่งได้รับการรับรอง และได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขัน โดยรัฐบาล นี้มักจะเรียกว่ารัฐรู้สึกมาลิคีระบุว่า "เปลี่ยนประสบการณ์ของการอยู่ในสังคม โดยมวลตรวจคนเข้าเมือง สังคมที่โดดเดี่ยวน้อย สดใสมากขึ้น และความเป็นสากลมากขึ้น เป็นบวก" แต่ความแตกต่างนี้ในกระบวนการทางการเมืองความรู้สึก ซึ่ง "อธิบายชุดของนโยบาย จุดมุ่งหมายที่จะจัดการความหลากหลาย โดยนำท่านเข้าสู่กล่องชาติพันธุ์ การกำหนดความต้องการและสิทธิอานิสงส์ที่ท่านใส่กล่อง และใช้กล่องเหล่านั้นจะร่างนโยบายสาธารณะ " [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัฒนธรรมหลากหลายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อสังคมก็เต็มใจที่จะยอมรับวัฒนธรรมของผู้อพยพ (กับความนึกคิดอพยพยังเต็มใจที่จะยอมรับวัฒนธรรมของดินแดนที่พวกเขาได้มา) ความแตกต่างควรจะวาดระหว่างความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นเพียงเพราะขาดวัฒนธรรมการบังคับใช้เพียงครั้งเดียวและความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ได้รับการรับรองและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างแข็งขัน; นี้มักจะเรียกว่าเป็นความหลากหลายทางวัฒนธรรมของรัฐ.
คีนันมาลิกกล่าวว่า "ประสบการณ์ของการใช้ชีวิตในสังคมเปลี่ยนโดยอพยพสังคมที่เป็นเกาะน้อยที่สดใสมากขึ้นและเป็นสากลมากขึ้นเป็นบวก" แต่ความขัดแย้งนี้กับกระบวนการทางการเมืองของ วัฒนธรรมหลากหลายซึ่ง "อธิบายชุดนโยบายที่มีจุดมุ่งหมายในการที่จะจัดการความหลากหลายโดยการวางคนลงในกล่องชาติพันธุ์การกำหนดความต้องการส่วนบุคคลและสิทธิโดยอาศัยอำนาจของกล่องเป็นที่คนจะใส่และการใช้กล่องที่การกำหนดนโยบายสาธารณะ "[1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การมีวัฒนธรรมหลากหลายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อสังคมยอมรับวัฒนธรรมของผู้อพยพด้วย ซึ่งอพยพยังเต็มใจที่จะยอมรับวัฒนธรรมของที่ดินที่พวกเขามา ) ความแตกต่างที่ควรจะวาดระหว่างวัฒนธรรมหลากหลายที่เกิดขึ้นก็เนื่องจากไม่มีเดียวมีวัฒนธรรม และหลากหลายวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากรัฐบาล นี้มักจะเรียกว่าเป็นรัฐพหุวัฒนธรรม .คีนัน มาลิค ระบุว่า " ประสบการณ์ของชีวิตในสังคมที่เปลี่ยนไป โดยสื่อมวลชน ตรวจคนเข้าเมือง สังคมที่โดดเดี่ยวน้อยลง สดใสมากขึ้น และเป็นสากลมากขึ้น เป็นบวก แต่ความแตกต่างนี้มีกระบวนการทางการเมืองของหลากหลายวัฒนธรรม ซึ่ง " อธิบายชุดของนโยบาย เป้าหมายซึ่งคือการจัดการความหลากหลายโดยการใส่คนเข้าไปในกล่อง ชาติพันธุ์ , การกำหนดความต้องการและสิทธิโดยอาศัยอำนาจของกล่องซึ่งเป็นคนใส่ และใช้กล่องเหล่านั้นเพื่อรูปร่างนโยบายสาธารณะ " [ 1 ]