จากรูปจะเป็นการติดตั้ง ปีกนกด้านบน

จากรูปจะเป็นการติดตั้ง ปีกนกด้านบน (Upper Control Arm) ด้านหนึ่งเกาะติดกับโครงรถด้วยแกนยึดกับโครงรถ อีกด้านหนึ่ง ยึดติดกับข้อบังคับเลี้ยวด้วยลูกหมาก (Ball Joint) และปีกนกด้านล่าง (Lower Control Arm) ก็จะยึดติดด้วยวิธีเดียวกัน ขณะเดียวกัน แกนบังคับเลี้ยวจากพวงมาลัย จะมายึดเกาะติดกับข้อบังคับเลี้ยว ตราบใดที่มีการหมุนพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวซ้ายหรือขวา แกนบังคับเลี้ยวนี้จะดึง-ดันข้อบังคับเลี้ยว ให้เปลี่ยนทิศทาง เมื่อข้อบังคับเลี้ยวเปลี่ยนทิศทาง ดุมล้อที่ยืดเกาะกับแกนบังคับเลี้ยว ก็จะเปลี่ยนทิศทางด้วย ทำให้ล้อเปลี่ยนทิศทางไปเช่นกัน (เพราะล้อยึดติดกับดุมล้อ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากรูปจะเป็นการติดตั้งปีกนกด้านบน (บนปีก) ด้านหนึ่งเกาะติดกับโครงรถด้วยแกนยึดกับโครงรถอีกด้านหนึ่งยึดติดกับข้อบังคับเลี้ยวด้วยลูกหมาก (ลูกหมาก) และปีกนกด้านล่าง (ปีกนกล่าง) ก็จะยึดติดด้วยวิธีเดียวกันขณะเดียวกันแกนบังคับเลี้ยวจากพวงมาลัยจะมายึดเกาะติดกับข้อบังคับเลี้ยวตราบใดที่มีการหมุนพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวซ้ายหรือขวาแกนบังคับเลี้ยวนี้จะดึงดันข้อบังคับเลี้ยวให้เปลี่ยนทิศทางเมื่อข้อบังคับเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางดุมล้อที่ยืดเกาะกับแกนบังคับเลี้ยวก็จะเปลี่ยนทิศทางด้วยทำให้ล้อเปลี่ยนทิศทางไปเช่นกัน (เพราะล้อยึดติดกับดุมล้อ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากรูปจะเป็นการติดตั้งปีกนกด้านบน (Upper ควบคุมแขน) อีกด้านหนึ่ง (Ball Joint) และปีกนกด้านล่าง (Lower Control Arm) ก็จะยึดติดด้วยวิธีเดียวกันขณะเดียวกันแกนบังคับเลี้ยวจากพวงมาลัยจะมายึดเกาะติดกับข้อบังคับเลี้ยว ให้เปลี่ยนทิศทางเมื่อข้อบังคับเลี้ยวเปลี่ยนทิศทาง ก็จะเปลี่ยนทิศทางด้วยทำให้ล้อเปลี่ยนทิศทางไปเช่นกัน (เพราะล้อยึดติดกับดุมล้อ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากรูปจะเป็นการติดตั้งปีกนกด้านบน ( การควบคุมแขน ) ด้านหนึ่งเกาะติดกับโครงรถด้วยแกนยึดกับโครงรถอีกด้านหนึ่งยึดติดกับข้อบังคับเลี้ยวด้วยลูกหมาก ( Ball Joint ) และปีกนกด้านล่าง ( ลดการควบคุมแขน ) ก็จะยึดติดด้วยวิธีเดียวกันแกนบังคับเลี้ยวจากพวงมาลัยจะมายึดเกาะติดกับข้อบังคับเลี้ยวตราบใดที่มีการหมุนพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวซ้ายหรือขวาแกนบังคับเลี้ยวนี้จะดึง - ดันข้อบังคับเลี้ยวให้เปลี่ยนทิศทางเมื่อข้อบังคับเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางก็จะเปลี่ยนทิศทางด้วยทำให้ล้อเปลี่ยนทิศทางไปเช่นกัน ( เพราะล้อยึดติดกับดุมล้อ )